ใครกันหนอทำให้สองพิธีกรอารมณ์ดีอย่าง อ้น ศรีพรรณ กับ เอกกี้ เอกชัย ถึงกับเอือมระอาไม่ไหวจะทน! เมื่อได้ร่วมงานกับศิลปินดังในอีเว้นท์งานหนึ่ง ทั้งเรื่องเยอะ มาสายแล้วยังขอเวลาทอดอารมณ์ไม่ยอมขึ้นโชว์ ทำเอาทีมงานออแกไนเซอร์ปั่นป่วนเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากันยกใหญ่ อ้น-เอกกี้ ที่เป็นพิธีกรในงานนั้นก็ต้องรับหน้าที่ยื้อเวลาบนเวทีช่วยแก้ปัญหาไปด้วยอีกแรง หลังจากเสร็จงานทั้งคู่เลยแท็กทีมทำคลิปขำๆ แต่แอบเหน็บถึงศิลปินดังเจ้าปัญหาลงอินสตาแกรมส่วนตัว ล่าสุดมีโอกาสเจอ อ้น-เอกกี้ มาร่วมงานเปิดตัวธุรกิจแบรนด์ PANANCHITA ทั้งคู่จึงได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า โพสต์เพื่อต้องการความเห็นใจ เพราะการทำงานร่วมกับคนหมู่มากต้องใจเขาใจเรา เตือนอย่าทำอะไรที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นเท่านั้นเอง
อ้น “คลิปที่โพสต์ลงไอจีไม่ได้เกี่ยวกับว่าใคร คือตอนนี้การทำงานของเรา เราเจอคนเยอะ”
เอกกี้ “เราทำงานพิธีกรเยอะ เราไปงานเยอะ เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น เหมือนกับเราต้องโคกับการทำงานทุกๆ ภาคส่วนเลย เราอยากให้ทุกอย่างเห็นใจและเข้าใจซึ่งกันและกัน”
อ้น “คือพิธีกรจะต้องอยู่ตลอดงานตั้งแต่ต้นจนจบถูกมั้ยคะ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในงาน พิธีกรจะต้องเป็นตัวดำเนินทั้งหมดและแก้ไขปัญหาหน้างาน ทีนี้พิธีกรก็ต้องทำงานร่วมกับคนอื่นเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ออแกไนซ์ ศิลปิน ซึ่งหลังๆ ที่เราเจอมาเยอะคือต้องให้เรายื้อรอ ซึ่งยื้อเนี่ยไม่ว่า เค้าต้องเซ็ตวง 10-15 นาที อันนี้เป็นทุกงานอยู่แล้ว แต่บางทียื้อ 30-45 นาที บางทีคนในงานเค้าไม่เข้าใจนะว่าเรายื้ออะไร เค้าก็จะแบบทำไมไม่ส่งเข้าวงดนตรีสักที ซึ่งเหตุผลตรงนั้นบางทีศิลปินก็มาช้าพูดจริงๆ หรือบางทีศิลปินมาแล้วขอทำอารมณ์ก่อน ไม่ขึ้น มายืนอยู่ตรงรถตู้ทำอารมณ์ แล้วเราอยู่บนเวทีไง นี่ไม่ได้จะว่าใครเจาะจงใคร เราแค่อยากจะบอกองค์รวมว่า ถ้าเราทำงานคนเดียวร้องเพลงคนเดียวที่บ้านไม่เป็นไร แต่ทำงานกับคนอื่นเห็นใจกันบ้าง เรายื้อจนไม่รู้จะยื้อยังไงแล้ว”
เอกกี้ “เรื่องมาสายไม่เป็นไรเราเข้าใจนะ บางทีเราก็เคยสาย เราก็สามารถที่จะยื้อ แต่ว่ามาแล้วไม่ขึ้นขออีก 10-15 นาที อันนี้เพื่ออะไร เราก็ฝากถามไว้ด้วยแล้วกัน”
อ้น “บางทีออแกไนเซอร์บอกว่าอีก 10 นาที ด้วยประสบการณ์เราคือแบบ 10 นาทีนี้พิกัดเค้าอยู่ที่ไหน สมมติงานอยู่พัทยาแล้วถ้าบอกว่าอีก 10 นาที แต่อยู่มอเตอร์เวย์ อันนี้ก็ไม่ใช่ 10 นาทีแล้วถูกมั้ย”
เอกกี้ “เราจะได้รู้ว่าเราจะต้องทำอะไรต่อไปจะได้แก้ปัญหาถูก บอกผู้จัดการตลอดว่าเราต้องบอกออแกไนซ์ตรงๆ ว่าเราอยู่ที่ไหน เพื่อที่เค้าจะได้จัดเตรียมที่จะทำอะไรต่อไป”
อ้น “เราสองคนจะไม่มีพูดคร่าวๆ ว่าทางด่วนแล้ว ออกจากบ้านแล้ว ไม่มี แล้วส่วนใหญ่เราไม่ค่อยสายจะไปก่อนเวลาตลอด โพสต์ไปแล้วไม่มีใครสงสัยหรอก เพราะคลิปเราเป็นคลิปฮา แสดงกลับกันเป็นว่าพิธีกรขอยื้อ และมีน้องปอ เอเอฟ เต้นยื้ออยู่”
เอกกี้ “ทำขึ้นมาเป็นคลิปสนุกๆ สไตล์เรา ทำขึ้นมาไม่ได้ต้องการที่จะบอกไปถึงใครยังไง”
อ้น “เพียงแค่ขอความเห็นใจ ซึ่งบางทีมันก็มีเหมือนกันที่เราไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น เราก็ยอมรับ แต่ถ้าเป็น 100 ครั้งที่ไม่ถูกใจกันไม่น่าจะเกิน 10 งาน เพราะว่าเราไม่ค่อยไปงานสาย และเราก็ไม่ค่อยสร้างปัญหาให้กับใคร”
เอกกี้ “งานเสร็จเร็วก็กลับบ้านเร็วเนอะทุกคน”
อ้น “ลงคลิปไปมีใครมาแสดงตัวมั้ยเหรอ ก็ยังไม่มีใครมาถามนะ มีแต่น้องว่าน ธนกฤต มาบอกว่า ถ้าเป็นพี่ ผมจะยื้อจะง้างให้สุดเลยครับ”
เอกกี้ “อยากจะบอกว่าศิลปิน 100 คน น่ารักเกือบทุกคนแหละ มีแค่ไม่กี่วงแหละที่ทอดอารมณ์”
อ้น “เรายังนั่งคุยกันนะ บางทีตัวเค้าเองอาจจะยังไม่รู้ว่าเค้าช้า เพราะต้องคุยกับผู้จัดการเค้า เค้าแค่นั่งรถตู้มา แล้วก็มาร้อง เราก็เออหรือว่าเค้าไม่รู้ เพราะเค้ามาแล้วยังทอดอารมณ์ ถ้าจะคุยเรื่องนี้ต้องเข้าที่ประชุมเลย และต้องถามเพราะรายละเอียดเยอะ”
เอกกี้ “แค่อยากบอกว่ายังไงก็เป็นพี่น้องในวงการ เราต้องเจอกันอยู่แล้ว ถ้อยทีถ้อยอาศัยเถอะ”
อ้น “เราก็ตัวน้อยกว่าพวกคุณ เราพูดจริงๆ ศิลปินได้ค่าตัวเยอะกว่าอีก อันนี้แค่ศิลปินกับพิธีกรนะ ยังมีทีมงานอีก ซึ่งเค้าได้เงินน้อยกว่าเราอีก เค้าจะต้องมาแก้ปัญหาให้เรา สงสารเค้าเถอะ หลังๆ เจอบ่อยมากจนทำคลิปอ่ะ เพราะเราไม่รู้จะไปบอกใครหรือสังคมมันเปลี่ยนไปหรือเปล่า แต่เราก็ทบทวนทำการบ้านนะ จนตอนนี้เวลารับงานออร์แกไนเซอร์ติดต่อมาเราบอกผู้จัดการเลยว่านอกเหนือจากงานที่เราจะต้องทำอะไรแล้ว ราคาเท่าไหร่แล้ว ต้องถามด้วยว่าศิลปินคือใคร เราจะได้เตรียมใจถูก (หัวเราะ) ก็เป็นกระบอกเสียง ตอนนี้ถ้าให้เราเลือกระหว่างเป็นพิธีกรกับศิลปิน เราก็อยากเป็นศิลปินนะ เพราะไปแค่ช่วงเดียวเอง เสร็จก็กลับเลย เราก็คิดถึงสามีเรา (หัวเราะ)”