นายทัตซึฮิโระ นิชิโอกะ ผู้จัดการแบรนด์ฝ่ายปฏิบัติการทั่วโลก บริษัท ทีวีเอส เรกซ่า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า “โตชิบา ทีวี แบรนด์ทีวีอันดับ 1 ในญี่ปุ่น มุ่งเน้นการรีแบรนด์ทีวี Toshiba มาตั้งแต่ปี 2018 โดยได้วางกลยุทธ์ทางการตลาด จัดรายการส่งเสริมการขาย โปรโมทแบรนด์มากขึ้น ด้วยการนำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้าผ่านสื่อโซเชียล ในช่องทาง YouTube พร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบร้าน Toshiba TV ใหม่ เน้นความเป็นแบรนด์ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์และความพรีเมี่ยมให้กับแบรนด์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังพัฒนาคุณภาพของภาพและคุณภาพเสียงของผลิต ภัณฑ์ ให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม แข่งขันในตลาดได้มากขึ้นอีกด้วย ทำให้ โตชิบา ทีวี เป็นแบรนด์ทีวีทางด้านคุณภาพอันดับ 1 ในตลาดญี่ปุ่น นับเป็นความสำเร็จครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทีวีดิจิทัลของเราในปี 2023 นี้ และเรามั่นใจว่า โตชิบา ทีวี จะยังคงสามารถครองความเป็นที่ 1 ในตลาดญี่ปุ่นต่อไป และจากความสำเร็จนี้ เราจึงมุ่งพัฒนานำไปปรับใช้ในประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทย เราได้มีการปรับรูปแบบร้านใหม่ โดยในปีนี้ได้มีการลงทุนเปิดตัวบูธ โตชิบา ทีวี ระดับพรีเมียม ที่เพาเวอร์บาย , เพาเวอร์มอลล์, โลตัส และ โฮมโปร และในเดือนสิงหาคมนี้ เราได้ทุ่มงบกว่า 2.0 ล้านบาท เปิดแฟลกชิพสโตร์ Toshiba TV Premium แห่งแรกในประเทศไทย ที่ โลตัส สาขารามอินทรา-อาจณรงค์ (เลียบด่วนรามอินทรา) บนพื้นที่กว่า 30 ตารางเมตร ในคอนเซ็ปต์ Japanese Technology Premium Craftmanship เน้นความเป็นพรีเมี่ยม ไฮเอนด์มากขึ้น ทั้งรูปแบบร้าน และตัวสินค้า ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากญี่ปุ่น พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 3 ซีรีย์ใหม่ล่าสุดของโตชิบา ทีวี เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบการรับชมผ่านหน้าจอทีวี และเหล่าเกมเมอร์”
1.TOSHIBA Z870 Quantum Dot 144Hz Mini LED TV
ทีวีระดับไฮเอนด์รุ่น Z870M ของ Toshiba ภูมิใจนำเสนอ REGZA ZRi Engine ที่ปฏิวัติวงการ ด้วยเทคโนโลยี Mini-LED ความสว่างสูงสุดสูงสุด Quantum Dot Color และ Full Array Local Dimming PRO Z870M จึงมอบคุณภาพของภาพที่เหนือชั้น ได้รับการรับรองโดย IMAX Enhanced, Dolby Vision IQ และ Dolby Atmos รับประกันความสว่างที่เหนือกว่า HDR ที่โดดเด่น และเสียงที่ชวนดื่มด่ำ เกมเมอร์ได้รับประโยชน์จากการแสดงผลเนทีฟ 144Hz, AMD Freesync Premium, VRR และ ALLM เสียงเซอร์ราวด์ Bass Woofer Pro และ Regza แบบไดนามิกช่วยเพิ่มประสบการณ์การได้ยิน บริการสั่งการด้วยเสียงเปลี่ยน Z870M ให้กลายเป็นศูนย์กลาง สัมผัสนวัตกรรม ความซับซ้อน และการออกแบบที่ใช้งานง่ายใน Z870M ของ Toshiba ที่ก้าวข้ามความบันเทิงแบบเดิม ที่มาพร้อมอัตราการรีเฟรชของจอแสดงผลใหม่ล่าสุด นั่นคือ จอแสดงผลแบบเนทีฟ 144Hz เพื่อการเคลื่อนไหวของภาพที่ลื่นไหลระดับพรีเมียม ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นโดยคำนึงถึงเหล่าเกมเมอร์เป็นหลัก พร้อมระบบลำโพง 7 ทิศทางพร้อม BAZOOKA Bass Woofer Pro ให้เสียงทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ
2.TOSHIBA Z670 Quantum Dot 144Hz
ปลดปล่อยพลังแห่งการเล่นเกมด้วย Z670M Series สุดยอดการผจญภัยในการเล่นเกมด้วย Game Mode Pro 144Hz Native Refresh Rate, ALLM, AMD FreeSync Premium, Game Deck และ HDMI 2.1 ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของคุณด้วย REGZA ZRi Engine ที่ขับเคลื่อนด้วย AI, Full Array Local Dimming Pro, Quantum Dot Color และโซลูชัน Total HDR REGZA Power Audio Pro พร้อม BAZOOKA Bass Woofer Pro ระบบลำโพงที่น่าทึ่ง ประสิทธิภาพเสียงที่ไม่มีใครเทียบได้ เป็นรุ่น “ทีวีเกม” เลยก็ว่าได้
3.TOSHIBA M550M Quantum Dot 4K
ยกระดับประสบการณ์การรับชมของคุณไปอีกขั้นด้วย REGZA Engine ZR ขั้นสูง นำเสนอภาพที่สวยงามน่าทึ่งและเสียงที่ชวนดื่มด่ำ พลังของเทคโนโลยี Quantum Dot และ Full Array Local Dimming ช่วยให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพของภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ ด้วย REGZA Power Audio Pro ที่มี BAZOOKA Bass Woofer, Tru Bass Booster, 360
Surround Upscaling และ Dolby Atmos ด้วยเสียงที่ชัดใสและเสียงที่ทรงพลัง และด้วยแนวคิด “ความงามแบบญี่ปุ่น” ทีวีซีรีส์ M550M จึงผสานรวมเข้ากับพื้นที่ใช้สอยของคุณได้อย่างลงตัว เพิ่มความสง่างาม สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงระดับพรีเมียม ที่สุดในบรรดาทีวีในราคาเดียวกัน
ด้วยความที่เราเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี และนวัตกรรม กลุ่มผลิตภัณฑ์ ทีวีของโตชิบาจึงถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่ทีวีระดับไฮเอนด์ จนถึงระดับพื้นฐาน ที่มาพร้อมกับคุณภาพของภาพและเสียงที่ยอดเยี่ยม ดีไซน์สวยงามเหมาะกับการตกแต่งที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสัมผัส ประสบการณ์โรงภาพยนตร์ระดับโปรที่บ้านได้อย่างง่ายดาย ตอบสนอง และตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่หลากหลาย เราเชื่อว่าลูกค้าชาวไทยจะพึงพอใจกับผลิตภัณฑ์ทีวีโตชิบา ทุกรุ่น ของเราแน่นอน
อย่างไรก็ตามกระแสความนิยมของผู้ใช้งานจำนวนมากในประเทศไทย นิยมทีวีที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีเสียงที่ยอดเยี่ยม โตชิบาทีวีจึงมีขนาดรองรับ ความต้องการที่หลากหลาย ทั้งขนาด 55, 65 และ 85 นิ้ว รวมไปถึงการเล่นเกมส์ผ่านจอทีวีในปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งในรูปแบบ e-sports และเกมส์ทั่วไป ดังนั้น REGZA Engine ZRi ของเราจึงสร้างสิ่งที่เหนือระดับกับการเล่นเกมส์ที่สมจริง เช่น Game Mode Pro ที่สลับเป็นโหมดความหน่วงต่ำโดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างประสบการณ์การเล่นเกมส์ที่ดีที่สุดสำหรับคอเกมส์
ด้านนายพงษ์เทพ ศิริสกุลเวโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสแผนกขายผลิตภัณฑ์ทีวี ประจำ TVS REGZA Corporation Thailand Office เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “ภาพรวมมูลค่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยปี 2023 มีกำลังลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ด้วยปัจจุบันตลาดทีวีมีความซับซ้อนมาก มีแบรนด์เข้าร่วมการแข่งขันมากขึ้น ทุกแบรนด์ต้องการเพิ่มปริมาณ และส่วนแบ่งการตลาด ผ่านการผสมผสานผลิตภัณฑ์และราคาที่แตกต่างกัน และโปรโมชั่นที่หลากหลาย ทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นมาก รวมทั้งมีแนวโน้มการเติบโตของยอดขายขนาดใหญ่อย่างเห็นได้ชัด และหลายแบรนด์เพิ่มผลิตภัณฑ์ขนาด 75 นิ้วขึ้นไป
โตชิบา ทีวี เป็นแบรนด์ระดับไฮเอนด์ เป้าหมายของเราคือการเป็นแบรนด์ TOP 3 ในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์และขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วได้เปิดตัว OLED X9900LP เป็นซีรีส์สำคัญ และปีนี้เปิดตัวซีรีส์ MINI LED Z870MP และเพิ่มผลิตภัณฑ์ Z670 ขนาด 75/85 นิ้ว เพื่อทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ โตชิบา ทีวี มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น โดยจะเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป รวมทั้งเพิ่มความร่วมมือกับช่องทางการจัดจำหน่ายระดับไฮเอนด์ในตลาดประเทศไทย เช่น เพาเวอร์บาย,เพาเวอร์มอลล์, และ โฮมโปร รวมถึงแผนงานการกระตุ้นยอดขาย โดยในปี 2024 โตชิบา ทีวี จะเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขัน European Cup 2024 ต่อยอดความสำเร็จจากในปี 2022 ที่โตชิบา ทีวี เป็นผู้สนับสนุน FIFA World Cup 2022 อย่างเป็นทางการ
ในด้านผลประกอบการปี 2566 นี้ ตั้งแต่ต้นปี จนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โตชิบา ทีวี มีส่วนแบ่งการตลาด 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสำคัญมาจาก 1.ความร่วมมือกับช่องทาง Modern Trade เข้าสู่ร้านค้ามากขึ้น 2.การให้ความสำคัญกับการลงทุนในร้านค้าระดับไฮเอนด์ มีโครงสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดี และประสิทธิภาพ 3.นอกจากยอดขายในช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการของ โตชิบา ทีวี ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา ยังติดอันดับ TOP 5 ใน Shopee Mall อีกด้วย และ 4. โครงการ B2B โดยเราตั้งเป้าหมายชิงส่วนแบ่งตลาดภายในสิ้นปี 2566 ที่ 5% ในปี 2567 ที่ 8% และ ปี 2568 ที่ 10%