ทำเอานักแสดงรุ่นใหญ่ ต้อม รัชนีกร ออกมาจัดเต็มถึงขั้นกรวดน้ำอโหสิกรรมกันเลยทีเดียว โดยโพสต์ข้อความผ่าน Facebook ส่วนตัว ฉะนักแสดงรุ่นลูกไร้มารยาท ไร้วินัย เรื่องเยอะ ไม่ให้เกียรติทีมงานและนักแสดงหัวหงอกหัวดำ ระบุว่า “ทำงานอยู่ในวงการมา 20 กว่าปี เจอเด็กรุ่นลูกไร้มารยาท ไม่ให้เกียรติทีมงานและนักแสดงด้วยกัน ถามหน่อยว่าคุณทำงานคนเดียวในโลกใบนี้เหรอคะ? จะมากี่โมงก็ได้ จะให้คิวแค่ไหนก็ได้ ไม่สนใจใคร อาชีพนักแสดงไม่ได้เดินเหนือดิน ไม่ได้กินข้าวบนสวรรค์ ฉะนั้นเรื่องของมารยาทคือสิ่งสำคัญค่ะ อึดอัดมากพอแล้วที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ขออโหสิกรรมให้ค่ะ #นักแสดงรุ่นลูก #ชีวิตเหนือโลก”
ล่าสุดมีโอกาสเจอ ต้อม รัชนีกร ในงานแถลงข่าว The Best MAN Awards of Asia in Bangkok 2018 เลยได้สอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่ทำให้เธอปรี๊ดแตกถึงขนาดนี้ เจ้าตัวยอมรับเป็นอารมณ์ของขึ้นตอนนั้น แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ส่วนที่หลายคนโยงไปถึงนักแสดงรุ่นลูกที่เพิ่งได้ถ่ายละครด้วยกันหมาดๆ อย่าง น้ำตาล ชลิตา ในละครเรื่องสาปกระสือนั้น ต้อม รัชนีกร บอกไม่ขอเจาะจงว่าเป็นใคร ฝากเตือนรวมๆ ถึงนักแสดงรุ่นใหม่ว่านักแสดงก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนนึง ไม่ได้มีอภิสิทธิ์พิเศษเหนือผู้อื่น ส่วนตัวไม่อยากมีอคติกับใคร ยืนยันร่วมงานได้กับทุกคน
“(ที่โพสต์ฉะนักแสดงรุ่นน้อง?) ก็ต้องเป็นละครที่เคยเล่นด้วยกันมานั่นแหละ เป็นละครปัจจุบันนี้หรือเปล่าเหรอ ขอไม่พูดอะไรเยอะไปกว่านี้ดีกว่า เดี๋ยวมันจะเป็นแบบผู้ใหญ่รังแกเด็ก เอาเป็นว่าที่เราโพสต์ออกไป ที่เราพูดออกไป มันก็เป็นอะไรที่บางทีมันก็มีบ้างที่เราอัดอั้นตันใจ เราอยู่วงการนี้มานมนานแล้ว จากที่อยู่กันมา เราจะรู้จักคำว่ารุ่นพี่ รุ่นน้อง สัมมาคารวะ เวลา การให้ความเกรงใจในกันและกัน ก็เลยมีความรู้สึกว่าช่วงหลังๆ เรื่องพวกนี้มันหายไป มีความรู้สึกว่าหัวหงอกอย่างเรามันคือตัวอะไร ก็เลยอาจจะมีบ้างที่รู้สึกน้อยอกน้อยใจบ้าง แต่วันนั้นก็เป็นอารมณ์ผีเข้าผีออกตามประสาคนแก่เนอะ แต่วันนี้คิดว่าทุกอย่างมันควรหยุด เราไม่สามารถหยุดคนอื่นได้ ไม่สามารถไปบอกใครให้ปรับปรุงได้ว่าควรหยุดอะไรยังไง แต่สิ่งที่ทำได้คือทำใจตัวเอง ด้วยโลกวิวัฒนาการอะไรก็แล้วแต่มันเปลี่ยนไปเยอะมาก ก็ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้อยู่ตรงนี้ได้”
“ที่โพสต์ไปเอาเป็นว่าไม่เจาะจงใครดีกว่า (ล่าสุดเหมือนมีน้องนักแสดงที่ได้ร่วมงานกันอย่าง น้ำตาล ชลิตา ออกมาชี้แจงแล้วซึ่งหลายคนโยงว่าเป็นเค้า เพราะเราโพสต์ว่าเค้าเป็นดาว?) ไม่ได้บอกไปถึงจักรวาลอะไรเลย บอกแค่ว่าสมัยนี้คิดว่าการเป็นดารานักแสดงแล้วเดินติดดินไม่ได้ พี่อยากแค่บอกน้องๆ รุ่นลูกหลานว่าถึงเราจะเป็นนักแสดง เป็นคนของประชาชน ให้คิดว่าเราก็มนุษย์คนนึง ไม่ใช่ว่าเราเหนือฟ้า กินข้าวเหมือนคนปกติทั่วไป เดินบนดินเหมือนคนปกติทั่วไป”
“(สรุปว่าใช่น้องน้ำตาลมั้ย?) เอาเป็นว่าไม่ต้องพูดถึงดีกว่า เอาเป็นว่าไม่ใช่ดีกว่า จบๆ (แต่เวลาเราเข้าฉากจังหวะเดียวกับที่น้ำตาลขึ้นไอจีสตอรี่มันดูสอดคล้องกัน?) เราไม่ได้ทำละครแค่เรื่องเดียวเนอะ เราก็มีละครด้วย ทำเบื้องหลังด้วย (เราโพสต์ไปมีใครสายตรงมาหามั้ย?) ก็มีคนโทรมาถามว่ามันอะไรยังไง บางเจ้าเราก็คุยไป ดาราไม่มีใครโทรมาค่ะ เป็นเพื่อนๆ ที่โทรมา น้องคนที่พาดพิงไม่ได้โทรมา ไม่ได้ซี้ขนาดนั้น ก็จะเป็นคนแวดล้อม (ผู้จัดการน้องน้ำตาลมีโทรมาเคลียร์มั้ย?) ไม่มีค่ะ”
“(อยากบอกอะไรถึงน้องคนนั้นมั้ย?) ขอบอกโดยรวมดีกว่า อย่างที่พี่พูดไปแล้วนั่นแหละ วงการนี้มันมาแว๊บไปแว๊บเนอะ สมัยนี้ก็ต้องรู้จักสัมมาคาราวะ อยู่ให้เป็น รู้จักเวลา เพราะไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่จะถ่ายละครถูกมั้ย มันจะต้องมีอีก 20-30 ชีวิตรอคุณอยู่ ความเกรงใจมันต้องมี (น้องคนนั้นมาสายหรืออะไร เราเจอเหตุการณ์อะไรมา?) อย่าบอกว่าน้องคนนั้น มันก็มีหลายๆ คน โดยรวมที่เคยปะทะหรือเจอมา ไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นใคร”
“(หน้างานได้สอนเค้ามั้ย?) ยังก่อนมั้ย พี่จะเป็นคนประมาณนี้คือนับ 1-10 แล้วถ้ามันไม่ใช่ มันไม่ไหว ก็ต้องบอก ส่วนที่โพสต์ไปเลเวลตรงนั้นคือเลือดจะไปลมจะมาเนอะด้วยวัย ตอนนั้นเลเวล 10 ตอนนี้ตกมา 0 แล้ว ไม่มีอะไรอยู่ในใจในหัวสมอง ที่สำคัญเรามีอะไรก็จะปรึกษาผู้หลักผู้ใหญ่ ตอนนี้เราทำทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เราไม่สามารถที่จะอคติกับใครได้ เพราะเราจะไม่สามารถทำงานได้ ณ ตอนนี้ทุกอย่างมันต้องหลุดออกไปจากหัว ถ้าเราทำงานกับใครแล้วมีอคติแบบนี้ เราอยู่วงการนี้ไม่ได้ เพราะมันจะอยู่ด้วยความไม่สบายใจ มองหน้ากันไม่ติด ถูกมั้ย (แสดงว่าผู้ใหญ่ก็มีเรียกคุยกับสิ่งที่โพสต์ไป?) ผู้ใหญ่ในที่นี้ก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่ในวงการ แต่เป็นผู้ใหญ่ที่เรานับถือ”
“(หลังจากโพสต์ไปแล้วน้องที่ได้ร่วมงานกับพี่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปมั้ย ดีขึ้นมั้ย?) ก็น่ารัก (หัวเราะ) ร่วมงานกันได้ปกติค่ะ เพราะพี่ก็ปกติกับทุกคนอยู่แล้ว บรรยากาศภายในกองก็ดีค่ะ (หัวเราะ) ถ้ามีโอกาสร่วมงานกันอีกก็ร่วมค่ะ พี่บอกแล้วพี่ไม่มีอะไร พี่อาจจะปรี๊ดแค่วันนั้น แต่ ณ ตอนนี้คือพี่สงบแล้ว อย่างที่บอกว่าเราไม่สามารถจะเปลี่ยนใครได้ นอกจากเปลี่ยนตัวเราเอง ถ้าเราเปลี่ยนตัวเองไม่ได้ เราก็อยู่กับคนรอบข้างลำบาก (กลัวว่าจากนี้นักแสดงรุ่นน้องจะเกร็งเวลาร่วมงานกับเรามั้ย?) ขอฝากบอกทุกกล้องเลยนะ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเกร็ง แม่ลดลงแล้วลูก (หัวเราะ)”
“(ส่วนตัวคิดว่าโพสต์แรงไปมั้ยเพราะกรวดน้ำให้กันเลย?) มันก็เป็นอารมณ์ช่วงนึงเนอะ ตอนนี้หายแล้ว โพสต์นั้นก็ยังอยู่ เดี๋ยวเอาออกเลยก็ได้ (หัวเราะ) บางทีโพสต์แล้วก็ลืมไป โพสต์แล้วก็ช่างมันเพราะเหมือนเราต้องการที่ระบายอารมณ์ บางทีไม่ได้กลับเข้าไปดู จนบางครั้งเพื่อนๆ โทรมาถามว่าต้อมเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่เห็นอ่านไลน์หรืออ่านเฟสบุ๊คเลย ไม่สบายหรือเปล่า เราก็บอกไม่เป็นอะไร เป็นติสท์ โรคส่วนตัวเยอะไปนิดนึง (หัวเราะ)” ต้อม กล่าว
