นี่คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ของ Spider-Man ที่ตัวตนของซูเปอร์ฮีโร่ถูกเปิดเผยต่อสายตาชาวโลก และเป็นการนำชีวิตของเขาในฐานะนักเรียนมัธยมปลายวัย 17 ปี ตลอดจนชีวิตของคนที่เขารักเข้าสู่สายตาสาธารณชน อันตรายและความโกลาหลที่รายล้อมลงเอยด้วยการสร้างความสูญเสีย ปีเตอร์ผู้ไม่สามารถยืนดูความฝันของเพื่อนๆ พังทลายได้ เขาจึงขอให้ด็อคเตอร์สเตรนจ์ทำให้ความลับของเขากลับไปเป็นความลับเหมือนเดิม สเตรนจ์ ผู้ซึ่งแบกรับน้ำหนักของการตัดสินใจที่คร่าชีวิตที่ปรึกษาของปีเตอร์ (โทนี่ สตาร์ค) สเตรนจ์เริ่มร่ายเวทมนตร์แห่งการหลงลืม แต่เมื่อปีเตอร์รู้ว่าเวทมนตร์จะทำให้ เอ็มเจ, เน็ด, เมย์ และแฮปปี้ ลืมไปว่าเขาคือสไปเดอร์-แมน เขาต้องการมันทั้งสองอย่าง ด้วยความพยายามที่ทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมก่อนที่ มิสเทริโอ จะเปิดเผยตัวตนของเขา ปีเตอร์ได้เปลี่ยนแปลงขอบเขตของเวทมนตร์นี้ในขณะที่สเตรนจ์กำลังร่ายมัน เป็นการเปิดกล่องแพนดอร่าที่เริ่มนำทุกคนที่รู้ว่าปีเตอร์ ปาร์คเกอร์คือ สไปเดอร์-แมน ในทุกจักรวาลเข้ามาในโลกภาพยนตร์มาร์เวล สเตรนจ์หยุดยั้งเวทมนตร์ได้ก่อนที่ผู้มาเยือนจำนวนไม่สิ้นสุดจะเข้ามา แต่โชคร้ายสำหรับปีเตอร์ ผู้ที่ผ่านเข้าไปได้คือศัตรูของสไปเดอร์-แมนในจักรวาลอื่น และเขาต้องเผชิญกับวายร้ายที่น่าเกรงขามที่สุดที่เคยต่อสู้กับสไปเดอร์-แมนในจักรวาลใดๆ
“ทอม ฮอลแลนด์” กลับมารับบท “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” อีกครั้งพูดว่า
“ใน Homecoming ปีเตอร์ได้ โทนี่ สตาร์คเป็นที่ปรึกษา เขาอยากร่วมทีมอเวนเจอร์ แต่โทนี่ ก็แนะนำให้เขาโฟกัสไปที่การเป็นสไปเดอร์-แมน ใน Far From Home หลังจากสูญเสียที่ปรึกษาและทำใจไม่ได้กับเรื่องนั้น เขาก็ค้นพบว่าการเป็น สไปเดอร์-แมน หมายถึงเมื่อหน้าที่เรียกร้อง เขาก็ต้องตอบสนอง ในตอนท้ายปีเตอร์เขาพร้อมที่จะเป็นตัวของตัวเอง เขาถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ก่อคดี ฆาตกรรมเควนติน เบ็ค (หรือมิสเทริโอ) ครั้งนี้คือการเติบโต การก้าวขึ้นไปบนบัลลังก์ ที่ต้องตัดสินใจในฐานะอเวนเจอร์เต็มตัว พลังวิเศษที่ยิ่งใหญ่มักมาพร้อมความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่งครับ พลังพิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ สไปเดอร์-แมน คือปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ และนั่นเป็นเพราะความถ่อมตนของเขา เมื่อสิ่งนั้นตกอยู่ในอันตราย เพื่อนของเขาตกอยู่ในอันตราย ป้าของเขาตกอยู่ในอันตราย ชีวิตของพวกเขาถูกทำลายลงเพราะตัวเขา เขาก็รู้ว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ผมชอบ และนี่เป็นเครื่องเตือนใจเสมอ ก็คือความไร้เดียงสาของเขาที่ไปหาด็อคเตอร์สเตรนจ์แล้วพูดว่า คุณทำให้ทุกคนลืมว่าผมเป็นใครได้มั้ย ? นั่นคือสิ่งที่คุณทำได้ใช่รึเปล่า’ และนั่นคือสิ่งที่มีเพียงเด็กเท่านั้นที่จะทำครับ No Way Home คือครั้งแรก มันนำพาไปถึงจุดนั้น มันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายที่จะเดาอะไรได้ มันคือการเปิดไปสู่มัลติเวิร์ส มันคือบทสรุปครับ”
SPIDER-MAN™ : NO WAY HOME
23 ธันวาคม ในโรงภาพยนตร์