MONO29 และ MONOMAX ชวนไขปริศนาเด็กหาย! ป๊อก ปิยธิดา สวมบทแม่สุดแกร่งใน พราก

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ไม่มีใครตอบได้ว่าเมื่อไหร่จะคลี่คลาย วิถีของการใช้ชีวิตของทุกคนจึงถูกปรับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง การ Work From Home ทำให้ผู้บริโภคอยู่บ้านมากขึ้น ธุรกิจโรงภาพยนตร์ถูกล็อคดาวน์ (Lock Down) ทำให้ธุรกิจทีวี และ วิดีโอออนดีมานด์ ได้รับความนิยมสูงขึ้น สถานีโทรทัศน์ช่อง MONO29 ฟรีทีวีที่มีหนังดีซีรีส์ดังมากที่สุด จึงเดินเกมรับด้วยคอนเซปต์ที่อิงไปกับมาตรการ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ MONO29 จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนคุณ อัดคอนเทนต์ หนังดีซีรีส์ดัง หลากหลายจากฮอลลีวูดมาออกอากาศครั้งแรกบนจอฟรีทีวี (Thailand Premiere) อาทิ John Wick, Riddick, Rampage ฯลฯ ซีรีส์ซีซั่นใหม่ Arrow ซีซั่น 7, Criminal Mind และซีรีส์สุดฮิตครองอันดับหนึ่งของจีนอย่าง ตงกง ตำนานรัก ตำหนักบูรพา (Goodbye My Princess) รวมทั้งเรื่องอื่นๆ อีกมากมายแน่นผังตลอดทั้งวัน

และแน่นอนว่าภาพยนตร์ไทยภายใต้การผลิตของ โมโน ออริจินอล (MONO Originals) ในเครือ โมโนกรุ๊ป (MONO Group) ก็ถูกวางให้เป็นหนึ่งในหนังที่พร้อมออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง MONO29 ต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน คู่ขนานไปกับแพลตฟอร์มในเครืออย่าง MONOMAX (โมโนแมกซ์) ผู้ให้บริการดูหนังออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ชมเช่นกัน

ประเดิมเรื่องแรกในวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค. 2563 เวลา 14.55 น. จัดเต็มความสนุกให้ผู้ชมได้ร่วมลุ้นระทึกไปกับเรื่องราวสะท้อนสังคมไทยที่ถูกละเลยในปัจจุบัน ผ่านภาพยนตร์ดราม่าระทึกขวัญเรื่อง พราก (STILL MISSING) ผลงานของ ปีเตอร์ นพชัย ที่รับหน้าที่กำกับฯ ควบคู่ไปกับการแสดงนำในบท ‘ชายโรคจิต’ ปะทะบทบาทกับนักแสดงคุณภาพ ป๊อก ปิยธิดา ในบทของ ‘แม่’ ที่ทำทุกวิถีทางที่จะไม่ยอมสูญเสียลูกไป ร่วมด้วย จั๊ก ชวิน, ป๋อมเเป๋ม นิติ, เอ๋ มณีรัตน์, อะปอม พีรพล, ถุงเเป้ง ภัทรวดี, เฟรย่า อีซัคซัน

พราก (STILL MISSING) เป็นเรื่องราวของแม่ ที่ลุยตามหาลูกสาวที่หายตัวไปในแบบที่กัดไม่ปล่อย ทั้งเเจ้งความ ออกรายการโทรทัศน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แจ้งมูลนิธิคนหาย และจ้างนักสืบ สารพัดวิธีเพื่อที่จะให้ได้เบาะแสมากที่สุด แม้ว่าตำรวจจะพบศพเด็กผู้หญิงถูกเผาไหม้ทั้งตัว พร้อมหลักฐานเศษเสื้อผ้าที่ระบุว่าใช่ และผลตรวจดีเอ็นเอที่ตรงกันถึง 95 เปอร์เซ็นต์ เเต่สัญชาตญาณของความเป็นแม่ เธอมั่นใจว่าลูกของเธอยังไม่ตาย เเละมุ่งมั่นออกตามหาต่อไปอย่างไม่ลดละ แล้วเธอก็เริ่มมีความหวังอีกครั้งพร้อมๆ กับการปรากฏตัวของชายโรคจิต รวมไปถึงการต่อสู้กับความจริงที่ปรากฏในแบบที่เธอเองก็ไม่คาดคิด

ที่มาที่ไปของการ สร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้เป็นอย่างไร ผู้ที่บอกกล่าวได้ดีที่สุดก็คือผู้กำกับฯ อย่าง ปีเตอร์ นพชัย นั่นเอง! พิสูจน์ให้ได้เห็นถึงความสามารถด้านการกำกับฯ มาแล้วจากซีรีส์ ตี๋ใหญ่ ดับดาวโจร, ตี๋ใหญ่ ดับเครื่องชน และ หัวใจและไกปืน วันนี้! ปีเตอร์ ขอท้าทายฝีมือตัวเองด้วยการควบหน้าที่ 2 บทบาท ทั้งกำกับเเละร่วมเเสดงนำในบทชายโรคจิต ที่เจ้าตัวถึงกับบอกว่าขอทำเป็นเรื่องแรกและเรื่องสุดท้าย

“เรื่องนี้มันแตกต่างจากผลงานที่ผ่านๆ มาก็คือร่วมแสดงด้วย ยอมรับว่าเหนื่อยมากครับ จนผมคิดว่าจะเป็นเรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายที่ผมจะเล่นเองและกำกับเอง จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว (หัวเราะ) ไม่คิดว่ามันจะหนักขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการเตรียมความคิด ในบทบาทผู้กำกับ และความหนักของร่างกายในฉากบู๊ หรือซีนอารมณ์ที่ต้องสื่อสารผ่านทางร่างกาย หลังจากเรื่องนี้ขอโฟกัสแค่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งพอครับ” ผู้กำกับฯ มาดเซอร์กล่าวอย่างอารมณ์ดีพร้อมเผยถึงที่มาของหนังเรื่องนี้ว่า

“เป็นการปรึกษาหาไอเดียร่วมกันกับ พี่ตั๊ก (นภัสรัญชน์), ผู้พันเบิร์ด (วันชนะ), พี่ป๊อก (ปิยธิดา) และทีมงานในบริษัท กลมกล่อม โปรดักชั่น จำกัด ว่า 3 เรื่องที่ผ่านมาจะแอคชั่นนำ มาถึงเรื่องนี้เน้นไปที่ความดราม่า แล้วก็คิดถึงสภาวะปัจจุบันว่ามีคนอยู่จำนวนหนึ่งที่มีบุตรยาก และต้องการจะมีลูก รวมไปถึงข่าวที่ตามหาเด็กหาย เลยเอามาผสมผสานกัน ซึ่งการหายตัวไปของเด็ก มีเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในนั้น ผูกเป็นเรื่องราวให้มีความเชื่อมโยงกันครับ

แนวหนังค่อนข้างระทึกขวัญ อารมณ์และความรู้สึกในช่วงแรกจะอบอุ่น ปลอดภัย เสื้อผ้าหน้าผมของครอบครัว พิจ (ป๊อก ปิยธิดา) ก็เลือกให้โทนสีเสื้อผ้าเสื้อผ้าดูสะอาดๆ สีขาวครีม พอช่วงหลังจากที่ลูกหายไป ตัวละครก็จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองตามสถานการณ์และความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร ส่วนเรื่องการแสดงไม่ห่วงเพราะนักแสดงทุกท่านระดับมืออาชีพ ในส่วนของบท ชายโรคจิต พื้นฐานเกิดจากได้รับความเจ็บปวดในวัยเด็ก ถูกกระทำโดยครอบครัว เขาจึงนำบาดเเผลนั้นมาทำผิดกับคนอื่น โดยที่ไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ผิด ความยากก็คือแสดงอารมณ์ผ่านทางร่างกาย

ส่วนที่ต้องปะทะกับ พี่ป๊อก มันเป็นการแอคชั่นที่เครียด ในขณะที่ผมไม่เคยเล่นแอ๊คชั่นกับผู้หญิงมาก่อนก็จะเหนื่อยหน่อย เพราะมันมีการดำเนินเรื่องที่ลุ้นอยู่ตลอดเวลา เรื่องนี้ความสนุกมันคือ ผู้ชมจะค่อยๆ รับรู้ถึงความรู้สึกและมิติต่างๆ ที่ตัวละครซ่อนไว้ ในท้ายที่สุดก็หวังว่าจะได้ประโยชน์จากการแสดงของพี่ป๊อก และอีก 3 นักแสดงอย่าง ป๋อมแป๋ม นิติ, เอ๋ มณีรัตน์, อะปอม พีรพล และอีกหลายๆ ท่านในเรื่องที่ร่วมกันสื่อสารออกมาและคลายปมปริศนาเด็กหายไปพร้อมๆ กันครับ

ด้านนักแสดงตัวแม่ ป๊อก ปิยธิดา กับบทบาทแม่ผู้มุ่งมั่นทำทุกวิถีทางที่จะได้ลูกคืนมากล่าวว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้จะสอนให้ทุกคนรู้ว่าการดูแลเด็กที่มากหรือน้อยจนเกินไป มันไม่ได้ทำให้เกิดผลดี และวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคืออะไร? การที่เรานำเสนอเรื่องราวของเด็กที่หายตัวไปอย่างปริศนา เพราะเปอร์เซ็นต์ของการหายตัวของเด็กในสังคมปัจจุบัน มีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน และมันไม่ได้หมายความว่า เด็กที่หายตัวไปนั้นถูกลักพาตัวไปอย่างเดียว แต่เขาอาจจะหายตัวไปด้วยความสมัครใจก็ได้

สำหรับการแสดงเรื่องนี้มันหนักตั้งแต่ช่วงที่ลูกหาย ในช่วงแรกๆ จะเป็นการดำเนินชีวิตแบบ ปกติ แต่ในความปกติก็จะมีความไม่ปกติที่คนดูพอจะรับรู้ได้ ว่าบางทีมันเยอะเกินไปหรือเปล่า ส่วนซีนที่ชอบมากที่สุดก็คือซีนที่ปะทะกับปีเตอร์ค่ะ นอกจากจะมีการเเอคชั่นแล้วก็มีเรื่องของอารมณ์ที่จะสื่อออกมาให้คนดูเห็นว่า ในความแม่ของ ‘พิจ’ ซึ่งไม่ใช่ผู้หญิงนักบู๊ แต่จำเป็นต้องไปเพื่อพิสูจน์ให้เห็นกับตาว่าลูกยังไม่ตาย แม้จะรู้ว่าเสี่ยงก็ตาม ซึ่งซีนนี้มันจะส่งผลให้กับตัวละครกลับไปฉุกคิดว่า ต้องอยู่กับความจริงสักที ส่วนการเข้าฉากกับปีเตอร์ไม่มีปัญหาเลยค่ะ เราเป็นพาสเนอร์ในการทำงานด้วยกันอยู่เเล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องการแสดงเป็นไปอย่างราบรื่น ทำให้เราขนลุกได้ในหลายๆ ซีน เขาแสดงได้เหมือนจริงมาก”

ลูกของเธอจะเป็นหนึ่งในเด็กที่ชายโรคจิตลักพาตัวมากักขังไว้แบบเหี้ยมโหดหรือไม่? ลูกของเธอจะยังมีชีวิตอยู่ หรือจากโลกนี้ไปแล้วจริงๆ ร่วมลุ้นระทึกไปกับการตามหาลูกของ ป๊อก ปิยธิดา ในบทบาทของแม่ผู้สูญเสียและทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ลูกคืนมาใน พราก (STILLMISSING) อากาศทางช่อง MONO29 และทางออนไลน์ที่ MONOMAX ในวัน อาทิตย์ ที่ 31พ.ค. 2563 เวลา 14.55 น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Copyright © 2016 MThai.com All rights reserved. หมายเลขทะเบียนการค้าอิเล็กทรอนิกส์ : 0127114707040