แม้ในละคร บุพเพสันนิวาส จะไม่ได้คู่กัน และไม่ค่อยได้เข้าฉากร่วมกันสักเท่าไหร่ แต่ชีวิตจริงของขุนนาง “ฟอลคอน” หรือ หลุยส์ สก๊อต และ “แย้ม” บ่าวของแม่นายการะเกด หรือ นุ่น รมิดา นั้นแฮปปี้อินเลิฟกันสุดๆ ล่าสุด หลุยส์-นุ่น สวมชุดไทยควงกันมาหวานอย่างกับคู่บ่าวสาวร่วมงานเปิดตลาด “อยุธยาไนท์มาร์เก็ต” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส พร้อมอัปเดตเรื่องข่าวดีที่ทุกคนลุ้นกันว่า ตอนนี้ทั้งคู่ยังไม่พร้อม ขอทำงานเก็บเงินสร้างครอบครัวก่อน ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่เอาไว้บ้างแล้ว แต่ทุกอย่างต้องรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพราะถึงยังไงก็ไม่หนีไปไหนไกล ประกาศชัดกลางวงสัมภาษณ์เลยว่าคนนี้แหละที่จะแต่งงานด้วย
นุ่น “วันนี้เกินคาด ต้องขอบคุณพี่น้องชาวอยุธยาด้วยที่วันนี้มาให้กำลังใจเรา ไม่ใช่แค่เราสองคน แต่ให้กำลังใจทีมบุพเพด้วย ไม่ว่าวันนี้ตัวละครตัวไหนมานุ่นเชื่อว่าชาวอยุธยาก็จะมาดูมาชื่นชมค่ะ ฟีดแบกเกินคาดค่ะ ทุกๆ ครั้งที่สัมภาษณ์ก็บอกว่ามันเกินคาดไม่คิดว่าตัว 3-4-5 อย่างเราเนี่ยคนจะรักขนาดนี้ ก็มีคนมาทัก มาเรียกอีแย้มๆ ขนาดแต่งตัวสวยขนาดนี้ คนก็เรียกอีแย้ม ก็โอเคค่ะ (อีแย้มกับฟอลคอน ก็ทำตลาดแตกเหมือนกัน?) ขอบพระคุณเจ้าค่ะ เกินคาดจริงๆ มันอธิบายไม่ถูก มันเหมือนทุกอย่างก็เปลี่ยนเหมือนกัน”
หลุยส์ “ก็นึกไม่ถึงนะครับ เพราะว่าเราก็ไม่ได้ฟีเวอร์แค่ในเมืองไทยอย่างเดียว ไปต่างประเทศด้วย ผมเชื่อว่าคนที่อยู่ต่างประเทศตอนนี้ก็คิดถึงเมืองไทยมากขึ้นกว่าเดิม อยากที่จะกลับมาลิ้มรสบรรยากาศแบบนี้ มันพูดไม่ถูกครับ ไม่ต้องแต่งตัวเต็มขนาดนี้ก็ได้เพราะว่าก็ร้อนอยู่ (หัวเราะ) แต่เราแต่งให้มีกิมมิคแล้วมาเดินตลาดแบบนี้ ได้เห็นพ่อค้าแม่ค้าทุกคนว่าเค้าแต่งตัวกันแบบนี้มันทำให้เรารู้สึกเหมือนกับยิ่งอินเข้าไปใหญ่ ไม่ใช่แค่กิมมิคจริงๆ เพราะว่าที่นี่มันเป็นสถานที่จริงๆ ก็อยากให้มาลองครับ (ย้อนไปตอนถ่ายทำคิดมั้ยว่าละครมันจะฟีเวอร์ขนาดนี้?) ผมก็นึกไม่ถึงนะครับ แต่ว่านุ่นเค้าก็บอก เพราะเค้ามาตั้งแต่ต้นแล้วครับ เพราะของผมเป็นพาร์ทอดีตที่มาทีหลังด้วย ซึ่งนุ่นเค้าก็บอกมีความรู้สึกว่าที่พี่ใหม่เค้าถ่ายทำออกมาถ่ายทอดออกมามีความรู้สึกเหมือนจะดังแน่ๆ เลย เพราะว่าเราก็พูดถึงเรื่องความทันสมัยของยุคนี้ย้อนกลับไปถึงอดีตมันก็เลยกลายเป็นความผสมผสานที่ลงตัว”
นุ่น “คือจริงๆ เราจะบอกว่าเราเล่นละครเรื่องนี้เราค่อนข้างภูมิใจมากนะคะ ที่เราสามารถเอาคนหลายๆ เจนเนอเรชั่น เดียวกันแบบผู้ใหญ่คนแก่ แม้กระทั่งเด็กมัธยม เด็กประถมคือเค้ามาอยู่ในจุดเดียวกันได้ เราก็มีความรู้สึกว่า 1 ในนักแสดงบุพเพฯ เราก็ดีใจ อย่างเด็กๆ ที่ตามฟอลโล่ IG เรากลายเป็นเด็กมากขึ้น บางทีก็อินบ็อกมาว่า พี่พรุ่งนี้หนูจะสอบค่ะ อวยพรหนูหน่อยเราก็ เอ๊ะ…มันแปลกไป (คนตามเยอะขึ้นขนาดไหน?) นุ่นกับหลุยส์ก็เยอะค่ะ คือจริงๆ ไม่ใช่แค่นุ่นแค่หลุยส์นะคะ น้องเอิร์ธออกมาฉากเดี่ยวยอดฟอลโล่ก็ขึ้นไม่รู้เท่าไหร่ ก็ตกใจค่ะ เพราะไม่คิดว่ามันจะมาถึงเราไง เอาตรงๆ เหมือนพอยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ทุกครั้งที่ได้สัมภาษณ์นุ่นค่อนข้างระวังกว่าเมื่อก่อนเยอะ เพราะถ้าพลาดครั้งเดียว พูดผิดครั้งเดียวมันมหาศาล”
นุ่น “การดำเนินชีวิตไม่เปลี่ยนค่ะเหมือนเดิม แต่อาจจะทำงานหนักขึ้นแค่นั้นเอง แต่ว่าเราเป็นยังไงเราก็อยากให้คนเห็นเราเป็นแบบนั้น (ถือเป็นละครเรื่องแรกเลยมั้ยที่ประสบความสำเร็จ?) (พยักหน้า) เล่นบทไฮโซเล่นไรมาตั้งเยอะ ได้ดีเพราะบทบ่าว นุ่นว่ามันเป็นจังหวะของชีวิตถ้าเราไม่ได้คาดคิดแล้วมันมามันก็โอเค (บรรยากาศในกองถ่าย เล่นคนละบทบาท คนละฝั่ง เวลาเจอกันเป็นไงบ้าง?) ก็คุยกันปกติเนอะ”
หลุยส์ “ก็เจอกันใยตลาดนี่แหละครับ เค้าก็พยายามที่จะแกล้ง แต่เราก็พยายามจะไม่เล่นด้วย เพราะต้องตั้งใจกับบทตอนนั้นเป็นภาษาฝรั่งเศสด้วย แล้วก็เป็นช่วง 2 วันแรกที่ได้เข้าฉากเป็นตัวฟอลคอนก็เลยต้องตั้งใจนิดนึง”
นุ่น “เหมือนเราเป็นรุ่นพี่ไง พอน้องใหม่มาทุกคนอย่าง พี่หยา เบลล่า จะเล่นจะแกล้งกันหมด”
หลุยส์ “เป็นละครเรื่องที่ 2 ที่เล่นด้วยกัน เรื่องแรกคือรวมพลคนแจ๋ว”
นุ่น “เรื่องเขินไม่นะ เราไม่เขิน”
หลุุยส์ “ผมก็มีอยู่บ้าง มันก็เขินไปหมด เพราะเราต้องมาเป็นอะไรที่ไม่ใช่เรา เหมือนกับเราก็ต้องแสดงตัวเองทำทุกอย่างให้มันแตกต่างจากปกติที่เราทำ เป็นเรื่องธรรมดานะที่เขิน แต่ถ้าเจาะจงก็ไม่รู้ว่าตรงไหนเหมือนกัน (พอกระแสมาแบบนี้มีงานคู่ติดต่อเข้ามามั้ย?) ก็มีบ้าง”
นุ่น “ก็รับเป็นเรื่องปกติค่ะ ก็เป็นคู่ที่พอถึงจุดนึงก็ออกมารับงานคู่ เราก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองว่าไม่รับงานคู่ เพียงแค่เลือกงาน แต่ช่วงนี้นักแสดงบุพเพก็ออกงานกันทุกคน เพราะเรามีกรุ๊ปไลน์ของบุพเพอยู่แล้ว”
หลุยส์ “ก็บอกกันอยู่เรื่อยๆ อัปเดทว่ามีข่าวสารอะไรใหม่ๆ มีภาพหรือวีดิโอล้อเลียนออกมาอยู่เรื่อยๆ เราก็ขำกันทั้งกลุ่มเพราะว่ามันน่ารักดี (คนจับเรื่องค่าตัวอย่างโป๊ปก็เพิ่มขึ้น?) แล้วแต่สิทธิ์ที่เค้าจะทำ แต่เรายังคงที่เหมือนเดิม”
นุ่น “ของนุ่นก็เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าแต่ก่อนคนไม่ซื้อเท่านั้นเอง (หัวเราะ) คือตอนนี้นุ่นจะคู่กับพี่หยาซะส่วนใหญ่ จริงๆ วันนี้พี่หยาก็ต้องมาแต่ติดละครเวที พอพี่หยาไม่ได้มาก็เลยสวมเป็นการะเกดซะเลย (อัปเดตเรื่องแต่งงานหน่อยไปถึงไหนแล้ว?) เหมือนเดิมค่ะ ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า (แต่ชุดวันนี้ได้มาก?) บ้า…ออเจ้าอย่าเที่ยวพูดไป เดี๋ยวฟอลคอนเฆี่ยนนะออเจ้า”
หลุยส์ “ออเจ้า อย่าพูดอย่างนั้นสิ เดี๋ยวโดนเฆี่ยนนะ (ขอแต่งงานกันแล้วที่ญี่ปุ่นจริงมั้ย?) อย่างที่ผมพูดไปแล้วรอบนึง พูดในความรู้สึกของผมที่รู้สึกดีกับคนนึง เหมือนกับถ้าเราไม่สามารถที่จะบอกความรู้สึกของเราได้ทั้งหมด เราก็อยากจะหาสิ่งของอะไรที่เป็นของขวัญให้เค้ารู้ถึงความรู้สึกของเรา”
นุ่น “(ก็คือตีตราจองก่อน?) โนๆ จริงๆ วันนั้นหลุยส์เค้าเอาเพื่อนไปเซอร์ไพรส์ เราคุยกันนานมากแล้วว่าเราจะไปญี่ปุ่น แล้วอยู่ดีๆ เพื่อนก็แคนเซิลกลางอากาศ แต่พอไปถึงอยู่ดีๆ โผล่มา เค้าเอาเพื่อนสนิทนุ่นไปเซอร์ไพรส์แค่นั้นเอง”
หลุยส์ “(แต่ยังไม่ได้หมั่นหมายกันเพราะอนันดาบอกไปเป็นสักขีพยานให้?) อันนี้ก็ต้องไปถามเค้าแล้วแหละ สักขีพยานอะไร”
นุ่น “ใครเขียนก็ไปถามคนนั้น พร้อมมั้ยเหรอ ก็ดูตามสถานการณ์ค่ะ ก็อย่างที่เห็นตอนนี้คงยังไม่พร้อมหรอกเพราะว่าอะไร เอาเงินก่อนสิคะ งานมันเข้ามาเยอะค่ะ เราก็ต่างมีภาระกันทั้งคู่ต่างมีครอบครัว เรื่องการแต่งงานสำหรับนุ่นไม่กดดันค่ะ เหมือนเราคุยกันตลอดเราเข้าใจกันว่าทำไมเพราะอะไร ตอนนี้นุ่นก็แฮปปี้ดี อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดค่ะ พูดแบบซันนี่ได้มั้ย แต่งเมื่อไหร่ก็แต่ง คือจริงๆ เราโดนคำถามนี้มาหลายปีละเนอะ หลุยส์โดนมานานมากเลยนุ่นเลยเข้าใจว่าพอวันนึงนุ่นได้ออกสื่อทุกคนก็น่าจะถามว่าฝ่ายหญิงรู้สึกยังไง ไม่ได้รู้สึกอะไรเฉยๆ ค่ะ”
หลุยส์ “ก็เอาแบบพูดง่ายๆ คนนี้แหละที่จะแต่ง แม่แย้มนี่แหละ”
นุ่น “สินสอดไม่ได้เยอะอะไรหรอกค่ะ พ่อแม่ใจเย็น วางแผนเรื่องทายาท เราทั้งคู่ก็แค่รู้สึกว่าพอเห็นเด็กก็อยากมี แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกที่วันนี้จะมีเลย อย่างที่เห็นมันเหมือนเดิมทุกวัน แต่ถามว่าไม่คิดก็ไม่ใช่ เพียงแต่รอจังหวะรอเวลาให้ดีๆ”
หลุยส์ “กับผู้ใหญ่ผมเคยคุยกับท่านแล้ว ถ้าในอนาคตสมมติว่าเป็นจริง เค้าจะคิดอะไรยังไงโอเคมั้ยกับคนนี้”
นุ่น “แม่นุ่นเหรอ เอาโทรศัพท์มาหน่อยค่ะ เดี๋ยวโทรหาก่อน (เค้าอาจจะขอกันไว้แล้วแต่เราไม่รู้?) เออ เป็นผู้หญิงตอบไรมากมายเราไม่รู้อะไรไง (ไม่ทันปีนี้?) อูยยย ไม่ทันแล้วค่ะ คงไม่แล้วค่ะ เพราะอย่างที่เห็นคนนี้เค้าก็น่าจะงานยาว สิ่งนึงที่ทำให้เราอยู่กันได้นานเพราะเราเข้าใจกันมากกว่าค่ะ เราหนักเบาเอาสู้กันทั้งคู่ ขยันทำงานสร้างตัวเองทั้งคู่ เพราะฉะนั้นเวลาเค้าเหนื่อย เหนื่อยเรื่องเดียวกัน เพราะเราทำงานอาชีพเดียวกัน มันก็เลยเหมือนเข้าใจกันง่ายขึ้น มันไม่ได้ต่างอาชีพ หวงมั้ยเหรอ จะพูดว่าไม่หวงก็ไม่ใช่ผู้หญิงอ่ะเนอะ หวงแต่ว่าไม่ได้หน้ามืดตามัว หวงก็หวงเค้ามันก็เป็นเรื่องปกติ ถ้าเป็นเรื่องของการทำงานไม่ค่อยเท่าไหร่ เพราะว่าเราทำงานตรงนี้เราก็รู้”