เนื่องจากความพิการหรือความผิดปกติแต่กำเนิด (Birth Defects) ถือเป็นปัญหาสำคัญระดับชาติและเป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก ทุกๆ ปีประเทศไทย มีทารกแรกเกิดประมาณ 800,000 รายต่อปี เป็นเด็กที่เกิดมาพร้อมกับความพิการประมาณ 24,000-40,000 ราย ทารกที่มีความพิการแต่กำเนิดหรือความผิดปกติแต่กำเนิด จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาในห้องผู้ป่วยวิกฤติเด็กหรือห้องไอซียูเป็นระยะเวลานาน และถึงแม้จะรักษาตัวจนออกจากห้องไอซียูได้ก็ยังเผชิญกับความยากลำบากในการดำรงชีวิต การที่มีผู้ป่วยเด็กในครอบครัวย่อมส่งผลกระทบทางจิตใจของผู้ที่เป็นพ่อแม่ ทั้งก่อให้เกิดภาระในด้านสุขภาพต่อผู้ป่วย รวมถึงส่งผลกระทบต่อครอบครัว สังคม จนถึงระดับประเทศชาติ
ศ.ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ประธานกองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก กล่าวว่า “นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติฯมาจนถึงทุกวันนี้เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ได้มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสมทบทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งกองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ส่งมอบเงินบริจาคดังกล่าวให้แก่คณะกรรมการบริหารสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เป็นผู้พิจารณานำไปใช้เพื่อการก่อสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชินี และเพื่อการปรับปรุงอาคารต่าง ๆ ของสถาบัน การจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการสงเคราะห์ผู้ป่วยเด็กที่ยากไร้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาการให้บริการของสถาบันฯ ให้สูงขึ้น และขยายการให้บริการแก่ผู้ป่วยเด็กให้กว้างขวางมากขึ้น ตลอดจนเป็นการยกระดับมาตรฐานทางด้านกุมารแพทย์ของไทยให้อยู่ในระดับนำของอาเซียน ซึ่งภารกิจในการลดอัตราการตายและความพิการของทารกแรกเกิดและเด็กเล็ก ถือเป็นภารกิจที่สำคัญและท้าทายอย่างยิ่งของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี”
นพ.อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า “ปัจจุบันพบปัญหาเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวและสมองเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูก ประสาทไขสันหลัง หรือสมอง พันธุกรรมผิดปกติ การติดเชื้อหรือได้รับสารพิษระหว่างตั้งครรภ์ ระหว่างคลอด หรือคลอดก่อนกำหนด หรือเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น และในรายที่เป็นน้อยอาจรักษาให้หายเป็นปกติได้ ส่วนในรายที่พิการปานกลางก็จะสามารถฟื้นฟูให้สามารถช่วยเหลือและพึ่งพาตนเอง”
โดย กองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติ มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก ได้ดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อสมทบทุนในการช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กในตลอดระยะเวลาหลายมาปีที่ผ่านมา ซึ่ง พญ.พนิดา ศรีสันต์ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวถึงหน้าที่และความสำคัญของบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยเด็กที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถแรงกายแรงใจที่ทำหน้าคอยดูแลน้องๆอย่างเต็มความสามารถเพียงหวังให้ผู้ป่วยตัวน้อยได้มีระดับพัฒนาการในการช่วยเหลือตนเองดีขึ้น และครั้งนี้ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากสองพระเอกหนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ และ กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” นำของขวัญกล่องใหญ่มาฝากน้องๆ ด้วยการขับร้องเพลงโชว์สร้างความประทับใจความสุข และได้ทำภารกิจ #อยู่เพื่อยิ้ม ในMission ต่างๆ อาทิ Mission 1 : ระบายฝัน วันแห่งรอยยิ้ม , Mission 2 : สนามสนุกสุขแห่งรอยยิ้ม, Mission 3 : ยิ้ม ต่อ ยิ้ม สู่โลกแห่งรอยยิ้ม ทั้งคู่ต้องพยายามฝ่าฟันอุปสรรคทำภารกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพื่อปลดล็อกรอยยิ้ม ส่งมอบกำลังใจให้กับนักสู้ตัวน้อย ได้มีความสุข และต่อสู้ได้ในทุกๆ วัน
ปัจจุบันสถาบันสุขภาพเด็กฯ มีทีมบุคลากรที่มากด้วยประสบการณ์และความรู้ทักษะในระดับเชี่ยวชาญเทียบเท่าสากล แต่ยังคงขาดแคลนเทคโนโลยีระดับสูงที่ใช้ในการสนับสนุนการรักษาและการฟื้นฟูสภาพเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรค การผ่าตัดแก้ไขความพิการและการฟื้นฟูสภาพที่มีความซับซ้อน อันเป็นการเติมเต็มศักยภาพของเด็กพิการทางการเคลื่อนไหว ที่ไม่ใช่เพียงมีชีวิตรอด แต่ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี หรือสามารถพัฒนาให้พึ่งพาตนเองได้ ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติ เป็นการคืนทรัพยากรที่มีคุณภาพสู่สังคมไทย สมกับคำว่าอยู่รอดเพื่อรอยยิ้มอย่างแท้จริง
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมสนับสนุนโครงการ “อยู่เพื่อยิ้ม” Survive to Smile ได้ที่บัญชี เงินบริจาคสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ธนาคารกรุงไทย เลขบัญชี 013-1-66004-7 (ลดหย่อนภาษี 2 เท่า) www.childrenhospitalfoundation.org