ขาดออกซิเจนไปนาน! ก็อต น้ำตาซึม อัปเดตอาการคุณพ่อ หวังให้มีปาฏิหาริย์

 

  จากกรณีที่คุณพ่อของนักแสดงหนุ่ม ก็อต อิทธิพัทธ์ เกิดอาการชัก และช็อก หัวใจหยุดเต้น ขณะที่กำลังจะออกจากโรงภาพยนตร์ หลังจากที่ดูหนังกันเสร็จเรียบร้อย พร้อมกับครอบครัวทั้งคุณแม่ รวมไปถึงน้องสาว เมื่อคืนวันที่ (6 มี.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นได้นักศึกษาแพทย์ และอีกหลายๆ คนช่วยเหลือ จนคุณพ่อมาถึงโรงพยาบาล และคุณหมอได้ทำบอลลูนหัวใจให้ โดยคุณพ่อยังอยู่ในห้องไอซียู และยังไม่ฟื้น จนมาวันนี้ทางด้านหนุ่มก็อตได้ตั้งโต๊ะให้สัมภาษณ์เล่าเหตุการณ์ในวันนั้น และอัปเดตอาการคุณพ่อว่า คุณพ่อเป็นโรคหัวใจกะทันหัน เกิดจากเส้นเลือดหัวใจตีบ คุณหมอได้ทำบอลลูนให้ ตอนนี้คุณพ่อยังไม่ฟื้น และอยู่ในห้องไอซียู แต่ตนเชื่อว่าในอีกไม่กี่วันคุณพ่อน่าจะดีขึ้น ยอมรับว่าเครียดมาก แต่ต้องเข้มแข็ง เพราะตอนนี้เหมือนเป็นเสาหลักของครอบครัว โดยรายละเอียดทั้งหมดมีดังนี้

  

  ก็ขอเล่าย้อนไปวันนั้น คือผมอยู่ในเหตุการณ์ ก็เป็นวันครอบครัวนะครับ ที่เราไปดูหนังกัน เราก็ไม่คิดครับว่าเหตุการณ์แบบนี้มันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ คือคุณพ่อเป็นโรคหัวใจกะทันหัน ซึ่งมันเกิดมาจากเส้นเลือดหัวใจตีบ เลยทำให้คุณพ่อช็อกในวันนั้น แล้วตอนนี้ตามที่อัปเดตกับคุณหมอนะครับ ก็คุณพ่ออาการยังไม่คงที่เท่าไหร่ ยังอยู่ในไอซียู แต่ผมเชื่อว่าในอีกไม่กี่วันคุณพ่อก็น่าจะดีขึ้น คือจริงๆ เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง แล้วเราก็พาคุณพ่อไปตรวจร่างกาย แต่ว่าก็ไม่ได้เจออะไร อาจเป็นเพราะเรามองว่าคุณพ่อแข็งแรงดี แล้วชีวิตประจำวันของเขาก็จะค่อนข้างดีมาก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานอาหารดีๆ เราก็ไม่คิดว่าคุณพ่อจะมาเป็นเกี่ยวกับโรคหัวใจ ซึ่งตอนที่เคยตรวจเราก็จะแค่ตรวจความดัน เบาหวาน แล้วก็สมอง ซึ่งพอตรวจเสร็จมันก็ไม่ได้เจออะไร ก็เลยไม่คิดว่าจะเป็นอะไรต่อครับ

  

  ซึ่งจริงๆ วันนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงหนังเลยครับ ตอนกำลังจะเดินออกหลังหนังจบ แล้วก็ได้ยินเสียงคุณแม่ก่อน ก็หันไปดูข้างๆ ก็เห็นคุณแม่ร้องตะโกนพ่อๆ ให้คนช่วย ผมเองตอนนั้นก็ตกใจมาก คุณแม่ก็พยายามช่วย CPR ทำผายปอดให้คุณพ่อ แล้วก็มีหลายๆ คน มาช่วยอย่างที่เห็นในข่าว มีนักศึกษาแพทย์ ทั้งพนักงานโรงหนัง แล้วก็คุณหมออีก 2 ท่านมาช่วย ผมก็เลยพยายามดึงคุณแม่ออกไป เพราะว่าคนมาช่วยเยอะ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยดึงคุณแม่ออกมาก่อน แล้วก็พยายามพาคุณพ่อออกมาอยู่ในที่โล่งๆ ซึ่งทุกคนที่มาช่วยก็ทำกันเต็มที่ สลับกันทำ CPR เพราะว่าคุณพ่อเริ่มไม่มีสติ ลมหายใจก็เริ่มไม่มีแล้ว ชีพจรก็น้อยลงในตอนนั้นนะครับ

  

  ความรู้สึกเราในตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง “โฮ้ๆ ตอนนั้นมันรู้สึกแบลงค์มากกว่า เราช็อกด้วยว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ เหรอ ซึ่งก็ตั้งตัวไม่ถูกเหมือนกันครับ โดย ณ ตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าสาเหตุจริงๆ คืออะไร จนมาถึงโรงพยาบาลก็ตรวจร่างกายไปเรื่อยๆ ตรวจนั่นนี่ สแกนสมอง จนมาเจอว่าคุณพ่อเป็นโรคหัวใจตีบ ผมเองก็รู้ตอนนั้น แล้วเป็นเส้นหลักด้วย เลยรักษาโดยการทำบอลลูน ตอนนี้อาการถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่ว่าคุณพ่อยังไม่ฟื้น อาจด้วยที่ว่าขาดออกซิเจนไปนาน ขั้นตอนต่อไปก็ต้องรอคุณพ่อฟื้นตัว แล้วถึงดูว่าจะยังไงต่อ แต่คุณหมอบอกว่าอย่างน้อย 3 วัน ถึงอาทิตย์หนึ่งที่ต้องอยู่ในไอซียูนะครับ”

  

  แล้วพอได้เข้าไปเยี่ยมคุณพ่อเป็นยังไงบ้าง “ในความรู้สึกผม ผมว่าคุณพ่อรับรู้ในกำลังใจของเรานะ ลองไปจับมือหรืออะไรอย่างนี้ ทุกคนทั้งคุณแม่ และน้องสาวก็พยายามไปจับให้คุณพ่อรับรู้ ซึ่งผมว่าคุณพ่อรู้สึก แต่ในทางการแพทย์บอกไม่ได้ว่าคุณพ่อรู้สึกตัวมั้ย แต่เชื่อว่าคุณพ่อเป็นคนเก่ง เป็นคนที่แข็งแรง ยังไงคุณพ่อก็ต้องกลับมาฟื้นตัวเร็วๆ ครับผม”

  สภาพจิตใจครอบครัวเป็นยังไงบ้าง “พูดตามตรงก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะคุณแม่ ผมเองห่วงคุณแม่มาก ขนาดตัวเราเองก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ แต่เราต้องเข้มแข็ง เพราะตอนนี้คุณพ่อก็อยู่ในห้องไอซียู คนที่เป็นเสาหลักก็คือผม ก็ห่วงคุณแม่มาก เพราะเขาอยู่กันมา แล้ววันนี้อีกคนหนึ่งเป็นแบบนี้ เขาก็ทำใจยาก แต่ผมเองก็พยายามที่จะประคองดูแลทั้งน้อง และคุณแม่อย่างเต็มที่”

  

  ตอนที่เข้าไปเยี่ยมได้พูดอะไรกับคุณพ่อมั้ย “ก็บอกให้คุณพ่อฟื้นขึ้นมาเร็วๆ ให้มาคุยกัน ก็เห็นคุณพ่อมีน้ำตาคลอ แล้วขยับหัวนิดหน่อย แต่มันเป็นความรู้สึกผมนะ ซึ่งผมก็บอกไม่ได้ว่าคุณพ่อดีขึ้นรึเปล่า เพราะผมใช้ความรู้สึกมากกว่า”

  

  ส่วนเรื่องที่หนุ่มก็อต ต้องทำงานหลังจากที่เฝ้าคุณพ่อเสร็จ เจ้าตัวก็กล่าวว่า “จริงๆ ในเรื่องของงานเราก็ต้องเต็มที่ครับ งานก็คืองาน เราเองก็ต้องมีสปิริต แม้ว่าใจเราจะพะวง คิดถึงคุณพ่อตลอดเวลา และเครียดมาก แต่งานเป็นงานที่เรารับมาแล้ว เราก็ต้องเต็มที่” 

  

  ทั้งนี้เจ้าตัวได้ปิดท้าย อยากขอบคุณทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ที่ช่วยเหลือคุณพ่อผม พี่นักศึกษาที่ช่วยทำ CPR และคุณหมออีก 2 ท่าน ถ้าผมจำไม่ผิด แล้วก็มีพี่ๆ ณ ตรงนั้นที่มาช่วยทำ CPR  พนักงานโรงหนัง รวมทั้งพี่นักข่าวช่อง one ที่เหมือนมาเป็นกระบอกเสียงแรก ส่วนกำลังใจก็ดีมาก ทั้งจากครอบครัว ญาติๆ พี่ผู้จัดการ ผู้ใหญ่และเพื่อนๆ ในวงการ  และที่สำคัญก็กำลังใจจากแฟนคลับ ผมเชื่อว่าคุณพ่อ คุณแม่ ทั้งครอบครัวผมได้รับ และรู้สึกถึงกำลังใจที่ดีจากทุกคน ยังไงก็ขอบคุณทุกคน ผมเชื่อว่าถ้าคุณพ่อฟื้นขึ้นมาคงเขิน ทำไมมีคนมาให้กำลังใจเราขนาดนี้ กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนสนใจ หรือให้ความสำคัญ ผมว่าคุณพ่อฟื้นมาคงดีใจมาก ซึ่งผมก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตอนนี้แค่อยากให้คุณพ่อฟื้นขึ้นมาอย่างเดียว และถ้าจะต้องเป็นเสาหลักทำงานหนักผมก็ไหว เพื่อครอบครัวครับ ก็อตกล่าว

ขอบคุณรูปภาพจากIG: @anchana_thanit, @ktptrthn

ก็อต อิทธิพัทธ์

 

ก็อต อิทธิพัทธ์ สัมภาษณ์อัปเดตอาการคุณพ่อ

 

ก็อต อิทธิพัทธ์

 

 

เหตุการณ์คุณพ่อ ก็อต อิทธิพัทธ์ ช็อก

 

เหตุการณ์คุณพ่อ ก็อต อิทธิพัทธ์ ช็อก

 

ก็อต อิทธิพัทธ์ พร้อมคุณพ่อ-คุณแม่-น้องสาว

 

ครอบครัว ก็อต อิทธิพัทธ์

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Copyright © 2016 MThai.com All rights reserved. หมายเลขทะเบียนการค้าอิเล็กทรอนิกส์ : 0127114707040