กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ โว้ก ประเทศไทย (VOGUE Thailand) ยกระดับผลผลิตจากชุมชนรังสรรค์เป็นงานดีไซน์สุดล้ำ เปิดตัวป็อปอัพสโตร์ “THAI TONE SHOP” สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับหัตถกรรมไทยทุกแขนงจากชุมชนท้องถิ่น พร้อมจำหน่ายระหว่างวันที่ 16-22 ธันวาคมนี้ ณ ไอคอนคราฟท์ ชั้น 4 ไอคอนสยาม
กุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหาร โว้ก ประเทศไทย เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมและยกระดับผลิตภัณฑ์จากชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ นิตยสารโว้ก ประเทศไทย จึงร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จัดทำโครงการพัฒนาผลผลิตของชาวบ้านในชุมชนด้วยการให้ความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงการส่งเสริมทักษะทั้งในด้านออกแบบและการสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยเข้ากับความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบันมากขึ้น อีกทั้งยังต่อยอดให้ชุมชนได้มีการพัฒนาฝีมือและแนวคิดในการผลิตผลงานที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในอนาคตอย่างยั่งยืน
“เราได้รับเกียรติจากไทยดีไซเนอร์แบรนด์ชั้นนำ อาทิ ASAVA, T AND T, KLOSET รวมถึงดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น SARRAN, SSAP, LA ORR, RENIM PROJECT, TORBOON และทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากนิตยสารโว้ก มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานที่ผลิตจากวัตถุดิบอันโดดเด่นของชุมชนต่างๆ ให้เป็นสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษ เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของตลาด ตลอดจนช่วยเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์และจัดจำหน่ายสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษนี้ผ่านช่องทางต่างๆ”
จากวัตถุดิบฝีมือชาวบ้านในพื้นที่หลากหลายชุมชน อาทิ ผ้าทอจากชุมชนหนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ, กลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านคำประมง จ.สกลนคร, ผ้าบาติก ซาโลมา ปาเต๊ะ อำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ ย่านลิเภาจากแหล่งผลิตชุมชนย่านลิเภา จ.นครศรีธรรมราช ฯลฯ ได้รับการพัฒนาและต่อยอดทั้งลวดลายและสีสันตามเทรนด์หนังสือ Thai Textiles Trend Book S/S 2022 ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประณีต งดงาม สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น ขณะเดียวกันก็ยังมีความทันสมัยและแฝงเอกลักษณ์ของดีไซเนอร์แต่ละแบรนด์ไว้อย่างมีชั้นเชิง
สำหรับผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่นสุดพิเศษนี้ ครอบคลุมทั้งหมวดแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ หมวก ผ้าห่ม เสื่อ และที่นอนสุนัข โดยเป็นสินค้าลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ผลิตจำนวนจำกัดและบางชนิดมีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น!! ไม่ว่าจะเป็น เสื้อบราท็อป และเบลเซอร์จากแบรนด์ KLOSET, เสื้อพาร์กาผ้าฝ้าย และหมวกปีกกว้างผ้าฝ้ายจาก ASAVA, เดรสผ้ายืดสีขาวตัดต่อกระโปรงผ้าทอย้อมสีเหลืองและกระเป๋าผ้าทอย้อมสีธรรมชาติจาก T AND T ,กระเป๋าผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติจาก TORBOON , สร้อยคอและต่างหูจากเศษผ้าไหมเหลือใช้จาก LA ORR , ต่างหูและแหวนย่านลิเภาจาก SARRAN, เสื้อเชิ้ตแขนยาวและกระเป๋าผ้าฝ้ายทอลายโบราณและผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ ตัดต่อกับผ้ายีนส์จาก RENIM PROJECT, เสื่อกกทอลายและกางเกงจาก SSAP เป็นต้น
ร่วมชมและช้อปเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไทย ที่ยกระดับวัตถุดิบชุมชนท้องถิ่นให้กลายเป็นผลงานดีไซน์สุดล้ำ ได้ที่ “THAI TONE SHOP” ระหว่างวันที่ 16-22 ธันวาคมนี้ ณ ไอคอนคราฟท์ ชั้น 4 ไอคอนสยาม หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.vogue.co.th