“บุ๊ค ปริญญา”ปลุกตำนานเรื่องที่ไม่เคยถูกจารึก จัดฟิตติ้ง ภ.หนังหน้าครู

Home / หนัง / “บุ๊ค ปริญญา”ปลุกตำนานเรื่องที่ไม่เคยถูกจารึก จัดฟิตติ้ง ภ.หนังหน้าครู

คร่ำหวอดในวงการบันเทิงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังมากว่า25ปี “บุ๊ค ปริญญา” วันนี้กับบทบาทการก้าวมาเป็นผู้จัด ในนามบริษัท จันธารา 168 จำกัด กับโปรเจคใหญ่สร้างภาพยนตร์เรื่อง”หนังหน้าครู” ซึ่งเมื่อวันที่7 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ได้จัดฟิตติ้งนักแสดง (รอบแรก) ไปแล้ว โดยนักแสดงที่มาร่วมฟิตติ้งอย่าง”ต้อม รชนีกร,ส้ม ธัญสินี,หนึ่ง มาฬิศร์,โซบีโชติรส,ปูเป้ อรหทัย,จอย ทีสเกิ๊ต,โบว์(ซุปเปอร์วาเลนไทน์),ยุ้ย ญาติเยอะ,ตรี นันทรัตน์,วาเนสซ่า บีเบอร์,ฟิวส์ กิติกร,เต้ย วุฒิพงษ์,นัท ณัฐพงษ์,โอ๊ต ภูมิพัฒน์ และได้รับเกียรติจาก อ.เบิ่ง ทวีศักดิ์ อัครวงษ์(ระนาดเอกมือ1ของเมืองไทย) ร่วมแสดงด้วย และก่อนทำการฟิตติ้ง ทางด้านนักแสดง ต้อม รชนีกร และ ตรี นันทรัตน์ ยังได้ทำการรำถวายหน้าครู โดยมี อาจารย์เบิ่ง ทวีศักดิ์ (ระนาดเอกมือ1ของเมืองไทย) เป็นผู้บรรเลงตีระนาดให้ทั้ง2นักแสดงร่ายรำ เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยให้ทำงานราบรื่นอีกด้วย

บุ๊ค ปริญญา ผู้จัดป้ายแดงเปิดเผยว่า เตรียมงานเรื่องที่จะจัดสร้างภาพยนตร์เรื่อง หนังหน้าครู มาร่วม2ปี โดยมี “จอย ทีสเกิ๊ต” เป็นหัวหอกสำคัญอีกคนนึงของงานนี้ เรามีโอกาสได้ไปกราบ หนังหน้าครูมาโดยการแนะนำของคุณ “จิลล์ จักรพงศ์” ผู้ที่สืบทอดดูแลหนังหน้าครู ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่ไม่ได้มีการจดบันทึกหรือจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องราวของการเลาะหน้าคน หลังจากที่เสียชีวิตไปแล้วแต่ว่าปวารณา ตัวเองเป็นหน้าครู เพื่อให้ลูกหลานนำมาบูชาเพื่อความศิริมงคลของคณะละครรำในสมัยอยุธยา พอตนเองได้ไปกราบขอพรและสัมผัสเกิดความศรัทธา จึงได้ขออนุญาติคุณ จิลล์ จักร์พงศ์ นำเรื่องมาถ่ายทอดผ่านการทำภาพยนตร์ ซึ่งคุณจิลล์ ยังได้เป็นผู้ถ่ายทอดโครงเรื่องของภาพยนตร์ หนังหน้าครูด้วย

สำหรับในส่วนนักแสดง พระเอก นางเอกเรามีเซอร์ไพร้สแน่นอนแต่ขออุบไว้ก่อน นักแสดงส่วนใหญ่ในเรื่องนี้ส่วนมากจะมีความสามารถในการร่ายรำหรือจบนาฎศิลป์มาโดยตรงเพราะมีความสำคัญในส่วนของการแสดงมากๆ ส่วนคอนเซปต์ที่เป็นความพิเศษของภาพยนตร์เรื่อง หนังหน้าครู นี้คือเป็นการรวบรวมนักแสดงสายละครทีวี ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้วทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ร่วม30คน และที่เห็นในวันฟิตติ้งนี้เป็นแค่นักแสดงบางส่วนเท่านั้น ยังมีอีกหลายคนที่เชื่อว่าแฟนๆยังคิดถึงพวกเขาอยู่ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ดูแล้วได้กลิ่นไอและอรรถรสของการดูละครทีวี เรียกว่าเป็นโปรเจคใหญ่ที่ตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด ฝากติดตามด้วยนะครับ