เอมี่ แม่มา ลาวงการ! รู้ตัวว่าไม่ดี สัญญาให้ตาย! จะไม่ยุ่งยาเสพติดอีก

 

  สัญญาให้ตายก็จะไม่กลับไปยุ่งกับยาเสพติด! เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้(29 ส.คง) เอมี่ อามาเรีย จาคอป อดีตนางเอกชื่อดังจากเรื่องละครธิดาวานร เจ้าของวลี “แม่มา” ตั้งโต๊ะแถลงพร้อมทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ณ มูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ จ.สมุทรสาคร หลังศาลจังหวัดมีนบุรีมีคำพิพากษาคดียาเสพติด ซึ่งตัดสินยกฟ้องในคดีร่วมกันมียาไอซ์และยาอีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ศาลตัดสินจำคุก 6 เดือนข้อหาเสพยาเสพติด แต่รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 3 เดือน พร้อมปรับ 5000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี คุมประพฤติ 1 ปี ต้องรายงานตัว 3 เดือนครั้ง (ปีละ 4 ครั้ง) และทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง

  โดย เอมี่ อาเมเรีย ยอมรับว่าเสพยา แต่ยืนยันไม่ได้ขาย โทษตัวเอง เพราะถึงจะมีใครเอามาให้แต่เราไม่ทำ ไม่เสพมันก็ไม่เป็นแบบนี้ เล่าตอนอยู่ในเรือนจำแรกๆ ก็เครียดร้องไห้ทุกวัน ใช้วิธีสวดมนต์ให้ดีขึ้น เจอคนหลากหลายรูปแบบ ก็ต้องรับสภาพอยู่ให้ได้ พร้อมขอโทษคุณพ่อคุณแม่ที่ทำให้เสียใจ และผู้ใหญ่ทุกคนที่ให้โอกาส ต่อจากนี้ขอไปช่วยงานทนายตั้มสอนน้องๆ ว่าอย่าไปยุ่งกับยาเสพติด ส่วนอนาคตในวงการบันเทิงยังไม่ได้คิดเพราะก็ยอมรับว่าตนเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี คงยากที่จะกลับมา รายละเอียดดังนี้

  ทนายตั้ม “จากการที่เอมี่ถูกจับกุม เอมี่โดนทั้งหมด 2 ข้อหา ข้อหาแรกก็คือข้อหาเสพยา ซึ่งเป็นคนละจำนวนกับข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย 70 กรัม เอมี่ไม่ได้เสพยา 70 กรัมนะ แล้วเอมี่รับสารภาพมาตลอดว่าเขาเสพจริงตั้งแต่วันแรกที่ถูกจับแล้ว แต่เขาก็บอกว่าเขาไม่ได้ค้า ทางญาติเอมี่ก็มาขอให้ผมช่วย โดยเงื่อนไขก็คือเอมี่จะต้องยอมรับได้มีการกระทำความผิดจริงในข้อหาเสพ น้องเขาก็รู้ตัวว่าทำไม่ดี เขาก็สารภาพและให้ศาลลงโทษ ซึ่งในข้อหาเสพ ศาลตัดสินจำคุก 6 เดือน แต่รับสารภาพก็ลดเหลือ 3 เดือน โทษรอลงอาญาไว้ครับ ในส่วนข้อหาค้ายาเสพติด 70 กรัม อันนี้มันคนละจำนวนกับที่เสพ ของเจอกันคนละที่ เอมี่ปฏิเสธตั้งแต่ต้นเพราะเอมี่ไม่รู้เรื่อง แล้วเอมี่ก็สู้คดีมาตลอด พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง”

  ทนายตั้ม “จนในที่สุดเมื่อวานศาลชั้นต้นจังหวัดมีนบุรี ท่านก็มีคำพิพากษาแล้วว่ายกฟ้องในข้อหานี้ เพราะเอมี่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์โดยปราศจากข้อสงสัยให้ศาลได้ว่าไม่ได้มีส่วนร่วมกับแฟนหนุ่มในการไปค้า โดยในการยื่นพยานหลักฐานชั้นศาล ผมไม่ได้เป็นคนวินิจฉัยว่าใครผิดหรือไม่ผิด แต่เป็นศาลที่เป็นคนวินิจฉัยว่าเอมี่ไม่ผิด โดยใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์ให้ได้ว่าเอมี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวแฟนเลย ตั้งแต่ตอนที่แฟนไปเอายามาจนกระทั่งเอามาเก็บไว้ เอมี่ไม่มีส่วนรู้เห็น จนศาลเห็นว่าเอมี่ไม่ได้กระทำผิดจริง จึงพิพากษายกฟ้องเมื่อวานครับ”

  ทนายตั้ม “ในส่วนคดีเสพ ศาลให้ไปรายงานตัวที่กรมคุมประพฤติ ซึ่งหลังจากแถลงข่าวเสร็จ เอมี่ก็จะเดินทางไปที่คุมประพฤติ และไปรายงานตัวครับ”

  เอมี่ “รู้สึกดีใจที่ได้ออกมาค่ะ แต่ว่าอยู่ข้างในก็ไม่ได้ว่าสบายนะคะ เอมี่คิดถึงแม่ รู้ว่าแม่กับพี่ตั้มก็ช่วยถึงที่สุดแล้วค่ะ เอมี่ยอมรับเอมี่ผิดจริงที่ไปเสพ เอมี่รู้ว่าเอมี่ไม่ใช่คนดี แต่เอมี่ก็จะไม่ทำอีกแล้วค่ะ”

  เอมี่ “วินาทีที่ศาลตัดสินว่ารอดคดีแล้ว ก็ใจหายค่ะ เหมือนที่บอกเอมี่ยอมรับว่าเอมี่เสพ แต่เอมี่ไม่ได้ค้ายาค่ะ เอมี่เป็นคนไม่ดีที่เสพยา แต่เอมี่ก็ไม่ได้เลวร้ายถึงต้องไปขายยาค่ะ”

  เอมี่ “แฟนค้ายา ไม่ทราบเลยค่ะ ถามว่ายังติดต่อกันมั้ย มีคุยทางจดหมายตอนอยู่ในเรือนจำค่ะ วินาทีที่ถูกจับตอนนั้น เอมี่ตกใจมากเลยค่ะ เพราะไม่คิดว่าตำรวจก็จะมา เหมือนเขามาลงว่าเอมี่ร่วมจำหน่าย แต่เอมี่ก็ไม่ได้จำหน่ายยา เอมี่แค่หลงผิดไปเสพค่ะ เอมี่คงอยากลองมั้งคะ ถ้าใครเอามาให้แล้วเอมี่ไม่ทำ มันก็จะไม่เกิดขึ้น เอมี่โทษตัวเอมี่เองคนเดียวค่ะ ไม่ได้โทษที่ใครเลยค่ะ ถ้าเอมี่ไม่ลองไม่เสพ มันก็คงไม่เป็นแบบนี้ค่ะ”

  เอมี่ “เปล่าค่ะ แฟนไม่ได้ชักชวน เอมี่เสพเองค่ะ เหมือนที่บอกใครชวนแต่ถ้าเอมี่ไม่ทำ เอมี่ก็คงไม่โดนจับแบบนี้ค่ะ”

  ทนายตั้ม “แฟนเขาเหรอครับ เขาก็รู้เหมือนกันว่าเสพ เขาเสพด้วยกันครับ แต่ว่าเขาไม่รู้ว่ามียาเสพติดอยู่เท่านั้นเองครับ ที่บอกว่าจำนวนเยอะๆ เนี่ยเขาไม่ทราบ เขาคบกับแฟนมาได้ 3 เดือนครับ ถามว่าแฟนชักชวนรึเปล่า เอมี่ไม่อยากโทษใคร”

  เอมี่ “เอมี่ไม่อยากโทษใครค่ะ ถ้าแฟนเอามาให้แล้วเอมี่ไม่เสพ มันก็ไม่มีอะไร ก็ไม่อยากโทษเขา ไม่อยากโทษใคร โทษที่ตัวเองมากกว่า”

  เอมี่ “ระยะเวลาที่อยู่ในคุก เอมี่เข้าไปเจอคนมากมายเลยค่ะ เจอคนแบบทุกอย่าง มีเป็นโรค มีอะไรอยู่รวมกันหมดเลย ก็ต้องอยู่ให้ได้ค่ะ เอมี่ก็คงไม่ทำอีกแล้ว เอมี่ไม่เอาแล้ว เอมี่สงสารแม่ เอมี่ไม่อยากกลับมาเสพยาอีกแล้ว เอมี่ขอโทษทุกคนด้วย(ยกมือไหว้ เสียงสั่นเครือ) เอมี่ขอโทษหม่ามี้นะที่เอมี่ทำตัวไม่ดี ทำให้หม่ามี้ต้องลำบาก(ร้องไห้และกอดคุณแม่) และขอบคุณพี่ตั้มด้วยนะคะ”

  ทนายตั้ม “หลังจากวันนี้เอมี่คงไม่ไปออกรายการช่องไหน เพราะว่าเขาอยากไปทำงานเพื่อสังคม เขาจะไปช่วยโครงการพี่สอนน้องให้เป็นคนดีของสังคมที่ทีมงานประชาชนทำอยู่ โดยจะไปเล่าเรื่องราวประสบการณ์ของเขาในวันที่อยู่เรือนจำว่าเขาหลงผิดไปเกี่ยวข้องยาเสพติดไปสอนน้องๆ ว่าอย่าหลงผิดเหมือนเอมี่ ให้ดูเอมี่เป็นตัวอย่างครับ”

  เอมี่ “หนูขอโทษทุกคนด้วยนะคะ หลังจากนี้ อาจจะกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่ภูเก็ต มีอะไรก็มาช่วยพี่ตั้มที่มูลนิธิค่ะ เพราะเรื่องในวงการเอมี่ก็ยังไม่ได้คิดอะไร เอมี่ก็รู้ว่าเอมี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ก็คงยากนะคะ ยังไม่ได้คิดอะไรตรงนั้นเลยค่ะ เอมี่อยากช่วยพี่ตั้มทำงานสอนน้องๆ ก่อนดีกว่า ถามว่าอยากจะสอนอะไรน้องๆ บ้าง ก็คือเรื่องหลงผิดไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดค่ะ ให้รู้ว่าไม่ดี ผลออกมามันต้องเป็นยังไง แล้วเราเหมือนจบอนาคตเราไปเลยค่ะ”

  เอมี่ “11 เดือน มันต้องกินอยู่รวมกันกับคนหลายคน มีคนทุกประเภทอยู่รวมกันหมดเลยค่ะ เอมี่ไม่ได้ว่าเรือนจำเขาเลี้ยงเอมี่ไม่ดีนะคะ เรือนจำก็สะอาด ก็ดีค่ะ แต่เอมี่อยู่ในนั้นมันก็เหมือนเรากินแล้วนอน ไม่ได้ทำงานอะไรค่ะ มันไม่เหมือนใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกค่ะ”

  เอมี่ “เครียดค่ะ แรกๆ เข้าไปร้องไห้ตลอดเลย อยากออกมา แล้วเราก็คิดได้ว่าร้องไห้ไปเราก็ออกไปจากตรงนี้ไม่ได้ เราก็ต้องอยู่ในนี้อยู่ดี ทำอะไรไม่ได้ ก็สวดมนต์ ไหว้พระอย่างเดียวเลยค่ะ ก็ช่วยทำให้เราไม่ต้องคิดอะไรมาก เราก็ต้องรอการตัดสินตามรูปของคดี ก็ต้องรอเวลา แต่เอมี่ไม่ได้ค้ายาจริงๆ นะคะ(เสียงสั่น)”

  ทนายตั้ม “ของเอมี่เขารับสารภาพว่าเขาเสพยาซึ่งจริงๆ ข้อหาเสพนี่เขาถือว่าเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัด เราสู้ว่าเราไม่ได้เสพ อะไรที่เอมี่ทำผิดจริงเราก็รับสารภาพ อันไหนที่เอมี่ไม่ได้ทำผิดจริงเราก็สู้คดี อย่างเอมี่เสพแล้วจะให้ไปรับสารภาพว่าค้าด้วย ซึ่งมีอัตราโทษตลอดชีวิตผมว่ามันไม่ถูกต้อง เพราะเสพโทษมันไม่หนักหนามากขั้นต่ำแค่ 6 เดือน แต่ข้อหาของแฟนเอมี่มันจำคุกตลอดชีวิต กับประหารชีวิตเพราะยาเกิน 20 กรัม อันนี้เราเป็นการนำเสนอข้อเท็จจริงให้กับศาล ท้ายสุดศาลท่านก็มีดุลพินิจ สามารถพิจารณาได้ว่าเอมี่เกี่ยวข้องรึเปล่า ซึ่งศาลจังหวัดมีนบุรีท่านก็ตัดสินมาแล้ว ยกฟ้องเอมี่ แล้วก็ให้เอมี่กลับบ้านได้เลย”

  เอมี่ “ความหวังว่าจะพ้นโทษ มีแต่คนบอกให้เผื่อใจไว้ 50:50 เพราะยามันเยอะ แต่เราก็ยืนยันว่าเราไม่ได้ขาย เอมี่แค่เสพ เอมี่ไม่ได้ค้ายา ก็ทำใจเผื่อไว้บ้างเหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้ผิด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็คงช่วยเราไว้เหมือนกัน(ยกมือขึ้นไหว้)”

  เอมมี่ “เรื่องของการบำบัด ต้องไปรายงานตัวคุมความประพฤติ”

  ทนายตั้ม “คงไม่ได้บำบัดแล้ว ถ้าบำบัดต้องบำบัดตั้งนานแล้ว เขาจะมีการไปตรวจเอมี่ตลอด 3-6 เดือนว่าเอมมี่มีสารเสพติดรึเปล่า ถ้าเอมมี่เกิดไปเสพยา ศาลจะเอาโทษที่รอไปกำหนดโทษได้”

  เอมมี่ “ยาเสพติด ตัดขาดแล้วค่ะ เอมมี่ไม่ได้ติด แค่ลองเสพดู เราไม่เสพเราก็อยู่ได้ เราใช้ชีวิตอยู่ได้ ร้างกายเราก็ดูปกติ แข็งแรงดี กินได้นอนหลับ ออกมาได้แล้วก็จะไม่กลับไปยุ่งกับมันอีกแล้ว ให้ตายยังไงก็ไม่เอาแล้ว ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เหมือนที่บอกถ้าเป็นคนธรรมดาเขาก็อาจจะใช้ชีวิตต่อไปได้ แต่เอมี่เราอยู่แบบนี้มาโดนแบบนี้มันทำให้อนาคตเราจบไปเลย ก็ไม่เอาแล้วจริงๆ รู้สึกเสียดายมากๆ ทุกอย่างต้องมาจบลง”

  ทนายตั้ม “อันนี้ก็เป็นบทเรียนสอนน้องๆ ที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ ยาเสพติดมันไม่ให้ผลดีกับใครเลย การที่ไปเสพเอมี่จากเป็นดาราต้องไปอยู่ในเรือนจำ 11 เดือน การคบเพื่อนก็แล้วแต่หรือไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดขอให้อยู่ห่างๆ ไว้ดีกว่า ขอให้ดูพี่เอมี่ไว้เป็นบทเรียน สำหรับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด”

  เอมี่ “โอกาสสำหรับงานในวงการ ยังไม่ได้คิด อยากช่วยพี่ตั้มสอนเด็กๆ ก่อน เรารู้ว่าเราเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ก็คงไม่ดีกับคนอื่นถ้าเขาจะยังเอาเราไปทำงานตรงนี้ เอมี่ขอโทษผู้ใหญ่ที่เคยให้โอกาสเอมี่ทุกๆ คน(ยกมือไหว้) เอมี่ขอโทษที่เคยทำไม่ดี เอมี่ขอสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ นี่เป็นสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตเลย”

  เอมี่ “เมื่อวานก้มลงกราบเท้าพ่อแม่ อยากกราบเท้าท่านอยู่แล้ว เอมี่ทำตัวไม่ดี ทำให้ท่านเสียน้ำตา มาเสียแรงขึ้นลงบ้านมาหาเอมี่ตลอดเวลา อยากขอโทษท่าน ขอโทษผู้ใหญ่ทุกคน ขอโทษแฟนๆ ที่เราทำตัวไม่ดี ขอโทษด้วยนะคะ สัญญากับพ่อแม่ไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้วจริงๆ”

  เอมี่ “หลังจากออกจากเรือนจำ ไปวัดบำเพ็ญเหนือ ไปทำบุญไหว้หลวงพ่อโสธร หลังจากนี้ก็ต้องเดินสายทำบุญ สะเดาะเคราะห์ให้ตัวเองเพราะเราก็ไหว้พระสวดมนต์ไว้เยอะตอนอยู่ในนั้น ไม่ได้บนค่ะ ไหว้เฉยๆ พ่อแม่ ท่านก็ดีใจค่ะ ท่านก็ไม่ปล่อยเรา ต้องอยู่กับเขาก่อน”

  แม่ “หลังจากนี้แม่จะเอาน้องไปอยู่ด้วยที่ภูเก็ต เอาไปอยู่ด้วยกัน ให้อยู่ในสายตาเราก่อน คงไม่ปล่อยให้เขาไปใช้ชีวิตตามลำพังคนเดียวแล้ว เข็ดแล้วค่ะ สำหรับงานในวงการ ถ้ามีเข้ามาแม่ก็คงต้องคิดก่อนค่ะ ที่ผ่านมาแม่เข็ดแล้วที่ปล่อยให้น้องอยู่คนเดียว”

เอมี่ โอบกอดครอบครัว

 

เอมี่ กราบขอโทษพ่อและแม่

 

เอมี่ อาเมเรีย และครอบครัว

 

เอมี่ อาเมเรีย สำนึกผิด

 

เอมี่ อาเมเรีย กราบขอโทษ

 

เอมี่ อาเมเรีย เปิดใจ

 

เอมี่ อาเมเรีย – ทนาย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Copyright © 2016 MThai.com All rights reserved. หมายเลขทะเบียนการค้าอิเล็กทรอนิกส์ : 0127114707040