น้ำตาคลอเบ้า ทำไมหาว่าสร้างภาพ…. แม่โบว์ แวนดา ยืนยันยังเคารพรักอาน้ำอ้อย อย่างน้อยเคยดูแลปอและครอบครัว ยอมรับว่าเสียใจที่ อาน้ำอ้อย อดีตคนดูแลมองว่าสร้างกระแส ถูกสังคมโซเชียลโจมตีถึงบุพการี บอกตัวเองก็มีหัวใจ วอนด่าได้แต่อย่าแรง หากไม่ถึงที่สุดคงไม่ออกมาประกาศตัดขาด ไม่คิดจะกลับไปเคลียร์ใจต่างคนต่างใช้ชีวิตดีที่สุดแล้ว
”ดราม่าที่อาน้ำอ้อยคุยกับม้า อรนภา จริงๆ แล้วโบว์ไม่ได้อ่าน แล้วก็ไม่ได้เห็นแต่มีคนมาเล่าให้ฟัง ครั้งแรกที่ทราบข่าว คือเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว อย่างที่เคยบอกทุกคนมีเหตุผลค่ะ ถามว่าเสียใจไหม มันเสียใจอยู่แล้วค่ะ การไม่ได้คุยกันไม่ได้หมายความว่าโบว์ไม่เคารพคุณอานะคะ ก็ยังเคารพคุณอาถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอกันก็ตามแต่”
”คำพูดของคุณอาที่ว่าไม่ชอบสร้างกระแส ไม่ชอบดราม่าแต่มีมาตลอด โบว์ก็ไม่รู้ว่าจะสร้างกระแสให้คนด่าทำไม มีกระแสก็ไม่เห็นว่างานจะเยอะขึ้น ไม่อยากให้เป็นกระแสแล้วมีคนมานั่งด่าว่าเรา ไม่ใช่โบว์คนเดียวที่เสียใจ คุณพ่อคุณแม่ครอบครัวเสียใจหมด มันไม่ได้สนุกกับการที่เรามาอยู่ในที่แจ้ง แล้วต้องโดนคนด่าว่าด้วยคำหยาบคาย โบว์ไม่ได้สนุกไม่ได้มีความสุขกับการที่ต้องมานั่งอ่านคนด่าถึงพ่อถึงแม่ ทุกครั้งที่ออกมาก็พยายามเข้มแข็ง แล้วก็ตอบคำถามทุกๆ คน มีบางคำถามที่โบว์ไม่อยากตอบโบว์ก็ตอบให้ คำถามที่ตอบแล้วโบว์ร้องไห้โบว์ก็ตอบให้(เสียงสั่น) ก็อยากจะให้ปัญหานี้มันจบลง คือเราไม่อยากรับรู้แล้ว อย่างที่บอกคำพูดคนหรือความคิดคน มันเป็นสิทธิ์ของเขาโบว์ห้ามไม่ได้”
“เหตุการณ์ครั้งนี้มันบั่นทอนความรู้สึก บอกตรงๆ ก็มีน้ำตา ไม่มีใครชอบให้มีคนมานั่งด่าเราคือด่าได้ค่ะแต่อย่าแรง โบว์ก็เจ็บเป็นเสียใจเป็น ไม่ได้อยากพูดให้คนมาเห็นใจเรา แต่อยากให้ปัญหามันจบได้แล้ว ตัวโบว์ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้มันนานมากแล้วและที่ผ่านมาก็ยังย้ำคำเดิมว่ามันถึงที่สุดเลยต้องทำ ไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบไตร่ตรองมาแล้วคิดมาแล้ว พยายามแก้ไขทุกอย่างแล้วเมื่อมันไม่ได้ก็ต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ยังเคารพคุณอาอยู่เสมอถึงแม้ว่าวันนี้ไม่ได้คุยกัน ก็อยากให้ท่านได้อยู่ตรงที่ท่านมีความสุขที่สุด”
”มีคนตีความผิดๆ รู้สึกยังไงบ้าง ก็เสียใจแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากให้เขาด่าโบว์ เพราะโบว์ไม่สามารถไปอธิบายให้เขาฟังได้ โบว์คิดว่าคำพูดใครก็พูดได้คิดอะไรพูดอะไรก็ทำได้สามารถทำให้เราเป็นคนดีคนหนึ่งได้ โบว์ยังเชื่อเรื่องของการกระทำมากกว่า แม้ว่ามันจะนานแค่ไหนให้คนด่าว่าเราแค่ไหน แต่ก็ให้เวลาให้ทุกสิ่งทุกอย่าง มันตัดสินจากการกระทำดีกว่า”
”ถ้าย้อนกลับไปได้ วันนั้นเราจะโพสต์แบบนี้มั้ย ไม่อยากทำแล้วก็ไม่เคยอยากทำ แต่ต้องทำ ไม่มีอะไรอยากชี้แจงค่ะเพราะทุกครั้งที่ชี้แจงมันไม่จบไม่สิ้นเลย แล้วโบว์ก็คิดว่ามันไม่แฟร์สำหรับคุณอาด้วย โบว์อยู่หน้าสื่อ แต่คุณอาไม่ได้อยู่หน้าสื่อ เพราะฉะนั้นมันไม่แฟร์ สิ่งที่ทำได้มากที่สุดคืออดทน เงียบ นิ่ง แล้วก็พยายามไม่เสพข่าวคนที่เค้าด่าเราว่าเรา กำลังใจที่สำคัญที่สุดก็คือพ่อแม่ คุณปู่คุณย่า ทุกวันนี้คนรอบข้างโบว์เข้าใจก็น่าจะพอแล้ว”
”ทุกวันนี้โบว์ไม่ได้เสียน้ำตากับคนที่เข้ามาด่าโบว์ในโลกโซเชียลนะคะ ด่าได้แต่อย่างที่บอกแต่อย่าแรงมาก บางทีโบว์เป็นคนโบว์ก็เสียใจเป็นเสียน้ำตาเป็น น้ำตาที่มันเสียไปมันเป็นเรื่องที่โบว์ต้องทำถึงแม้ว่าโบว์จะไม่อยากทำ แล้วเป็นเรื่องที่โบว์ทำแล้วโบว์ก็ต้องมานั่งโดนด่าจนถึงทุกวันนี้”
”การตัดสินใจไม่อยู่กับอาน้ำอ้อยก็ทำให้โบว์สูญเสียเหมือนกัน มากค่ะ ไม่ได้อยากให้มีวันนี้แล้วก็อย่างที่บอกไป เราเลือกที่จะยืนตรงที่เราสบายใจ ยืนตรงที่เราสามารถยิ้มได้ อยู่ตรงที่เรารู้สึกว่าปลอดภัยที่สุด”
”ก่อนเกิดเรื่องไม่ได้คุยกับคุณปู่คุณย่าค่ะ แล้วพอได้อ่านคำสัมภาษณ์ของคุณปู่ก็เลยโทรบอกเขา โบว์ก็บอกคำแรกเลยว่าโบว์ขอโทษ(เสียงสั่น) ขอโทษที่ทำให้มันเกิดเรื่องอีกแล้ว คุณปู่คุณย่าก็บอกกลับมาว่าเขาเข้าใจ”
”มีโอกาสที่จะปรับความเข้าใจกับคุณอา คิดว่าคุณอาก็คงจะอยู่ตรงจุดที่เขามีความสุขแล้วล่ะค่ะ แล้วตัวโบว์ก็มีความสุขแล้ว อย่างที่บอกถึงแม้ว่าไม่ได้เจอกันโบว์ก็ยังเคารพคุณอาอยู่ เพราะอย่างน้อยคุณอาก็ดูแลพี่ปอมา พี่ปอดูแลคุณอาคุณอาดูแลครอบครัวแล้วครอบครัวก็ดูแลคุณอาเช่นกัน เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ก็อยากจะเก็บความทรงจำดีๆ ที่เราเคยผ่านมาเก็บไว้ในใจมากกว่า สิ่งที่ทัศนคติมันไม่ตรงกัน ทำให้เราไม่สบายใจเราก็เลือกที่จะถอยออก”
”ตอนนี้ที่เราพูดถึงปอทุกคนก็จะโยงไปถึงเรื่องนี้หมดเลย บางทีเราก็คิดถึงพี่ปอบ้างเนอะ ทุกวันนี้พูดไปเดี๋ยวคนก็หาว่าเอาสามีมาขายหากิน สามีเราทั้งคนน่ะ(เสียงสั่น) เขาเสียไปทุกวันนี้ทุกวินาทีก็ยังคิดถึงเขาอยู่ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปโบว์ว่าโบว์เข้มแข็งมาได้ในระดับหนึ่งแล้วโดนด่าโดนว่าโดยไม่มีสาเหตุ บางทีอินบล็อคเข้ามาด่าหยาบคายมาก ไม่ได้เสียใจนะ แต่บางทีคนเราตัดสินแค่หน้าตา หน้าตาโบว์นิ่งๆ ดุๆ น้ำเสียงดุ หยิ่งผยองนู่นนี่นั่น บางทีก็เลือกเกิดไม่ได้หน้าตามันก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว”
”คิดจะทิ้งงานในวงการมั้ย ไม่ค่ะ ตราบใดที่มีโอกาสดีๆ มีงานให้เราทำ เราก็ยังคงทำต่อไป คนคนหนึ่งเคยบอกโบว์ไว้ว่าคนเราจะมีค่าก็ต่อเมื่อมีงานทำ เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัวเราต้องแยกแยะให้ออก แล้วโบว์ก็เชื่อว่า เรื่องที่มันผ่านมาทั้งหมดถ้าโบว์ทำให้ใครเสียใจ โบว์ต้องขอโทษขอโทษจริงๆ แต่ให้รู้ว่าโบว์ไม่อยากทำ แล้วก็เชื่อว่าผลที่เป็นอยู่ตอนนี้สบายใจทั้งสองฝ่ายแล้ว”
”มีโอกาสปรับความเข้าใจและกลับมาเป็นเหมือนเดิม โบว์ว่าตอนนี้โบว์กับคุณอาต่างมีความสุขดีแล้วค่ะ หลังจากนี้โบว์ก็จะตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงลูกทำมาหากิน แล้วก็คงไม่มีอะไรแล้ว โบว์บอกตัวเองว่าโบว์ก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ครั้งหนึ่งมีคนรู้จักเกือบทั้งประเทศ อนาคตก็จะเป็นอีกคนคนหนึ่งเป็นแค่อีกคนที่เคยรู้จัก และบางคนอาจจะจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ งานในวงการเป็นสิ่งดีๆ และโอกาสดีๆ ที่โบว์ได้รับ โบว์ไม่ได้คิดว่าจะต้องทำทุกอย่างให้ทุกคนจดจำชื่อโบว์ได้ โบว์เป็นแวนดาตั้งแต่คนที่ยังไม่เคยรู้จัก จนตอนนี้การใช้ชีวิตโบว์ก็ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง แค่วันนึงเรามีคนรู้จักได้เพราะพี่ปอ มีคนรู้จักโบว์ มีคนรู้จักมะลิ เพราะพี่ปอคนเดียว” โบว์ แวนดา กล่าว
