จัดเต็มทุกความประทับใจสำหรับ “COCKTAIL CLASSICS” A Symphony Orchestra Concert ที่รวบรวมทุกบทเพลงตลอด 20 ปีในวงการของ COCKTAIL มาร้อยเรียง สร้างความพิเศษในรูปแบบของการแสดงสดร่วมกับซิมโฟนีออร์เคสตราวงใหญ่ พร้อมด้วยนักร้องประสานเสียงรวมแล้วกว่า 118 ชีวิตบนเวที เมื่อวันที่ 4-6 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
คอนเสิร์ตนี้เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจของ “โอม ปัณฑพล” (นักร้องนำ) ที่อยากพาเพื่อน ร่วมวงอย่าง เชา ชวรัตน์ (กีตาร์), ปาร์ค เกริกเกียรติ (กีตาร์เบส), และ ฟิลิปส์ ฟิลิปส์ (กลอง) รวมถึงแฟนเพลงที่เคียงข้างกันตลอดมา เดินทางเข้าสู่ปีที่ 21 ไปพร้อม ๆ กัน ภายในคอนเสิร์ตจึงเปี่ยมล้นไปด้วยความตั้งใจของวง ที่อยากจะส่งมอบความทรงจำสุดพิเศษให้กับทุกคน
นอกจากนั้นแล้วยังเป็นการร่วมงานกับ ทฤษฎี ณ พัทลุง และธิติวัฒน์ รองทอง โปรดิวเซอร์ และคอนดักเตอร์ ผู้มีส่วนเรียบเรียงออร์เคสตร้าให้กับวงต่อเนื่องมาหลายปี ทำให้ทุกบทเพลงที่นำมาร้องเรียบเรียงใหม่ในคอนเสิร์ต สื่อสารออกมาได้อย่างลึกซึ้งและลงตัวกว่าเดิม
เพียงแค่เริ่มเปิดม่านการแสดง ก็ได้เสียงปรบมือจากแฟน ๆ อย่างท่วมท้น เพลงแรกที่ทุกคนได้ฟังคือเพลง “ฉันร้องไห้เป็นหมื่นครั้งเพื่อมาเจอเธอ” ทั้งเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโอม และการผสมผสานเสียงดนตรีของสมาชิกวงกับดนตรีคลาสสิก ยิ่งทำให้เพลงนี้มัดใจแฟน ๆ ได้อย่างอยู่หมัด แทบไม่มีใครสามารถละสายตาจากเวทีได้เลย หลังจบเพลงแรก COCKTAIL ก็ยังส่งความประทับใจจัดเต็มต่อเนื่องอีก 4 เพลงรวด ทั้งเพลงงานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง, ไม่เป็นรอง, ช่างมัน, และ อาจเพราะ
จนมาถึงเพลงที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของงานคือเพลง “คุกเข่า” โอมได้พูดบนเวทีว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่มีความหมายมากสำหรับวง เพราะเป็นเพลงที่ทำให้หลายคนเริ่มรู้จักกับ COCKTAIL เมื่อเพลงคุกเข่าเริ่มต้นขึ้น ก็สร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ อีกครั้ง ด้วยเสียงร้องและทำนองที่ปรับให้ช้าลง ผสมกับเสียงคอรัสที่รับส่งกันเป็นอย่างดี เรียกว่าเป็นเพลงคุกเข่าในรูปแบบที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน จึงทำให้เพลงนี้ยิ่งบาดลึกกระแทกใจผู้ฟัง แฟน ๆ ร้องตามกันสนั่นลั่นฮอลล์
เมื่อเดินทางมาถึงสองเพลงสุดท้ายของช่วงแรก COCKTAIL ก็เปลี่ยนอารมณ์ด้วยการหยิบเพลง “อภิสิทธิ์ชน” และเพลง “ทำดีไม่เคยจำ” มาเล่น สร้างความสนุกสนานด้วยดนตรีจังหวะมัน ๆ ผสมกับเสียงดนตรีของวงซิมโฟนีออร์เคสตรา และยังสร้างสีสันโดยการให้ผู้ชมทำท่าทางตามบนเวที มีทั้งปรบมือ, เซิ้ง, เต้น ทำเอาคนทั้งฮอลล์ต้องลุกขึ้นยืน เรียกว่าเป็นการจบช่วงแรกได้อย่างสวยงาม
มาถึงช่วงที่สองของคอนเสิร์ต วงเลือกเปิดเพลงแรกมาด้วยเพลงรักอมตะอย่างเพลง “เธอ” ตามมาด้วยอีกสองเพลงรักที่ซึ้งกินใจไม่แพ้กันกับเพลง “คู่ชีวิต” และเพลง “เรา” สามเพลงนี้นับว่าเป็นเพลงที่มีความหมายกับโอม เพราะแต่ละเพลงแต่งขึ้นในช่วงเวลาของชีวิตจังหวะต่าง ๆ เมื่อนำสามเพลงนี้มาเล่นต่อเนื่องกัน ต้องบอกเลยว่าทำเอาแฟน ๆ อิ่มเอมใจเป็นอย่างมาก เพราะนี่คือการได้ฟังเพลงรักสุดซึ้งแบบต่อเนื่อง
เมื่อจบพาร์ทของเพลงรัก วงก็พาทุกคนเดินทางกลับมาพบกับตำนานเพลงเศร้าที่ Medley รวมกันมาอย่างลงตัว สร้างความประทับใจอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพลงฉันเดินทางเพื่อมาพบเธอ, ซ้ำซ้อน, โปรดเถิดรัก, เรื่องธรรมดา, เงาของเมื่อวาน, ส่งเธอออกไป และเพลง เธอทำฉันเสียใจ เพลงนี้แฟน ๆ ร้องตามกันสนั่น และร่วมกันเปิดแฟลชโทรศัพท์ เป็นอีกหนึ่งภาพความสวยงามที่เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ก่อนที่จะเข้าเพลง “หัวใจเหล็ก” และเพลง “โปรดฟังอีกครั้ง” ให้แฟนเพลงได้โยกไปตาม ๆ กัน
มาถึงอีกหนึ่งช่วงสำคัญ คือการที่โอมเซอร์ไพรส์แฟน ๆ ด้วยการตั้งใจเล่นกีตาร์เองในเพลง “ชั่วชีวิต” และจบลงด้วยเพลง “น้ำตาสุดท้าย” ที่คนทั้งฮอลล์ก็ร่วมใจกันยืนส่งเสียงร้องกันอย่างเต็มที่ แต่ความสนุกยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะถึงแม้ในลิสต์เพลงจะจบลงด้วยเพลง “น้ำตาสุดท้าย” แต่หลังจากที่ COCKTAIL เดินลงเวทีไป แฟน ๆ ก็ร่วมกันอังกอร์ ตะโกนเรียก COCKTAIL อย่างพร้อมเพรียง เมื่อวงเดินขึ้นเวทีมาอีกครั้ง ทุกคนต่างส่งเสียงต้อนรับด้วยความดีใจ
COCKTAIL ส่งความสนุกในช่วงสุดท้ายด้วย 3 เพลงที่มีความหมายต่อสมาชิกวง ทั้งเพลง ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร, นักดนตรี, และเพลงกาลเวลาพิสูจน์คน เรียกว่าเป็นการส่งท้ายคอนเสิร์ตได้เป็นอย่างดี คอนเสิร์ตนี้เป็นการยกระดับโชว์ขึ้นไปอีกขั้น เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้ชมทุกที่นั่ง กว่า 29 บทเพลงที่ COCKTAIL ตั้งใจสื่อสารออกมาอย่างลึกซึ้ง มันคือการพาทุก ๆ คนเดินทางไปสำรวจความทรงจำที่มีต่อบทเพลงของพวกเขา และได้เพลิดเพลินไปกับดนตรีระดับคุณภาพที่ทุกคนจะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน