ในยุคที่การเงินและการลงทุนมีความซับซ้อนมากขึ้น หลายคนอาจสงสัยว่าที่ปรึกษาทางการเงินมีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด และเมื่อไหร่จึงควรพิจารณาใช้บริการ บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจเหล่านี้ พร้อมให้แนวทางในการตัดสินใจว่าเมื่อมีทรัพย์สินเท่าไหร่จึงควรหันมาพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน
ที่ปรึกษาทางการเงินคือผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการวางแผนการเงิน การลงทุน การประกันภัย การวางแผนภาษี และการวางแผนเกษียณ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว ความจำเป็นของที่ปรึกษาทางการเงินขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ใช่เพียงแค่จำนวนทรัพย์สินที่มี
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงานและมีรายได้ไม่มาก การศึกษาด้วยตนเองและการใช้แอปพลิเคชันทางการเงินอาจเพียงพอในการจัดการการเงินขั้นพื้นฐาน เช่น การทำงบประมาณ การออม และการลงทุนเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์ทางการเงินเริ่มซับซ้อนขึ้น เช่น มีการเปลี่ยนแปลงในชีวิต มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หรือได้รับมรดก การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอาจเป็นทางเลือกที่ควรพิจารณา
แม้ว่าจะไม่มีตัวเลขที่แน่นอนว่าควรมีทรัพย์สินเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมในการใช้บริการที่ปรึกษาทางการเงิน แต่โดยทั่วไปเมื่อมีทรัพย์สินตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป หรือมีรายได้ประจำปีตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป อาจเป็นจุดที่ควรเริ่มพิจารณา ทั้งนี้ ความซับซ้อนของสถานการณ์ทางการเงินก็เป็นปัจจัยสำคัญ เช่น การมีธุรกิจส่วนตัว การวางแผนส่งต่อทรัพย์สิน หรือการมีเป้าหมายทางการเงินที่ท้าทาย
ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถช่วยในหลายด้าน เช่น:
- การวางแผนการลงทุน: ช่วยจัดสรรสินทรัพย์ให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- การวางแผนภาษี: ช่วยลดภาระภาษีอย่างถูกกฎหมาย
- การวางแผนเกษียณ: คำนวณเงินที่ต้องออมและวางกลยุทธ์การลงทุนเพื่อให้มีเงินใช้หลังเกษียณอย่างเพียงพอ
- การวางแผนประกัน: แนะนำการทำประกันที่เหมาะสมเพื่อปกป้องความมั่งคั่ง
- การวางแผนมรดก: ช่วยวางแผนการส่งต่อทรัพย์สินให้ทายาทอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะใช้บริการที่ปรึกษาทางการเงินหรือไม่ ควรพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย ที่ปรึกษาบางรายคิดค่าบริการเป็นเปอร์เซ็นต์ของทรัพย์สินที่บริหาร ในขณะที่บางรายคิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมงหรือรายครั้ง ผู้ที่สนใจควรเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
นอกจากนี้ การเลือกที่ปรึกษาทางการเงินที่มีคุณสมบัติเหมาะสมก็เป็นเรื่องสำคัญ ควรตรวจสอบใบอนุญาต ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในด้านที่ตรงกับความต้องการของเรา การสัมภาษณ์ที่ปรึกษาหลายๆ ราย ก่อนตัดสินใจเลือกคนที่เข้าใจเป้าหมายและสไตล์การลงทุนของเราที่สุด ก็เป็นแนวทางที่ดี
สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมใช้บริการที่ปรึกษาทางการเงินแบบเต็มรูปแบบ อาจเริ่มจากการใช้บริการให้คำปรึกษาเป็นครั้งคราว หรือเข้าร่วมสัมมนาทางการเงินที่จัดโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการจัดการการเงินด้วยตนเอง
ที่ปรึกษาทางการเงินอาจไม่จำเป็นสำหรับทุกคน แต่สำหรับผู้ที่มีเป้าหมายทางการเงินที่ซับซ้อน หรือมีทรัพย์สินจำนวนมาก การใช้บริการอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร สิ่งสำคัญคือการให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว