เป็นอีกคนที่รักน้องหมาเป็นชีวิตจิตใจ สำหรับนางเอกสาว เชียร์ ฑิฆัมพร ซึ่งได้รับอุปการะ น้องไม้หมอน หมาไทยจรจัดที่พิการมี 3 ขามาเลี้ยงดูแลอย่างดี รักเสมือนลูก ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (16 กรกฎาคม 2561) สาวเชียร์ พร้อมด้วยคุณแม่เดินทางไปที่สถานีตำรวจสายไหม เพื่อแจ้งความเพื่อนบ้านคู่กรณีไร้ความรับผิดชอบ ไม่ดูแลน้องหมาตัวเองปล่อยให้ทำลายรั้วเข้ามากัด เจ้าไม้หมอน ถึงในบ้านหลายต่อหลายครั้ง ค่ารักษาครั้งก่อนทางตนก็ไม่ได้เรียกร้อง แต่เหตุการณ์ล่าสุดรุนแรงเสียหายมาก คู่กรณีก็ไม่สะดวกรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด สาวเชียร์ น้ำตาคลอสงสาร เจ้าไม้หมอน ทั้งที่พิการอยู่แล้วยังมาบาดเจ็บอีก วันนี้จึงตั้งใจเดินทางมาแจ้งความและฝากเตือนให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงดูแลสัตว์เลี้ยงของตนให้มากกว่านี้ รวมถึงความรับผิดชอบต่อผู้อื่นและส่วนรวมด้วย
“จริงๆ เคยเกิดกรณีแบบนี้ที่ทำให้สุนัขในบ้านเราบาดเจ็บหลายครั้งแล้ว จากเรื่องที่เกิดขึ้นสุนัขของเราอยู่ในบ้านเรา สุนัขของบ้านคู่กรณีเข้ามามันจะมีรั้วช่วงนี้ที่มีช่องอยู่ พอหลายครั้งเราก็เอาอะไรมาปิด พยายามหาวิธีไม่ให้สุนัขเค้าเจอกัน ธรรมชาติสัตว์เราก็เข้าใจอยู่แล้ว เจอกันกัดกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา กับครั้งที่ผ่านมา หนึ่งเราก็เห็นว่าเป็นธรรมชาติของสัตว์ เราเป็นคนใกล้ชิดสุนัขอยู่แล้ว ข้อสองเราเห็นแก่ความเป็นเพื่อนบ้านกัน เกิดเหตุเราก็ไปตักเตือน ไม่ใช่ครั้งแรกเราไปเรียกร้องให้มารับผิดชอบ เราเห็นว่าตักเตือนกันแล้ว คุยกันหลายครั้งแล้ว เราก็ขอว่าครั้งนี้ให้พี่เค้ารับผิดชอบหน่อยค่ะ”
“ตอนที่ตักเตือนเค้าก็รับทราบ ปกติเวลาคุยจะเป็นคุณแม่ไปคุยมากกว่า ทางนั้นเค้าก็รับรู้ว่าเกิดเหตุเข้าใจจะดูให้ มันก็ยังเกิดเป็นครั้งล่าสุดค่อนข้างรุนแรง ไม่ใช่ว่าครั้งก่อนไม่รุนแรงนะคะ อย่างที่บอกว่าหมาของเราเป็นหมาจร หมาเค้าก็เป็นหมาไทยน่าจะเป็นหมาจรรับมาเลี้ยงเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าสุนัขออกไปเจอกันนอกบ้านแล้วกัดกัน แต่อันนี้สุนัขเราอยู่ในบ้าน เราโดนสุนัขเค้าเข้ามา รั้วเราก็เสียหาย สุนัขเราก็บาดเจ็บ ครั้งนี้ที่ต้องขอให้รับผิดชอบเราไม่ได้มองว่าเป็นแค่เรื่องสุนัขกัดกัน แต่เจ้าของควรจะดูแลสัตว์เลี้ยงหรือรู้จักสัตว์เลี้ยงคุณให้ดีที่สุด อันนี้พูดถึงรวมๆ นะคะ เพราะถ้าเรารู้ว่าหมาบ้านเราดุ สามารถไปกัดหมาบ้านอื่นหรือกัดคนได้ยิ่งต้องดูแลใกล้ชิดซึ่งมันเคยเกิดขึ้นแล้ว ครั้งนี้เราก็หวังว่าอยากให้เค้ารับทราบว่าพี่ควรต้องรับผิดชอบแล้วนะ”
“ครั้งนี้ต้องเกิดค่ารักษาแน่นอน ตอนที่เห็นรูปลูกเรา น้ำตาคลอเลย เราตกใจมาก เลือดอาบเท้าไม้หมอนเลย เชียร์มองว่าครั้งนี้ไม่น่าจะธรรมดาแล้ว งั้นคุณแม่ไปคุยกับเค้าไว้เลยว่าต้องมีค่าใช้จ่ายแล้วนะ เค้าใช้คำประมาณว่าโอเคเท่าไหร่ก็บอกมา เราก็เอาไปรักษาปกติไม่ได้แจ้งความทั้งนั้นเพราะเพื่อนบ้านกันคิดว่าน่าจะคุยกันได้ พอได้รับบิลมารวบรวมไปให้ เค้าก็ตกใจว่าทำไมค่าใช้จ่ายสูงจัง เค้าก็บอกว่าขอเอาไปตรวจสอบ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ปรากฎว่าตรวจสอบแล้วเงียบหายไป พอเราไปถามถึงเค้าก็บอกว่ามีการโอนมาให้จำนวนไม่ถึงครึ่งของบิล คุณแม่ก็งงว่าทำไมเท่านี้ เหมือนเค้าคิดตกลงกันในบ้านเค้าว่าน่าจะเท่านี้ ไม่ได้ตกลงกับเรา ที่โอนมาประมาณ 3,000 บาทค่ะ ค่ารักษาตามบิลไม่ได้เยอะเลยค่ะ 7,400 บาท ซึ่งรักษาเป็น 10 กว่าวัน มีทั้งการล้างแผล ไปฉีดยาหลายวันมาก ก็งงว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ก็ลองให้ทางบ้านไปคุยเจรจากันอีก”
“จริงๆ เราก็มีการพูดถึงเดี๋ยวนี้มันมีพรบ.สัตว์ใช่มั้ยคะ กรณีที่สัตว์เลี้ยงมีเจ้าของเมื่อเกิดการเสียหายนั่นคือเจ้าของก็ต้องรับดูแลค่าใช้จ่ายค่าสินไหม เชียร์ยังถามเค้าเลย เค้าบอกว่าใช่ แต่เค้าสะดวกประมาณเท่านี้ ซึ่งตอนที่เจรจาครั้งล่าสุดก่อนที่เรื่องจะมาถึงสถานีตำรวจก็มีการพูดคุยกันยาวเลยจนทางเค้าเพิ่มขึ้นมาให้อีกนิดหน่อย ถ้าคิดค่ารั้วบ้านที่เสียหายด้วย เชียร์ยังบอกเลยว่าจริงๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะ เราก็พยายามที่จะประนีประนอม ทั้งค่ารักษาครั้งก่อนเราก็ไม่ได้คิด ค่ารั้วครั้งก่อนเราก็ไม่ได้คิด แต่ครั้งนี้ประมาณนี้พี่จบกันได้มั้ยรักษาน้ำใจกัน เค้าก็บอกว่าสะดวกแค่เท่านี้ เพื่อนบ้านไม่ใช่รั้วติดกันค่ะ”
“เชียร์ยังบอกเลยว่า พี่รับผิดชอบพาน้องหมอนไปหาหมอเลยก็ได้ ถ้าพี่พาไปจะได้รู้ว่าค่าใช้จ่ายมันเท่าไหร่ พี่จ่ายเลย ถ้าสงสัยหมอก็ถามเลย อย่างที่บ้านเชียร์ต้องหยุดงานมาเพราะต้องสลับสับเปลี่ยนกันพาไปหาหมอ เรายังเลื่อนคุยงานสำคัญเลย เพราะไม่มีใครอยู่จริงๆ หมอก็บอกว่าห้ามขาดในการดูแลในช่วงต้น พูดตรงๆ มันไม่ใช่เรื่องง่าย พี่เค้าก็บอกว่าถ้าเค้าสะดวกก็ต้องให้เค้าเลิกงานก่อน เรายังไม่เลิกงานด้วยซ้ำเรายังต้องมาเลย มันจะได้ไม่ต้องมีอะไรที่แคลงใจกันเลย”
“อาการตอนแรกค่อนข้างที่จะหนัก เรายังกลัวด้วยซ้ำว่าแผลลึกที่เท้าจะทำให้น้องหมอนกลับมาเดินได้โอเคขนาดไหน ในตอนแรกแผลค่อนข้างลึก หมอนเค้ามีขาหน้าขาเดียวอยู่แล้ว ฉะนั้นห้ามขยับเลยด้วยซ้ำแต่มันเป็นไปไม่ได้ มันยังต้องเดิน ช่วงแรกใจจะสลาย ข้างหน้าก็มีขาเดียวอยู่แล้วถ้าเสียขาไปอีกจะเป็นยังไงยังไม่รู้เลย ในบ้านก็แท็กทีมกันโอเคมาก ดูแลใกล้ชิดไปตามหมอนัดทุกอย่างก็เลยหาย ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว จริงๆ เราก็เกริ่นเอาไว้ว่าถ้าเกิดเหตุอีก มันไม่ควรจะต้องเกิด ถ้าครั้งหน้าพี่ก็เป็นคนพาไปเลย ดูแลไปเลย จะได้ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรที่ต้องผ่านเรา จะได้สบายใจกันไปเลย การมาของเชียร์ในวันนี้ไม่ใช่แค่การเคลียร์เรากับเค้าเท่านั้น แต่เราอยากให้ไม่ว่าบ้านไหนก็ตามที่มีสุนัขอยากให้ดูแลเค้าให้ดีที่สุด”
“การที่เชียร์อยากให้เค้ารับผิดชอบมันเป็นอย่างหนึ่งของการมีจิตสำนึกของเจ้าของ การที่เกิดกรณีแบบนี้มันไม่ใช่แค่หมาและรั้วที่เสียหาย ถ้ากัดกันหนักกว่านี้ หมาพี่ก็เจ็บต้องมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น มีคำนึงเค้าบอกว่า “หมาพี่ไม่ได้บอบบางขนาดนั้น” ฟังแล้วมันเจ็บ เชียร์อาจจะเป็นคนที่เซนซิทีฟกับหมามากๆ เพราะค่อนข้างที่จะใกล้ชิด ไม้หมอนก็เป็นหมาพิการมีแค่ 3 ขาเอง ถูกมายำอีกแล้วมาเกิดคำพูดที่เราฟังแล้วรู้สึก… หมอนเอ้ยเจออะไรมาเนี่ย สะท้อนไปถึงสัตว์ตัวที่มากัดถ้าเค้าเจ็บหนักแล้วจะเป็นยังไง เลยอยากจะฝากถึงว่าการเป็นเจ้าของที่รับผิดชอบ เชียร์อยากให้มอง 1 ชีวิตนั้นมีค่าที่สุด ไม่ใช่ว่าเกิดอะไรหรือแม้กระทั่งไม่พอใจอะไรในการเลี้ยงสุนัขตัวนึงจะกลายเป็นการเอาไปปล่อย มันจะไปเข้าคำที่ว่าไม่พร้อมไม่เลี้ยง มันจะไม่เกิดภาระทางสังคม”
“วันนี้เชียร์อยากจะฝากให้เป็นเรื่องสำคัญ จำนวนเงินที่เกิดขึ้นไม่ใช่เยอะอะไรเลย เชียร์ดูแลลูกเชียร์ได้อยู่แล้วกับเงินจำนวนนี้ เมื่อเกิดเหตุเจ้าของที่มีจิตสำนึกที่ดีก็ควรจะรับผิดชอบที่สุด อันนี้เป็นข้อสำคัญที่เชียร์มาวันนี้ ด้วยความที่เราพยายามเจรจามาหลายครั้งมากแล้ว วันนี้ก็เลยมาแจ้งความดำเนินคดีกัน ขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกคู่กรณีมารับฟังว่าเกิดเหตุนี้ขึ้น ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการแล้วกันค่ะ” เชียร์ กล่าว
