ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทยคึกคัก สมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย เผยแนวโน้มการเติบโตจากปลายปี 2565 ถึง ต้นปี 2566 เติบโตเกิน 30% คาดการว่าจะโตขึ้นไปได้อีก ทั้งยังเป็นช่วงที่กำลังฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ต้องปิดประเทศและการเดินทางทั้งหมด โดยหลังจากการเปิดประเทศแล้ว จึงส่งผลทำให้คนไทยออกมาสังสรรค์ เข้าสังคมกันมากขึ้น นอกจากนั้นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้มีการคาดการณ์เอาไว้ว่าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยมากกว่า 25 ล้านคน จึงมีโอกาสสูงที่ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อมองกลับมาในกลุ่มตลาดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น เรียกว่าฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ทั้งเจ้าใหญ่ เจ้าเล็ก หรือแม้แต่กลุ่มของคราฟต์เบียร์ ซึ่งเป็นเทรนด์เครื่องดื่มที่กำลังมาแรงด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ มีให้เลือกหลากหลาย สามารถนำมาจับคู่กับอาหารแต่ละประเภทเพื่อเสริมความอร่อยได้เป็นอย่างดี ทำให้มื้ออาหารไม่จำเจ คราฟต์เบียร์จึงกลายเป็นอีกหนึ่ง Segment ในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทยที่กำลังมาแรง และเติบโตกว่า 0.5-1% ในปี 2565 โดยมีแนวโน้มของการเติบโตในตลาดที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อีกหนึ่งแบรนด์คราฟต์ไทยที่น่าจับตามองคงหนีไม่พ้น บริษัท มาร์ดี คราฟท์ จำกัด หรือ Mardi Craft ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งในเครือของผู้บริหารมากความสามารถระดับแถวหน้าของประเทศไทยอย่าง “จี๊บ เทพอาจ กวินอนันต์” ผู้วาง Statement ให้กับองค์กรว่าเป็นเสมือนสะพานที่ช่วยเชื่อมโลกของคราฟต์เบียร์ในทุกมิติเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของแบรนด์คราฟต์เบียร์ เจ้าของร้านคราฟต์เบียร์ หรือผู้บริโภคที่ชื่นชอบคราฟต์เบียร์ เพื่อต่อยอดพัฒนายกระดับให้วงการคราฟต์ไปได้ไกลมากขึ้น นำเสนอประสบการณ์การดื่มคราฟต์เบียร์ที่เป็นมากกว่าแค่เครื่องดื่ม เพราะสามารถผสมผสานและถ่ายทอดทั้งในเรื่องของความชื่นชอบ ศาสตร์แห่งการเลือกวัตถุดิบ นวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัย รวมถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต ทั้งยังเป็นคราฟต์ที่ถูกผลิตในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมายอีกด้วย
คุณยืนยง ดวงมณี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มาร์ดี คราฟท์ จำกัด เผยว่า “สำหรับที่ผ่านมาตลาดคราฟต์เบียร์ในไทยมาแรงโตสวนกระแส เราทำการเซอร์เวย์พบว่า Market Size ของวงการคราฟต์เบียร์ จะมีการเติบโตในทุกๆปี และขยับเพิ่มขึ้นปีละ 1% ถ้าในวงการแอลกอฮอล์เราอาจจะอยู่ที่ 40-50%”
“ปี 66 มาร์ดี คราฟท์ วาง Brand Positioning ไว้คือ ‘Craft Mind Connects People’ ด้วยการคอนเน็ค 3 กลุ่มหลักได้แก่ foodie people, craft beer people, music people ผ่านการนำเสนอสอดคล้องกับโปรดักส์ ได้แก่ THAI MYTH SERIES สร้างบริบทเป็นคอมมิวนิตี้ร่วมกับความเป็นอาหารไทย M THIRTY TWO นำเสนอคราฟต์เบียร์ 32 รสชาติเพื่อเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ให้กับทุกคอคราฟต์ และ Music Series ที่นำสไตล์เพลงมาเชื่อมโยงกับรสชาติเบียร์ เพื่อเจาะกลุ่มตลาดเพลงให้เป็น INSPIRED BY MUSIC GENRES”
“บนเป้าหมายใหญ่คือการสร้าง ‘Craft Community’ ในไทยให้แข็งแกร่ง มาร์ดีคราฟท์ มุ่งเป้าที่จะเชื่อมโยง 3 ส่วนด้วยกันได้แก่ ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์ เจ้าของบาร์คราฟท์ และผู้ที่รักและหลงไหลในการดื่มคราฟต์ ปีนี้เห็นได้ว่าทางแบรนด์เองวางแผนธุรกิจและการตลาดเพื่อที่จะนำไปสู่การเติบโตขึ้นอีกเท่าตัว 1) เปิดตัวคราฟต์เบียร์ตัวใหม่ที่ต้องการจับตามองให้ดีว่าจะพาความเป็นไทยไปสำเร็จไกลถึงเวทีระดับโลกได้เหมือนปีที่ผ่านมาหรือไม่ 2) ขยายช่องทางจัดจำหน่าย 3) สร้างโปรแกรมการจัดจำหน่ายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ให้ตอบโจทย์ทุกพฤติกรรมและความต้องการ 4) ต่อเนื่องและส่งมอบประสบการณ์ความคราฟต์ให้กลุ่มเป้าหมายผ่านการพบเจอร่วมกิจกรรมกันในงานอิเวนต์ 5) เข้าสู่ Marketspace จุดศูนย์กลางในการรวบรวมคราฟต์เบียร์ที่ผลิตโดยคนไทยทั่วประเทศ” คุณยืนยง ดวงมณี ปิดท้าย
แหล่งที่มา
• https://marketeeronline.co/archives/293210
• https://www.matichon.co.th/economy/news_3770588