พร้อมลุยตลาดละครเต็มที่ สำหรับ “CHANGE2561” ซึ่งมีแม่ทัพ พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา นั่งเก้าอี้คุมบังเหียน ในฐานะบริษัทผู้ผลิตคอนเทนต์อิสระเข้าสู่ปีที่ 3 แต่ผลงานได้สะท้อนความเก๋าเกม ความเข้มข้นคุณภาพของเนื้อหา รวมถึงความหลากหลายของนักแสดงที่เข้ามาร่วมงาน สามารถมัดใจผู้ชมจนอยู่หมัด สร้างปรากฏการณ์ดึงเรตติ้งให้วิ่งฉิว มาเงียบ ๆ แต่เปรี้ยงทุกเรื่อง
เริ่มตั้งแต่ละครเรื่องแรกของ CHANGE2561 “เมียน้อย” ทางช่อง GMM25 ความแซ่บของเนื้อหาในเรื่องนี้ ส่งผลให้เรตติ้งวิ่งฉิ่ว ต่อด้วย“สามีสีทอง” ที่ขนนักแสดงคุณภาพทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่มาลงจอก็ได้รับกระแสดีดันเรตติ้งไพร์มไทม์อมรินทร์ทีวีเอชดีช่อง 34 พุ่งทะลุเป้า ส่วน “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” ทางช่อง ONE 31 ละครที่ผู้ชมตบมือรัวๆในความเข้มข้นของเนื้อเรื่องพร้อมทั้งฝีมือของเหล่านักแสดงที่ล่าสุดสำหรับละครเรื่องนี้ ได้คว้าถึง 2 รางวัล จากเวที #ThaiCrazyAwards2020 ที่สื่อและแฟนละครของจีนเทคะแนนโหวต คว้ารางวัล ซีรี่ส์ยอดเยี่ยมและ “ใบเฟิร์นพิมพ์ชนก” กับบท “นิรา” คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม #BestActress มาเป็นกำลังใจและล่าสุดละครเรื่อง“เนื้อใน”ออกอากาศทางช่อง GMM25 เมื่อต้นปีที่ผ่านมาความตรงไปตรงมาของเนื้อหาที่จัดว่าร้ายๆแรงๆแต่ถูกใจผู้ชมก็จบสวยๆด้วยเรตติ้งพุ่งอีกเรื่องส่วน CLUB FRIDAY THE SERIES ซีรี่ส์รักที่สร้างจากเรื่องจริงนับว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ครองใจผู้ชมมายาวนานถึงปีที่ 12 ของ เช้นจ์2561
และวันนี้ค่าย CHANGE2561 ได้จับมือ อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 อีกครั้งพร้อมจัดทัพเตรียมส่งละคร “เพลิงนาง”บทประพันธ์ของกฤษณา อโศกสินลงสู้ศึกแย่งชิงเรตติ้งในช่วงเวลาละครดี 4 ทุ่มสุดสัปดาห์พร้อมเปิดกล้องเดินหน้าถ่ายทำเร็วๆนี้
เรื่องราวของ พลับพลา สาวสวยนักเรียนนอกสุดเพอร์เฟคมากับความมั่นใจเกินร้อยทำให้เธอใช้ทุกอย่างที่เธอมีแก้ปมชีวิตในอดีตความรักของเธอร้อนแรงจนเผาไหม้ผู้ชายทั้ง 5 คนที่เข้ามาพัวพันจนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงความดราม่าของเนื้อหาที่จะแซ่บจนไฟลุกเมื่อบทของพลับพลาสาวผู้ร้อนแรงจะถูกถ่ายทอดโดยนางเอกตัวแม่พลอย – เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ที่จะมาพร้อมกับผู้ชายทั้ง 5 ได้แก่แซม ยุรนันท์, ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล, บิ๊ก ศรุต, อินดี้ อินทัช และ บุ๊ค พงษ์นิรันดร์ ร่วมด้วยนักแสดงคุณภาพอย่างหมู ดิลก, ตั๊ก มยุรา, อร อรอนงค์, ปูเป้ รามาวดี ฯลฯ การันตีได้เลยว่าลงจอเมื่อไหร่เรตติ้งวิ่งฉิวแน่เพราะแค่เปิดตัวจากภาพโปสเตอร์ที่มีพลอยสวมเดรสแดงนั่งเป็นนางพญาท่ามกลางผู้ชายทั้ง 5 คนก็บ่งบอกแล้วว่างานนี้แม่เอาจริง !!
ทิศทางการทำละครของ CHANGE2561
พี่ฉอด : ถ้าพูดถึงการทำละครของ CHANGE2561 มันก็จะตรงกับคอนเซ็ปต์ของเราที่เราเคยคุยกันว่า “แค่เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็เปลี่ยน”เพราะอย่างนั้นเราไม่ได้อยากทำละครที่ให้ความบันเทิงเฉยๆเราอยากทำละครที่ให้คนได้มีวิธีคิดมีแง่มุมได้เปลี่ยนความคิดหรือมีวิธีคิดใหม่ๆขึ้นมาอาจจะเป็นสิ่งที่เราเรียนรู้มาจากการที่เราได้ทำงานกันเรื่องจริงกับชีวิตจริงของคนจำนวนเยอะมากในสิบยี่สิบปีที่ผ่านมาเพราะอย่างนั้นเรารู้ว่าชีวิตจริงของคนเรามันเป็นยังไงเวลาที่เรามาทำละครเราอาจจะไปเอาบทประพันธ์มาทำเป็นละครแต่ในที่สุดแล้วเราก็จับความเป็นโครงสร้างของบทประพันธ์นั้นมารวมเข้ากับความเป็นชีวิตจริงเราก็ทำให้มันเกิดขึ้นเป็นเรื่องราวที่คนดูดูแล้วจะได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริงในชีวิตมันคือชีวิตของเรามันคือชีวิตของฉันมันคือชีวิตของเธอมันทำให้เราเกิดการวิเคราะห์วิจารณ์กันบางคนก็จะรู้สึกว่าแบบแบบนี้มันมีจริงหรอมันเป็นไปไม่ได้บางคนก็บอกชีวิตฉันก็เจออยู่แบบนี้ไง เพราะฉะนั้นเราอยากให้คนดูละครเราดูแล้วจบแล้วเหมือนละครจบเรื่องไม่จบเหมือนเราได้คุยกันว่าทำไมคนนี้ถึงคิดแบบนั้นทำไมคนนั้นถึงตัดสินใจแบบนี้ทำไมยอมทำไมทนเผื่อที่อย่างน้อยที่สุดเราเชื่อว่าการที่คนเราได้แชร์ความคิดหรือได้วิเคราะห์วิจารณ์ต่างๆกันเนี่ยอย่างน้อยที่สุดวันนึงเมื่อปัญหาอะไรก็ตามเกิดขึ้นกับชีวิตเราเราจะได้เรียนรู้เอาสิ่งเหล่านี้แล้วก็ไปใช้ให้เป็นประโยชน์กับชีวิตตัวเองได้วิธีคิดของละครของ CHANGE จึงตั้งไว้ว่า“แค่เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็เปลี่ยน”เราก็อยากให้คอนเทนต์ไม่ใช่เฉพาะละครอย่างเดียวแต่ทุกๆคอนเทนต์ของเรามีส่วนเข้าไปช่วยเปลี่ยนแปลงความคิดหรือทำให้เกิดความคิดอะไรเกิดขึ้นในชีวิตของคนดูคนฟังของเรา
ในฐานะบริษัทผู้ผลิตคอนเทนต์อิสระมีผลดียังไง
พี่ฉอด : ข้อดีจริงๆคือทำให้เราสามารถทำงานกับใครก็ได้การที่เราทำงานกับใครก็ได้นั้นหมายความว่าเราจะได้รับโจทย์ที่เปลี่ยนไปและที่แตกต่างไปเรื่อยๆมันทำให้เรามีโอกาสที่เราจะได้ทำงานที่สนุกขึ้นอย่างเราทำละครเราได้ละครกับหลายๆช่องแต่ละช่องก็จะมีโจทย์แตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นเวลาที่เราคิดงานเราก็สามารถคิดงานที่มีความแตกต่างยังไงก็ได้ที่ทำให้รู้สึกสนุกกับโจทย์ของแต่ละโจทย์ที่ทำ
ปีนี้เราจะได้เห็นผลงานอะไรของ เช้นจ์ บ้าง?
พี่ฉอด : มีละครให้ได้ดูกันเยอะค่ะในแง่มุมของละครมีหลายๆช่องที่คุยกันเรื่องละครไว้แต่ว่าก็มีช่วงโควิดเกิดขึ้นก็อาจจะมีดีเลย์ไปบ้างอะไรบ้างแต่ก็มีละครหลายๆเรื่องในหลายๆช่องที่จะได้ดูกันจริงๆในความเป็นบริษัทคอนเทนต์โพรไวเดอร์เรารู้สึกว่าคอนเทนต์เป็นเรื่องสำคัญค่ะเพราะในที่สุดแล้วที่เขาพูดกันว่า “CONTENT is King” ก็คือทุกคนก็ต้องการคอนเทนต์ที่ดีทั้งนั้นเราก็อยากเป็นบริษัทผู้ผลิตคอนเทนต์ที่ดีในทุกๆรูปแบบ เพราะฉะนั้นคอนเทนต์ที่เราจะได้ดูกันในปีนี้ก็จะมีตามหมวดปกติที่เราทำอยู่ มีละคร ถ้าทำคอนเสิร์ตได้ก็จะทำคอนเสิร์ตให้ดูกัน มีรายการออนไลน์ มีกิจกรรมที่ไปตามโรงเรียน ก็คงมีคอนเทนต์ในทุกรูปแบบที่ เช้นจ์ ทำอยู่ เมื่อเราสามารถทำงานได้
จากผลงานที่สร้างภาพจำให้กับผู้ชมว่าละครของ “CHANGE2561” จะต้องเต็มที่และสุดทุกด้านไม่ว่าจะเป็นบทโทรทัศน์หรือนักแสดงที่มาร่วมงานทุกอย่างจะผสานสร้างปรากฏการณ์ให้ศึกละครในยุคของทีวีดิจิทัลเดือดขึ้นแน่นอน!!