อยู่ในเหตุการณ์จริง! ฟรอยด์ เปิดปากเคลียร์! เอี่ยวมอมยา นศ.

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่ง ที่ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยลูกผู้หญิง ซึ่งเธอได้ระบุข้อความไว้ประมาณว่า ไปทานข้าวกับรุ่นที่ฝึกงาน และได้เจอกับดารา ฟ. ซึ่งได้ยื่นเยลลี่ให้เธอทาน จนมีอาการใจเต้นแรงและจะขาดสติเหมือนโดนมอมยา โดนเธอได้ไปแจ้งความไว้ที่สน. ลาดกระบัง กระทั้งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานและพยานแวดล้อมต่างๆ ไว้และเตรียมนัดดารา ฟ. มาสอบปากคำเพิ่มเติมวันที่ 20 พ.ย.

ซึ่งล่าสุดดารา ฟ. ที่อยู่ในข่าวก็คือนักแสดงหนุ่ม ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ที่เจ้าตัวได้เปิดปากชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดผ่ายรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ว่า

“ผมไปร้านนั้นจริง ผมอยู่ในเหตุการณ์ ฟ. ฟันคือฟรอยด์ครับ เรื่องอย่างที่บอกว่าประมาณวันอังคาร ผมก็ไปกินข้าวของผมปกติ รุ่นน้องผมก็มาพร้อมกับน้องอีกคน ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ผมไม่รู้จักส่วนตัว ซึ่งร้านนี้ผมไปประจำอยู่แล้ว เขาเข้ามาในร้านกับรุ่นน้องคนนี้ เขาก็เข้ามาขอนั่งด้วย เขาก็สั่งอาหาร ขนมมากินกัน ก็ไม่ได้ว่าอะไร สามารถจอยโต๊ะกันได้ เพราะรุ่นน้องผู้ชายผมก็สนิทกัน ส่วนน้องผู้หญิงผมก็ถือว่าโอเคเป็นน้อง”

“ผมไม่ได้นัดเขามา แต่บังเอิญมาเจอกันเฉยๆ เราบังเอิญมาเจอกันที่ร้านนี้ ผมนั่งอยู่คนเดียวอยู่แล้ว พอสั่งอาหารกินกันปกติ น้องเขาหนาว เขาก็บอกพนักงานในร้าน ก็ให้ปิดแอร์ให้ สักพักก็เหมือนเบลอๆ จะเป็นลม เราก็ตกใจ ผมบอกน้องให้กินน้ำหวานอะไรก่อนมั้ยแบบนี้ ที่บอกว่าผมเดินออกไปข้างนอก ผมคิดว่าน้องเขาน่าจะเกิดจากการร้อนมาจากข้างนอก ฮีทสโตรก หรืออะไรแบบนี้ ผมก็เลยแนะนำให้เขากินอะไรก่อนมั้ย ทุกคนในร้านก็เห็น”

“เสร็จแล้วรุ่นน้องผมก็เรียก Grab ไปกับนักศึกษาคนนี้ โดยที่ผมยังอยู่ในร้าน ผมก็รู้ว่าปลายทางเขาไปโรงพยาบาล ผมก็งงว่าข่าวมันมาถึงผมได้ยังไง ว่าผมไปมอมยาน้องได้อย่างไร ที่บอกว่าผมยื่นเยลลี่หรือเจลลี่ให้น้องเขา คือผมไม่ได้ยื่นให้กินอะไรทั้งนั้น เขาสั่งมากิน จอยกันบนโต๊ะ เราสั่งอาหารหลายอย่างมากินบนโต๊ะเยอะ ผมก็ไม่รู้น้องเขากินอะไรผิดสำแดงเข้าไปหรือเปล่า ก็เลยเกิดอาการนี้ขึ้น”

“เยลลี่ที่อ้างว่าผมเอามาจากต่างประเทศ ผมไม่รู้ว่าน้องเขาเอาข้อมูลนี้มาจากไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนได้ว่าผมไม่ได้ให้เขา ไม่ได้บังคับให้เขากินอย่างแน่นอน ขนมบนโต๊ะมีหลายอย่างมาก ขนมเราเอามาแชร์กัน ขนมก็มีของผมด้วยที่เอามาจากต่างประเทศ ของคนอื่นด้วย ก็เอามาแชร์กัน กินด้วยกันปกติ แล้วก็ไม่ได้มีการให้กินเยลลี่ไม่ใช่ของผมครับ ผมก็งงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันลามมาถึงผมได้”

“เรื่องที่เดินออกไปสูบบุหรี่กับรุ่นน้องผู้ชาย อันนี้คือตอนที่น้องเขาเกิดอาการแล้ว พอเข้ามาน้องก็มีอาการมึน ก็บอกให้กินอะไรหวานๆ มั้ย เราก็คิดว่าน้องน่าจะเหนื่อยหรือฮีทสโสตรกมาจากข้างนอก เราไม่ได้ให้อะไรเขากิน เขาบอกว่าเขาจะไปโรงพยาบาล รุ่นน้องที่เป็นผู้ชายก็พาน้องไปรพ. ผมนั่งอยู่ร้าน ส่วนเรื่องที่สั่ง Grab ไปปักหมุดที่อื่นที่ไม่ใช่โรงพยาบาลก็ต้องถามรุ่นน้องชายที่พาไป เพราะตอนนั้นผมอยู่ร้าน และเท่าที่ทราบมาสุดท้ายแล้วเขาก็พากันไปที่โรงพยาบาลจริงๆ”

“ไม่ได้ไปที่โรงแรมตามที่ข่าวนำเสนอ จากที่ผมได้ทราบจากรุ่นน้องนะ ผมได้มีโอกาสคุยกับคุณพ่อน้องผู้หญิงตอนที่กำลังเรียกรถมา แต่แล้วน้องเขาก็หยิบไปแล้วขอคุยกับคุณพ่อเอง รุ่นน้องผมที่เป็นผู้ชายก็คุยกับคุณพ่อน้องผู้หญิงตลอดเวลา น้องผู้ชายบอกตลอดทางคุณพ่ออยู่ในสายครับ ข่าวหลายอย่างมันผิดเพี้ยนจากเดิมมาก ตอนนี้มันก็ลามมาถึงงานของผม อีเว้นท์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้เขาก็เริ่มไม่สบายใจ อยากให้ผมออกมาพูด ผมก็ยินดีจะออกมาพูด เพราะมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับผมเลยเรื่องนี้”

ส่วนเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะเรียกไปสอบปากคำวันที่ 20 พ.ย. เจ้าตัวกล่าวต่อว่า “ตอนนี้ผมยังไม่ได้รับสายจากตำรวจ หรือจากใคร ผมไม่รู้ว่ากระบวนการมันเป็นอย่างไร แต่ผมก็ยินดี แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมเลย และมันก็กระทบเสียต่อหน้าที่การงานผมด้วย สุดท้ายแล้วถ้างานผมถูกยกเลิกทั้งหมด ก็อาจดำเนินคดีเรียกร้องค่าเสียหายต่อหน้าที่การงานของผม ถ้าผมเสียหายในงานก็คงต้องมีดำเนินคดี ยืนยันผมไม่ได้วางยา ไม่ได้มอมเขา ไม่ได้มีการยื่นอะไร ไม่ได้มีการออกไปไหนกับน้องเขาด้วย และก็ไม่ได้รู้จักส่วนตัวกับน้องเขาเลย”

ขอบคุณรูปภาพจากIG: @freudonidas และข้อมูลจากรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Copyright © 2016 MThai.com All rights reserved. หมายเลขทะเบียนการค้าอิเล็กทรอนิกส์ : 0127114707040