ฮอตแซงโค้งใครๆ เลยล่ะค่า สำหรับหนุ่ม แน็ก ชาลี ที่ตอนนี้ต้องเรียกว่าขึ้นแท่นเป็นเจ้าพ่อรีวิวที่มีเจ้าของสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ตัวไหนก็ตามส่งมาให้เจ้าตัวรีวิวเยอะที่สุด จนภายในหนึ่งเดือนนั้นเจ้าตัวทำรายได้ไปหลายสิบล้านนะจ๊ะ ซึ่งนี่แค่ไม่ได้รับหมด และถ้ารับหมดจะขนาดไหนพ่อคู้นน จนเจ้าตัวถึงกับต้องประกาศว่าจะหยุดรับรีวิวแล้วเจ้าค่า โดยหนุ่ม แน็ก ได้ชี้แจงในงานเปิด shop แบรนด์กระเป๋ามีมนต์ ว่า
“งานรีวิวเยอะมาก แต่ว่าตอนนี้ผมไม่รับแล้วนะ ก่อนอื่นผมต้องขอโทษลูกค้าทุกคนเลย ที่ผมอาจให้ต้องรอนาน สิ่งหนึ่งต้องเข้าใจผม คือผมไม่รับตังค์ก่อน ไม่มีดาราคนไหนที่ไม่รับตังค์ก่อนรีวิว ของที่รับรีวิว เป็นของที่ผมกินได้ ใช้ได้จริง ผมจะไม่รับตังค์ใครก่อน จนกว่าที่ผมจะลงรีวิว ผมน่าจะลืมหลายอย่างที่ยังไม่ได้รับตังค์มีเยอะนะ ผมมั่นใจมากว่ายังไม่ได้รับตังค์ เขาก็ตามว่าช่วยส่งเลขที่บัตรประชาชน น่าจะมีสัก 6-7 เจ้า”
ทำไมไม่รับเงินก่อน “ผมไม่รับเงินก่อนจริงๆ ผมต้องทำงานออกมาให้ดีก่อน ให้งานเสร็จแล้วลง และก็ลืม หลายอันมาก”
มีคนช่วยดูแลเรื่องรายรับตรงนี้ไหม “ไม่มี มีแต่คนเตือนผมว่า ทำแบบนี้ไม่ได้ ผมก็ยังยืนยัน คนจะจ่ายเงินผมก่อนที่จะลงรีวิวหลายเจ้ามาก”
ไม่กลัวว่าเงียบไปเลย ไม่ให้ค่ารีวิว “มีเงียบไปเหมือนกัน เพราะว่าผมเป็นคนไม่ตาม แต่มีลูกค้าหลายคนเขาตามเรา ขอบัตรประชาชนบ่อยมาก”
เราทิ้งงานรีวิวไปเยอะไหม “ผมพูดแบบไม่เข้าข้างตัวเองนะ หลายพันชิ้นเลย”
แว่วๆ ว่าภายใน 1 เดือนที่ผ่านมาเราทำเงินได้หลายสิบล้าน “จะบอกว่าถ้าผมรับ ผมรวยเละเลยนะ ที่ผมรับแต่ละอย่างน้อยมาก เพราะว่าถ้านับจะเห็นว่ารีวิวผมน้อยมาก ทั้งที่ผมลงวันละอันก็ได้ ขนาดว่าลงวันละอัน ยาวไป 3-4 ปียังลงไม่หมดเลย แต่บางที่เราหวั่นไหวเหมือนกัน ใครบอกว่าผมไม่สนใจเรื่องเงิน แต่บางอันให้ผมลงรูปรีวิวให้ เขาให้เงินหลายล้าน ผมก็ไปรับของมา แต่พอเรามาตั้งสติดีๆ เราก็ปฏิเสธเขาไป”
จริงๆ รายได้เราถึง 10 ล้านไหมตอนนี้ “ไม่ถึงๆ ถ้าถึงก็ดีซิ มีคนมาคุยเรื่องภาษีกับผม ผมไม่รับงานแล้วนะตอนนี้”
กลัวภาษีเหรอ “ผมมานั่งคำนวนดู สมมติผมได้ 10 ล้าน ต้องเสียภาษี 4 ล้าน เท่ากับผมทำงาน 10 ล้าน แต่ผมได้เงินจริงๆ แค่ 6 ล้าน ผมไม่ทำงานแล้ว ไม่รับงานแล้วจริงๆ”
เรากลัวโดนเก็บภาษีย้อนหลังไหม “มันโดนอยู่แล้ว เราก็มาคิดว่าเดี๋ยวเราหยุดแล้ว ไปร้องเพลงของผมดีกว่า”
อันนี้ตั้งใจจะหยุดรีวิว “ใช่ครับ ผมต้องขอโทษจริงๆ คนทักไลน์ผมมา ผมไม่ได้ตอบสักคนเลย อีกเรื่องนึงที่ผมอยากขอโทษทุกคน อาจจะมองผมว่าเป็นคนเลว ด่าเต็มที่เลย คนที่ผมสนิทที่สุด ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นใคร ผมขอโทษจริงๆ ที่ไม่ได้ไปช่วยงาน เชื่อมั้ยผมรักสัตว์ ชอบช่วยเหลือคน ช่วยเหลือสัตว์มาก แต่ไม่ชอบออกหน้า แต่ว่าตอนนี้พูดตรงๆ ผมไปไม่ไหวแล้วจริงๆ มีงานฟรีเข้ามาหาผม หลายร้อยงาน แล้วคนสนิทไลน์เข้ามาหาผมเยอะมาก ที่ผมไม่ได้ตอบ เพราะผมไม่รู้จะตอบยังไง ทุกคนให้ผมไปช่วยเหลือหมด พอผมไปให้คนนี้ ผมไม่ไปให้อีกคน เขาด่าผมเลย ตอนนี้ผมเจอแบบนี้เยอะมาก”
บั่นทอนจิตใจไหม “ไม่บั่นทอนหรอก แต่เรารู้สึกว่าเขาไม่น่าจะมาโกรธเราเลยนะ แค่ตอนนี้เราทำงาน ก็แทบไม่ไหวแล้วตอนนี้
กลัวคนมองว่าพอเราดังแล้วหยิ่ง “ไม่หยิ่งหรอก ถ้าหยิ่งผมคงไม่ทำตัวอย่างนี้แล้ว คงเลือกรับงานทุกอย่าง เป็นพรีเซ็นเตอร์ยาวๆ ผมไม่รับนะ ซึ่งมีเข้ามาเยอะมาก ที่ทำตัวสองตัวรวยเลย”
แบบนี้เหมือนปฏิเสธเงินไปเยอะ หลายสิบล้านไหม “เยอะ ผมตกใจมาก ชีวิตผมมาจุดนี้ได้ยังไง ผมบอกเลยว่าเงินที่ผมรับตอนนี้ ยังไม่เท่ากับเงินที่ผมปล่อยทิ้งแม้แต่เสี้ยวเดียว ตอนนี้ผมก็ยังไม่มีเงินนะ ผมเลือกรับงานน้อยมาก ผมจะรับรีวิวเป็นร้อยเป็นพันอันได้ บางทีผมยังคิดตลกว่า ถ้าเรารับหมดเลยเป็นพันอัน แล้วเอาจำนวนเงินคูณดู แล้วเราหายไปเลย เรารวยเลยนะ(หัวเราะ) แต่เราไม่ทำอย่างนั้น เพราะเราไม่ใช่คนแบบนั้น”
“รับงานที่เราสบายใจดีกว่า ผมอยากทำงานให้มันดีที่สุด อีกเรื่องที่ตลกมาก ผมกินหลายอันมาจนมันหมด ลืมว่าต้องรีวิวของอันนั้น อันนี้เรื่องจริงนะ ของมาตั้งเต็มบ้าน จนผมเดินไม่ได้ ผมก็กินๆ จนเขาทักมาว่าอย่าลืมรีวิวนะ ผมก็บอกว่าผมกินจนหมดแล้วพี่ ผมลืมรีวิว(หัวเราะ) เขาก็ต้องส่งมาใหม่”
ไม่หาคนช่วยดูแลจัดการว่าต้องทำอะไรบ้าง “จริงๆ ผมเคยคิดนะช่วงที่ผ่านมา บางทีเห็นผมตลก แต่จริงๆ ผมเครียดจนหัวจะระเบิดเลยนะ การคิดงานการอะไร แต่เราคิดใหม่แล้วว่าเราหยุดรับแล้วตอนนี้ เราทำงานหลายๆ อย่างแล้วค่อยๆ รับอันที่เรารู้สึกว่าเราคิดงานได้จริงๆ ถึงมันจะน้อย แต่ก็ค่อยๆ ทำ”
รวมมูลค่าแล้วถึง 20 ล้านได้ไหมที่เราไม่รับรีวิว “ไม่ใช่ 20 ล้าน ผมบอกแค่ว่ามันเยอะมาก เยอะกว่า 50 ล้าน อาจจะไม่ถึง 100 แต่ผมบอกเลยว่าเกิน 50 ล้าน”
แสดงว่าที่เขาให้เรารีวิวเขาให้เงินเยอะ “ผมตีให้เลยว่า อาหารสัตว์ให้ผมแค่ตัวเดียว 6 ล้านนะ พรีเซ็นเตอร์นะ แล้วมากันที 3-4 ตัว แล้วมีงานอื่นอีก ผมบอกเลยผมไม่เอาสักอันเลยนะ”
แล้วพวกรีวิวขนมล่ะ “พวกนั้นไม่ได้เยอะหรอก ผมก็เข้าใจว่าบางทีไม่ใช่พรีเซ็นเตอร์ งานรีวิวก็คืองานรีวิวแหละ แต่ถ้าผมรับทุกอย่างมันเยอะมากจริงๆ”
กลัวคนจะมาหวังผลประโยชย์จากเราไหม “จริงๆ มีคนเข้ามาเยอะมาก แต่ผมบอกเลยว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรไปจากผมหรอก (หัวเราะ) ผมพูดจริงๆ เพราะมีคนมาถามว่าแน็กทำงานนี้มั้ย ไม่ทำ ทำงานนี้มั้ย ไม่ทำ ตอนนี้ผมบอกเลยว่ามันเครียดจริงๆ นะ ถ้าเราคิดงานอะไรไม่ออก ผมบอกเลยว่าผมไม่ลง เพราะถ้าลงไปแล้วมันไม่ดีเดี๋ยวคุณก็มาน้อยใจเราอีก ลูกค้าก็มาน้อยใจ คนชอบก๊อบงานที่ดีที่สุดของเรามา แล้วก็บอกว่าต้อง 4 พันคอนเม้นท์ ผมก็บอกว่าดาราที่เขาสูงส่งกว่าผมเยอะยังทำไม่ได้เลย มันยากมาก การที่คอมเม้นท์ขายของเนี่ย ไอจีคนอื่นเราจะเห็นว่าแทบไม่มีคนเลยนะ 3-4 คนมาคอมเม้นท์ แต่ของผม 3-4 พันคน”
แสดงว่าเงินเยอะขนาดไหนก็สู้อุดมการณ์เดิมของเราไม่ได้ใช่ไหม “ผมบอกเลยนะ ผมโคตรหวั่นไหวเลย (หัวเราะ) อย่างผมไม่รับเครื่องสำอาง แต่สิ่งที่ให้เงินเยอะมากคือเครื่องสำอาง แล้วก็มีติดต่อมาถึงทุกวันนี้ ผมก็บอกว่าถึงชีวิตจริงผมจะทาลิปมัน แล้วผมก็ทาเต่าทุกวัน หรือเวลาผมอยู่กองผมก็ปัดคิ้ว แต่ผมน่ะแพ้แป้ง แต่เราก็ยังกลั้นใจว่าเราไม่รับแม้แต่ลิปมัน เพราะกลัวคนเข้าใจว่ามันก็คือเครื่องสำอาง ทั้งที่เงินมันเยอะมาก”