กรีน อัษฎาพร ร่ำไห้! เผยพ่อจากไปกะทันหัน ไม่มีโอกาสร่ำลา

  นางเอกสาว กรีน อัษฎาพร เปิดใจ ณ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ศาลา 9 หลังจากที่สูญเสีย คุณพ่อฉัตรฏรัฐ สิริวัฒน์ธนกุล อายุ 59 ปี ไปด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ซึ่งจากไปอย่างกะทันหันและไม่ทันได้ร่ำลา เผยคุณพ่อป่วยหลายโรค โดยมีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัว เคยเข้าห้องฉุกเฉินมาแล้วหลายครั้งแต่รอดกลับมา จากนี้พร้อมเป็นเสาหลักของครอบครัว อยากให้คุณพ่อไปสบายไม่ต้องห่วงทางนี้ ด้านหนุ่ม ธันวา สุริยจักร คอยให้กำลังอยู่ไม่ห่าง…

  ”วันนี้เป็นแรก วันรดน้ำศพของคุณพ่อนะคะ ก็ได้ทำพิธีไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็รอสวดพระอภิธรรมค่ะ วันนั้น คุณพ่อไปธุระที่สมุยค่ะ แล้วด้วยที่คุณพ่อมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เป็นโรคหัวใจและยังมีหลายๆ โรคอีก คิดว่าคนที่พอมีอายุเริ่มเข้าเลข 5 เลข 6 โรคก็จะค่อนข้างแสดงออกมาชัดเจนมากขึ้น เพราะมีความดันด้วย เขาก็ไปทำธุระที่นั่น แล้วหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันค่ะ”

  ”ทราบอยู่แล้วว่าพ่อเป็นโรค ใช่ค่ะ กรีนรู้ว่าป๊าเป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว รู้อยู่แล้ว(เสียงสั่น) เราก็คอยดูแลเขา ให้ยาบำรุง หาอาหารเสริม และให้เขาดูแลสุขภาพตัวเองมากๆ อยู่แล้วด้วยค่ะ จริงๆ ก่อนหน้านี้เคยเข้าห้องฉุกเฉินหลายครั้ง แต่ว่ารอดค่ะ ก็รอดกลับมา แต่ว่าครั้งนี้เร็วแบบงง ถามว่ากรีนเข้าใจว่าโรคหัวใจมันมีโอกาสที่จะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เราก็เคยเห็นข่าวกันทั่วๆ ไปอยู่แล้วค่ะ แต่พอมันเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวเรา ซึ่งเป็นคนที่เรารักมันก็ค่อนข้างกะทันหันมากจริงๆ”

 ”ลางบอกเหตุ ไม่มีเลยค่ะ วันนั้นกรีนทำงานด้วย ลางสังหรณ์ ไม่มีค่ะ มีแค่วันนั้นธันวาโทรมาหากรีนเพราะได้รับข่าวนี้ แต่กรีนรู้สึกกรีนครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าถึงขั้นร้ายแรงขนาดนี้ คือตอนนั้นกรีนทำธุระอยู่ ก็บอกให้ธันวาช่วยจัดการให้หน่อย จนธันวาโทรมาหากรีนอีกครั้งแล้วบอกว่ารีบกลับบ้านมานะ เดี๋ยวแม่มีเรื่องจะบอก กรีนก็ถามว่าอะไรเหรอๆ เพราะปกติที่ผ่านมามีเรื่องก็จะคุยกันอยู่แล้ว แต่เขาไม่ยอมบอก เพราะกรีนขับรถอยู่แล้วฝนตกด้วย กลับบ้านมาแม่ก็บอกว่าป๊าเสียแล้วนะ(ร้องไห้) กรีนก็ยังบอกว่าไม่จริง เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่รอกรีนเลย แต่ว่ากรีนก็พยายามเข้าใจค่ะ ก็ร้องไห้กันยกใหญ่วันนั้นค่ะ แล้วก็หาวิธีกันว่าเกิดอะไรขึ้น ทำยังไง เราถึงได้มารู้ว่าป๊าไปเสียที่สมุยค่ะ”

  ”ตอนที่คุณพ่อเสีย มีเพื่อนปะป๊าอยู่ค่ะ คือป๊าทำงานที่ใต้ ก็จะมีเพื่อนเยอะอยู่แล้วค่ะที่นั่น เขาก็บอกเหตุการณ์ คือเหมือนกับด้วยความที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว แล้วป๊าไปทานอาหารและข้างในมันร้อนน่ะค่ะ แล้วอากาศก็ค่อนข้างร้อน เขาสำรอกออกมา แล้วเร็วมากค่ะ นับ 1 2 3 แล้วฟุบเลย ก็ส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดที่เกาะสมุย ก็ปั๊มหัวใจอยู่ประมาณ 30 นาที แล้วหมอก็บอกว่าชีพจรอ่อนมากแล้ว แล้วก็ขอปั๊มเพิ่มอีก 10 นาทีได้มั้ย เป็น 40 นาที หมอก็ปั๊มให้ค่ะ แต่บอกว่าถ้าปั้มอีกเกินกว่านี้ซี่โครงจะหักเลยนะ เพราะว่าตรงหัวใจแดงหมดแล้ว ก็คือต้องปล่อยแล้ว ก็ไปเลยค่ะ (เสียงสั่น)”

 ”ไม่มีโอกาสได้ร่ำลากัน ก็ด้วยค่ะ เพราะว่า ณ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน และมันก็มีหลายๆ เรื่องที่เราก็อยากคุย อยากนั่งคุยกัน แต่ด้วยความที่เป็นโรคนี้คือจะไปตอนไหนก็ได้ กรีนเคยคุยกับเขาแล้วว่าไปได้ทุกเมื่อถ้าเขาอยู่ห่างกับกรีน กรีนก็อยากให้เขาดูแลสุขภาพตัวเองค่ะ”

  ”สิ่งที่อยากจะบอกคุณพ่อ ก็อยากจะบอกทุกเรื่องค่ะ อยากบอกรักเขา อยากจะบอกเขาว่าไม่ต้องมากังวลเรื่องตรงนี้แล้ว อยากให้เขามีความสุขค่ะ อยากให้มาคุยกันพ่อลูกแบบใกล้ชิดกัน แบบเป็นพี่น้อง เป็นพ่อลูกกันชนิดที่คุยกันทุกเรื่องได้ เพราะป๊าเขาจะรู้สึกว่าเขาจะไม่ค่อยเอาเรื่องอะไรต่างๆ มาเล่าให้ลูกฟัง กรีนก็อยากให้เขาคุยแบบนั้น กรีนก็อยากนั่งคุยกับเขาแบบเปิดใจกัน แต่ผู้ใหญ่เขาก็จะมีมุมของเขา ก็ไม่ทันได้คุยกัน”

  ”นี่คือสิ่งที่ทำให้เราเสียใจด้วย ใช่ค่ะ คือทั้งกรีนและน้องสาวก็รู้สึกว่ามันเร็วมาก ไม่ได้บอกลา ไม่ได้บ๊าย บายกันเลย ไม่ได้ลากันเลย มาเห็นอีกทีคือเป็นศพแล้ว เราก็ไปไม่ทัน เพราะกรีนต้องเดินทางหลายต่อมาก ไปถึงคือบวมแล้ว(น้ำตาซึม)”

  ”ตอนรดน้ำศพพูดอะไรกับคุณพ่อ ก็เคาะโลงค่ะ แล้วก็บอกว่ากรีนมาแล้วนะ ทุกคนก็มา ครอบครัวทุกคนก็มา มาส่งปะป๊าเป็นครั้งสุดท้าย ก็อยากให้ปะป๊ามีความสุขค่ะ ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเครียด เพราะตอนที่เขามีชีวิตอยู่เขาค่อนข้างเครียดมากในเรื่องของงาน กรีนอยากให้เขาไปแบบมีความสุขสบายจริงๆ เรื่องอะไรก็ตามที่มันเกิดขึ้นทางกรีนและน้องๆ จะรับผิดชอบดูแลทุกอย่างเองค่ะ”

  ”กลายเป็นเสาหลักแบบเต็มตัว ก็พร้อมค่ะ จริงๆ หน้าที่นี้เป็นหน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของลูก และเสาหลักก็ไม่ได้มีแค่กรีนหรอกค่ะ ก็มีน้องสาวกรีนด้วยเหมือนกัน ซึ่งเราก็ช่วยเหลือกันอยู่ค่ะ”

  ”ให้กำลังใจคุณแม่ ให้กำลังใจน้อง จริงๆ คุณแม่เข้มแข็งกว่ากรีนเยอะเลยค่ะ(ยิ้ม) พอกรีนเข้ามาบ้าน แม่พูดก่อนเลยว่า ป๊าเสียแล้ว กรีนยังไม่ทันตั้งตัวเลย แม่เขาก็พูดกับกรีนว่าป๊าไปดีแล้ว ไม่เป็นไรๆ เราเข้มแข็ง แม่ร้องไห้น้อยมาก แต่กรีนร้องไห้เยอะมาก”

  ”หลังจากนี้วางแผนยังไงกับครอบครัว ก็ทำทุกอย่างเหมือนเดิมค่ะ แล้วก็ทำให้ดีขึ้น มีอะไรที่เราต้องสะสางในเรื่องของปะป๊าเราก็จะช่วยกันสะสางและรับผิดชอบ ซึ่งครอบครัวเราทุกคนวันนี้ก็มาแล้วก็จะมานั่งคุยกันหลังจากที่จบงานศพของปะป๊า เผาเรียบร้อย เราก็จะมานั่งคุยกันว่าจะทำยังไงต่อไปเรื่องธุรกิจของเขาค่ะ”

  ”เรื่องพิธีการของคุณพ่อ ก็ด้วยกะทันหันค่ะ และด้วยกรีนที่มีงานลงตารางไว้แล้ว และน้องกรีนก็งานค่อนข้างแน่น ก็เลยตั้งศพไว้วันที่ 15 – 17 แล้วก็มีพิธีเผาวันที่ 19 พฤษภาคมค่ะ ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขนค่ะ”

  ”ขอรับเป็นเงินบริจาคเพื่อไปทำบุญให้ศพไร้ญาติ ใช่ค่ะ อันนี้เป็นความคิดของกรีนกับน้องค่ะ เพราะกรีนไม่อยากให้คนที่มาเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของพวงหรีดเยอะด้วยค่ะ อยากให้เป็นสมทบทุนแล้วช่วยเหลือผู้อื่นมากกว่า นี่คือสิ่งที่ป๊าสอนมาตลอดว่าการเป็นผู้ให้ เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่มากกว่าที่เราจะเป็นผู้รับ เราต้องเป็นผู้ให้ก่อนที่จะเป็นผู้รับค่ะ” กรีน อัษฎาพร กล่าว

กรีน อัษฎาพร

 

กรีน – ธันวา

 

กรีน พิธีรดน้ำศพคุณพ่อ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Copyright © 2016 MThai.com All rights reserved. หมายเลขทะเบียนการค้าอิเล็กทรอนิกส์ : 0127114707040