เช็คอินตัวเองให้มั่นใจ ก้าวข้ามบูลลี่ไปกับ เขื่อน ภัทรดนัย ในรายการ Woody Help Me Please by Merz Aesthetics

เชื่อว่าหลายคนๆ อาจรู้สึกไม่มั่นใจในความเป็นตัวเอง หรือ สิ่งที่ตัวเองอยากจะเป็น แค่จะแต่งหน้าแต่งตัวออกจากบ้านก็กังวลว่าจะโดนคนอื่นแซวหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นอัตลักษณ์ทางเพศ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เรารู้สึกกลัวว่าคนรอบตัวหรือสังคมที่เราอยู่จะวิพากษ์วิจารณ์ ความคิดที่ก่อตัวขึ้นนั้นเกิดจากความกดดันจากกระแสสังคมและโซเชียลมีเดียที่ได้บ่มเพาะมาตรฐานความสมบูรณ์แบบ ต้องมีรูปร่างหน้าตา และวิถีชีวิตที่เพอร์เฟกต์ เลยทำให้ผู้คนต้องวิ่งตามมาตรฐานที่คนส่วนใหญ่สร้างขึ้นตลอดเวลา จนไม่มีอิสรภาพในการเป็นตัวของตัวเอง ก่อนที่เราจะสูญเสียตัวตนที่แท้จริงกับสิ่งที่อยากทำ จะมีวิธีไหนบ้างที่ช่วยให้เรามั่นใจในตนเองมากขึ้น ก้าวข้ามความกลัวจากสายตาคนภายนอกได้ในที่สุด

เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย บริษัทชั้นนำระดับโลก ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องอัลเทอร่า และเวชภัณฑ์สำหรับใช้ในคลินิกเสริมความงาม เพื่อทุกความมั่นใจของคนไทย ร่วมออกค้นหาจุดเปลี่ยนของชีวิต เพื่อสร้าง Confidence to be… ดูดีมั่นใจในแบบฉบับที่เป็นตัวเอง อีกครั้งผ่านรายการ Woody Help Me Please by Merz Aesthetics ที่พร้อมจะเป็นสื่อกลางรับฟังทุกเรื่องราวปัญหาที่มากระทบความมั่นใจ ความสุข หรือความภูมิใจในตัวคุณเอง อีกทั้งยังช่วยแบ่งปันข้อคิดให้คุณมีจิตดี กายดี ดูดีในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด สำหรับ EP ที่ 2 นี้ทางรายการได้เรียนเชิญ เมิร์ซกูรู – ครูน้ำฝน ภักดี ผู้เชี่ยวชาญด้านบุคลิกภาพ และผู้ก่อตั้งสถาบัน Pronality Academy มาร่วมให้ข้อคิดผลักดันพลังบวกอีกครั้ง ร่วมกับ เขื่อน – ภัทรดนัย เสตสุวรรณ หรือ เขื่อน ดนัย อดีตนักร้องบอยแบนด์ชื่อดังวง เคโอติก ที่ตอนนี้กลายเป็นนักจิตบำบัดเต็มตัวแล้ว ใช้เสียงของตนเองเพื่อขับเคลื่อนความเท่าเทียมทางเพศ อีกทั้งส่งเสริมพื้นที่ปลอดภัยและน่าอยู่ให้กับกลุ่ม LGBTQ+ และคนรุ่นใหม่ให้กล้าแสดงออกในสิ่งที่ตัวเองเป็นและมีอิสระในการนำเสนอต่อสังคม ภายใต้ข้อความ ‘My Body, My Choice’ และ ‘เสื้อผ้าไม่มีเพศ’

กว่าจะมาเป็นตัวเองอย่างทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เขื่อนก็เคยเป็นคนที่ต้องทำตามความคาดหวังของสังคมมาอยู่ตลอดจากการสวมหมวกเป็น “เขื่อน เคโอติก” สมาชิกวงบอยแบนด์ที่เน้นเอกลักษณ์ความเป็นผู้ชาย หล่อ เท่ ซึ่งการรักษาบุคลิกให้ได้ตามที่วางไว้อย่างยาวนาน ก็ได้ทำให้ เขื่อน-ภัทรดนัย ในช่วงวัยรุ่นเกิดความรู้สึกสับสน และรู้สึกได้ว่า ‘ตัวตนของตัวเองหายไป เราเป็นใครก็ไม่รู้’ จนต้องกลับมาเช็คอินกับตัวเองว่า ‘แท้จริงแล้ว เราต้องการอะไรในชีวิตและสิ่งที่ทำอยู่มันใช่แล้วหรือยัง?’

ตั้งคำถามในสิ่งที่เป็นอยู่ ปลดล็อกไปสู่ตัวตนที่แท้จริง

หลังจากการเป็นนักร้องอยู่ในวงการบันเทิงซักระยะหนึ่ง เขื่อน-ภัทรดนัย ก็ได้ตัดสินใจศึกษาต่อทางด้านจิตวิทยาที่ประเทศอังกฤษ โดยแรงบันดาลใจหลักในการไปเรียนด้านนี้คือ คุณแม่และพี่สาวของเขื่อนนั้นมีปัญหาด้านสุขภาพจิต จึงต้องการจะเรียนรู้และทำความเข้าใจกับอาการอย่างถ่องแท้ เพื่อดูแลครอบครัวให้ดีที่สุด และนำความรู้มาเผยแพร่ให้สังคมเปิดใจและมองว่าปัญหาสุขภาพจิตคือความปกติ และเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่ต่างจากสุขภาพกาย

ขณะเดียวกันประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวมาจากการเรียนกว่า 6 ปี ก็เปิดโอกาสให้เขื่อนได้กล้าเผชิญหน้ากับความกลัวภายในจิตใจ ได้เช็คอินกับตนเองจนค้นเจอความหมายในสิ่งที่ตัวเองเจอในอดีต จนนำไปสู่การยอมรับตัวตนที่แท้จริง รู้ตัวเองว่าจากนี้ไปครอบครัวตนเองจะต้องมาที่หนึ่งเสมอ รวมไปถึงการแสดงออกถึงเพศสภาพที่ลื่นไหลของตนเอง การแต่งตัวในเสื้อผ้าที่ไม่จำกัดเพศ และพร้อมจะสนับสนุนความหลากหลายทางเพศในสังคมอย่างเต็มที่

จัดการความคิดคนอื่นให้ถูกทาง ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ดีขึ้น

ต่อให้เขื่อน-ภัทรดนัยจะรักและยอมรับในตัวตนของตนเองมากเพียงใด ก็หนีไม่พ้นการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมภายนอกที่ประดังประเดเข้ามา ด้วยเหตุนี้ ในการที่ยืนหยัดความเชื่อมั่นในตนเองได้อย่างเข้มแข็งได้นั้น เขื่อนก็ได้หมั่นพูดกับข้างในตัวเอง(Self-talk) อย่างสม่ำเสมอว่า “นี่คือชีวิตของเรา เรากำหนดเอง เราอยากแต่งตัวแบบไหนได้ตามใจ อยากทำอะไรได้ตามสิ่งที่เราคิด เพียงแค่คำนึงถึงกาลเทศะ และสถานที่ก็พอแล้ว” และปรับทัศนคติตนเองที่มีต่อคนภายนอกที่ไม่ชอบ หรือ ไม่เข้าใจเขื่อน โดยแยกแยะว่า ‘นี่ไม่ใช่ปัญหาของเขื่อน แต่เป็นปัญหาของเขา เขากำลังจัดการปัญหาของตนเองอยู่ เขาก็มีปัญหาของเขาเช่นกัน’ อย่างไรก็ตาม หากคนภายนอกได้ใช้คำพูด หรือการกระทำที่รุนแรง จนส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ตนเองก็พร้อมจะลุกขึ้นไม่ยินยอมต่อความคิดดังกล่าว พร้อมทั้งรณรงค์ให้สังคมเข้าใจเรื่องเพศ การแต่งตัว และรูปร่างหน้าตา จนไปถึงยอมรับความหลากหลายในการแต่งตัวแบบหลากหลาย ภายใต้แนวคิด ‘My Body, My Choice’ ใครจะแต่งตัวในรูปแบบใดๆ ที่ใจที่ต้องการ ตราบใดที่เสื้อผ้าอยู่บนร่างกายของคนๆ นั้น เรียกได้ว่าการที่เขื่อนได้ใช้พื้นที่และเสียงของตนเองเพื่อสร้างบรรยากาศสังคมที่เป็นมิตรต่อความหลากหลายและความตกต่าง ช่วยทำให้คนทั่วไปกลับมาเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น มั่นใจในการใช้ชีวิตได้ดียิ่งขึ้น

5 ขั้นตอนสู่การเป็นตัวเองอย่างมั่นใจ ไม่หวั่นกระแสสังคม

สำหรับคนที่พบเจอปัญหาเช่นเดียวกันกับเขื่อนและต้องการจะเสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิต ครูน้ำฝนก็ได้แนะนำเทคนิค 5 ขั้นตอนเพื่อรู้จักและเข้าใจตัวเองได้ดียิ่งขึ้นดังต่อไปนี้

  1. มองเห็นปัญหาของตนเอง ครูน้ำฝนมองว่า หากหลายคนยังหนีจากปัญหาที่เกิดขึ้นในจิตใจ จะไม่สามารถก้าวผ่านความกลัวของตนเองได้ ดังนั้นต้องกล้ามองให้ลึกลงไปยังปัญหาที่เกิดขึ้น จะได้ทราบว่าปัญหาเหล่านั้นมันคืออะไร แตกรายละเอียดได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น
  2. ยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้น การยอมรับปัญหาว่าคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ตนเองได้แก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นได้
  3. เข้าใจปัญหาของตนเอง พิจารณาถึงปัญหาต่อว่า ต้นตอที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร เป็นปัญหาที่คนทั่วไปต่างเผชิญหรือไม่ และคิดว่าตนเองสามารถบรรเทาส่วนใดของปัญหาได้บ้าง
  4. เรียนรู้ปัญหาพร้อมกับการใช้ชีวิต แน่นอนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มีทางออกที่ตายตัว หรือคลี่คลายได้ในพริบตา การคาดเดาต่อไปไม่มีอะไรดีขึ้นนอกเสียจากว่าอยู่กับปัญหา ค่อยๆ คลายปมแต่ละปมและใช้ชีวิตของตนในปัจจุบันให้ดีที่สุด
  5. เปลี่ยนแปลงตนเองให้ดีขึ้น เมื่อเรายอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นแล้ว ก็จะทำให้เราหันมาโฟกัสกับตัวเองได้ดี มาพัฒนาตัวเองและสร้างเอกลักษณ์ตัวเองออกมาได้มากขึ้น

ยอมรับความเป็นตัวเอง มีความสุขกับการเป็นตนเองได้อย่างอิสระ

ครูน้ำฝนก็ได้ส่งท้ายรายการด้วยการย้ำถึงแนวคิดการเป็นตัวของตัวเองได้อย่างมั่นใจที่ได้จากการเรียนรู้จากบทเรียนของเขื่อน-ภัทรดนัย โดยจะต้องรู้สึกภูมิใจในตนเอง มีสติว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ เช็คอินกับตัวเองบ่อยๆ จะได้รู้ถึงจุดมุ่งหมาย และ รู้ว่าทำอย่างไรตัวเราถึงจะมีความสุข รวมถึงการจัดการกับความคิดคนอื่นอย่างไรไม่ให้มากระทบตนเอง ซึ่ง 5 เทคนิคที่กล่าวมาในข้างต้น จะเป็นเครื่องมือสำคัญให้ผู้คนได้ใช้ในการรับมือกับความกลัวและความไม่มั่นใจ นำไปสู่การยอมรับตัวเอง ชอบและรักตัวเอง ทำตามเสียงที่มาจากหัวใจได้อย่างไร้กังวล

ทั้งนี้ พ่อแม่และสังคมเองจะต้องมีบทบาทสำคัญในการเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้แก่คนรุ่นใหม่ ไม่ควรปิดกั้น หรือ ด้อยค่าคนในครอบครัว หรือคนอื่นๆ เพียงเพราะว่ามีความแตกต่างทางไลฟ์สไตล์และเพศ ถ้าหากคนในสังคมช่วยกันเปิดใจ ครูน้ำฝนเชื่อว่าจะช่วยลดบาดแผลทางจิตใจของคนหลายคนและช่วยผลักดันให้ทุก ๆ คน สามารถพัฒนาและรักษาคุณค่าที่มีในตัวเองได้ นำไปสู่การปลุกพลังชีวิต ภูมิใจในสิ่งที่ตนเองเป็น ดูดีและมั่นใจในแบบที่เมิร์ซ เรียกว่า “Confidence to be”

รับฟังเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจกับนิยาม Confidence to be…ดูดีมั่นใจฉบับเต็มของ เขื่อน-ภัทรดนัย และ ครูน้ำฝน กันได้ที่ https://youtu.be/NTCgargAbBA YouTube หรือ https://fb.watch/9X5XV3vNpv/ Facebook และหากท่านอยากเสริมความงามสร้างความมั่นใจ สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.merzclubthailand.com และมาร่วมแชร์ประสบการณ์ที่ปลุกพลังความมั่นใจของคุณได้กับ Woody Help Me Please by Merz Aesthetics ได้ที่เฟซบุ๊ก: Woody

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Copyright © 2016 MThai.com All rights reserved. หมายเลขทะเบียนการค้าอิเล็กทรอนิกส์ : 0127114707040