ทำเอาสาวน้อย สาวใหญ่ เก้งกวางตาลุกวาวกันเลยพ่อคู้นนน กับการตัดสินใจถ่ายแบบโป๊สยิววี้ดวิ้วว 18+ เผยให้เห็นของลับ ของนักร้องนักแสดงหนุ่ม ดิว นัทธพงศ์ หรือว่า ดิว เดอะสตาร์ 9 ลงในนิตยสารออนไลน์ Habitsmen ที่บอกเลยว่าเป็นคอลเลคชั่นที่แรงสุดๆ ชนิดที่ไม่ต้องขยี้ตากันเลยทีเดียว เพราะมาให้เห็นแบบเต็มๆ ซึ่งทางด้านเจ้าตัวเองก็แจงว่า ฟีคแบคดีมากเลยครับ มีกระแสแล้วก็ทำให้มีงานเข้ามาเยอะขึ้น แล้วภาพมันก็สวย ภูมิใจครับ มีคนมาขอถ่ายรูปเยอะขึ้น แต่เวลาเข้ามาไม่มีใครทักหรือถามเรื่องที่เห็นหมด ลืมตรงเรื่องนั้นไปเลย มีแต่เข้ามายิ้มแล้วขอถ่ายรูป ก็มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย และทุกเพศ แถมเจ้าตัวยังเอ่ยว่าถ้าฟีคแบคดีมากจะมีเซอร์ไพรส์อีก โอ้ยยยๆ พ่อคู้นนเท่านี้ก็กลายเป็นที่พูดถึงสนั่นว่อนโซเชียลแล้วเจ้าค่า
”อ่อที่บอกจะเซอร์ไพรส์คือถ้ามันเป็นกระแสดีขนาดนี้อ่ะ อาจจะมีถ่ายอีก แต่ว่าไม่ใช่ตอนนี้ครับ เว้นไปสักช่วงหนึ่งก่อน เพราะต้องใช้เวลาเตรียมตัวถ่ายอยู่พอสมควรทั้งเรื่องอาหารการกิน การเข้ายิม เพราะช่วงนี้ผมเดินทางบ่อย บางทีผมกินไม่เป๊ะ นึกออกมั้ยครับ”
ระยะเวลากว่าจะฟิตหุ่นได้เท่านี้ “คือจากตอนที่ผมไม่ได้ตั้งใจว่าจะถ่ายนะ เหมือนแบบฟิตร่างกายเพื่อรักษาโรคไทรอยด์ให้ร่างกายมันแข็งแรงขึ้น ก็ใช้เวลาประมาณครึ่งปี คือไปรักษาตัวที่ลำปางที่บ้านผม ตอนนี้หายแล้ว แต่ก็กินยาด้วยทุกวันนี้ก็ยังกินอยู่ เหมือนค่าของไทรอยด์มันอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว ตอนนี้ก็กินยาคุมไปด้วยประมาณ 3 เดือน เพื่อที่จะให้มันอยู่ตัวจริงๆ อ่ะครับ ก็จะมีกินยาที่ช่วยให้การเต้นของหัวใจดีขึ้น และก็ยาไม่ให้ไทรอยด์มันกำเริบ เพราะผมเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ ฉะนั้นถ้าเป็นปุ๊บมันจะมีการเผาผลาญเร็ว”
ยืนยันว่าจริงๆ ถ่ายเพื่อเลี้ยงครอบครัว “คือนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง แต่จริงๆ ก็ถ่ายเพื่อเปรียบเทียบตัวเองด้วยครับ มันหลายสาเหตุพี่ รวมถึงทางทีมงานอยากให้ถ่ายด้วย แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่ว่าเออดราม่าจำเป็นต้องถ่าย เพราะว่าผมอ่ะเป็นผู้ชายมาแนวนี้ที่ถ่ายเซ็กซี่มาตั้งแต่แรกแล้ว ผมก็เว้นจากการถ่ายครั้งแรกมา 2 ปี พอมาถ่ายอีกก็เลยไปให้สุดเลยละกัน แต่คงไม่ถึงขนาดโทงๆ ไม่มีอะไรปิดเลย แต่พอเอาจริงๆ ก็เข้าใจนะว่าเดี๋ยวนี้การถ่ายแบบนี้มันต้องมีความแรงขึ้นกว่าเมื่อก่อน เพราะว่าเหมือนยุคสมัยมันเปลี่ยนไป”
บางคนมองว่าเราไม่มีงานเลยต้องมาถ่ายแบบนี้ “จริงๆ ผมมีงานนะพี่ มีงานตลอด มีงานต่างจังหวะทางภาคอีสานตลอดครับ แต่ไม่ได้อัพลงไอจีเฉยๆ แต่ว่าช่วงที่ป่วยเป็นไทรอยด์อ่ะยอมรับว่าไม่มีงานจริงๆ เพราะว่าผมรับงานไม่ได้เลย ผอมแล้วก็อ้วน คือเราทำงานไม่ได้นึกออกมั้ย แต่ตอนนี้คือพอผมกลับมาถ่ายมันก็เลยเป็นกระแสเพราะว่าภาพมันแรง แต่จริงๆ ช่วงก่อนหน้านี้ก็มีงานต่างประเทศ ร้องเพลงที่นิวซีแลนด์บ้าง ไปร้องเพลงอยู่ 3 เดือน”
สามารถรับทุกงาน “ครับ ไม่ได้เจาะจง เพราะเราไม่ได้มีความสามารถแค่ตรงนั้น เราไม่ได้ลดตัวเราว่าจะต้องถ่ายแต่อย่างเนี่ยนึกออกป่ะ ผมคงไม่ถ่ายบ่อยแล้ว เพราะว่าให้เป็นกระแสปุ๊บเพื่อที่จะไปทำสิ่งที่เรารักต่อไป เช่นร้องเพลง เล่นละครอะไรแบบนี้ ก็มีงานละครที่เขาดิลๆ กันไว้แล้วก็รอติดตามกันครับ”
คือหลังจากถ่ายไปงานเข้ารัวๆ “ใช่ครับ งานเข้ารัวๆ เลย มีงานร้องเพลงที่ออสเตรเลียด้วย ดีเลยอ่ะ นี่ไม่ได้อวดนะ แต่ผมอยากเล่าให้ฟัง มันเป็นเพราะความตั้งใจของผมที่ฟิตหุ่นมาตั้งแต่เป็นไทรอยด์ ผมเป็นไทรอยด์มา 2 ประเภทนะ คือผอม และก็อ้วน ก็เป็นแบบนั้น กว่าจะได้หุ่นมาขนาดนี้ ไม่มีใครรู้กับผมหรอกว่าผมเหนื่อยนะ ผมต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าเนี่ยไปวิ่ง แถวบ้านผมที่ลำปางนะมันจะอากาศดีมาก มันอยู่ในอำเภอเมืองนะ แต่ว่ามันอาจจะอยู่โซนข้างนอกๆ หน่อย ที่ติดกับแม่น้ำวัง แต่อากาศดีบริสุทธิ์ มันดีกว่ากรุงเทพนะ ซึ่งตอนนั้นผมก็ผอม จนคนก็นึกว่าเป็นเอดส์กันนะ แต่ว่าผมไม่ได้เป็น แต่ผมอ่ะงงกับตัวเองว่าทำไมเข้ายิมแล้วมือสั่น เหงื่อออกง่าย แล้วกินเยอะแต่ทำไมมันไม่อ้วน ตอนนั้นหมอก็เลยให้หยุดเล่นฟิตเนส เพราะมันจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ห้ามกินกาแฟ ห้ามกินแอลกอฮอล์ต่างๆ แล้วพอผมไม่ทำอะไรสักอย่าง กินยาช่วยลดการเต้นของหัวใจ ก็กินๆ แล้วทีนี้น้ำหนักมันก็โดดไป 80 กว่า เพราะว่าไม่ได้ออกกำลังกาย อยู่แต่ห้อง เล่นเกมส์ มันก็เลยแบบอ้วน แล้วก็เลยกลับไปอยู่บ้านที่ลำปาง ในช่วงนั้นก็ยากลำบาก ตื่นเช้า 6 โมงไปวิ่ง กลับมากระโดดเชือกพันครั้ง เสร็จแล้วก็เล่นท้องต่อ แล้วพอตอนเย็นประมาณ 2 ทุ่ม ผมก็ไปเข้ายิมเล่นโปรแกรมที่เราตั้งไว้คือ วันนี้จะเล่นอก พรุ่งนี้เล่นไหล่ หลัง ขา ไปเรื่อยๆ คือที่เล่นเนี่ยหมอบอกนะว่าคุณสามารถเล่นได้แล้ว จากตอนแรกที่เล่นไม่ได้จนต้องกินยา มาถึงหมอบอกว่ามันอยู่ในเกณฑ์ที่คุณสามารถออกกำลังได้นิดหน่อย แต่ผมอ่ะไม่นิดเลย เพราะว่าผมรีบ เห็นร่างกายตัวเองเป็นขนาดนี้”
หลังจากนั้นก็ฟิตร่างกายเต็มที่ “เข้าฟิตเนสอาทิตย์ละ 5 วันอ่ะครับ ใช้เวลาประมาณครึ่งปี แล้วทำอาหารกินเองด้วย 4 มื้อ มีกินอาหารปกติบ้าง แต่ใน 2 มื้อของทุกวันต้องมีกินอาหารคลีนที่เราทำเองครับ ก็ทำอย่างนั้นมาเรื่อยๆ เพราะผมมีลูกบ้า ถ้าตั้งใจจริง หรือมีเป้าหมายมันก็เลยทำให้ผมเอาชนะตรงนี้ได้”
คืออยากให้ร่างกายเรากลับมาปกติ “ใช่อยากให้กลับมาสมบูรณ์และแข็งแรง จนผมมั่นใจก็เลยมีการอัพลงไอจี เวลาไปเที่ยวที่ต่างๆ ทำกิจกรรมต่างๆ ก็จะถ่ายรูปลงไอจี อย่างขี่ช้าง ขี่ ATV แล้วพี่เจ้าของที่เคยถ่ายแบบไปครั้งที่แล้วเขาเห็นก็เลยเรียกกลับมาถ่ายอีก แต่เขาก็บอกว่าอาจจะต้องแรงนะดิว ส่วนค่าตัวมันจะมาก ผมก็โอเคครับรับเลย เพราะหุ่นผมกว่าจะมาได้ขนาดนี้ แล้วถ้าเผื่อไปเผลอกินอะไร กล้ามมันจะหายไปเลย เพราะผมไม่ได้ใช้สเตอรอยด์ไง ถ้าผมใช้อาจจะตายเลยก็ได้เพราะผมเป็นไทรอยด์อยู่ คืออย่างที่เห็นพวกที่กล้ามบึกๆ อย่างสายโมเดล เพาะกายมันต้องใช้เป็นตัวยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อให้มันบึก”
ถามถึงแฟนหน่อยเขาว่ายังไงบ้าง “ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันเป็นเหมือนเพื่อน เป็นคนที่ให้กำลังใจ ช่วยกันทำมาหากิน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันนะ ผมอยู่ลำปาง เขาอยู่กรุงเทพ นานๆ เจอที ก็มีลงรูปนะครับ อย่างครบรอบ 5 ปีที่ผ่านมาก็มีลงรูป แต่เพราะผมเป็นคนง่ายๆ ไม่ต้องมาให้คนรู้ว่าคนนี้แฟนเรานะ ซึ่งเขาเข้าใจเราทุกอย่าง เข้าใจงานเรา ตอนแรกที่เขาเห็นก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าจะแรงขนาดนี้ แต่สุดท้ายเขาก็เป็นฟีลที่ไม่ได้ตีกรอบ เขารู้ว่าเราไม่ได้ไปขอเงินใคร สร้างความเดือดร้อนให้ใคร เราก็หาเงินโดยอาชีพสุจริตของเรา เขาก็โอเค คือความคิดเขาไม่ค่อยอยู่ในกรอบเท่าไหร่ เขาโตแบบฝรั่งๆ หน่อยครับ และมันเป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ เราต้องกินต้องใช้ แล้วผมก็ลูกคนเดียว พ่อแม่ก็อายุมากแล้ว ถ้าผมมีพี่น้องอีกสักคน ผมอาจจะไม่ถ่ายก็ได้ แล้วผมทำงานประจำไม่ได้ไง เพราะผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่แนวผม งานออฟฟิต งานเด็กเสิร์ฟ งานต่างๆ ผมทำมาหมดแล้ว บาร์เทนเดอร์ งานอยู่ร้านกาแฟก็ทำ แต่ทำมาแล้วมันไม่ใช่ ผมชอบงานบันเทิงๆ มากกว่า”
ขอบคุณรูปภาพจากIG: @dew.nattapong9
