![](https://talk.mthai.com/storage/uploads/2024/06/14/624ea03cb2ae2f0ff6e623ac6643c66b.jpeg)
ดนตรี Electronic Dance Music และการมิกซ์เพลงที่ผสมผสานแนวเพลงที่หลากหลายของดนตรีเต้นรำมีพัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่งมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่ง Together Festival ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีเต้นรำอันตับต้นๆของไทยที่นำวิวัฒนาการของดนตรีเต้นรำร่วมสมัยมาให้แฟนเพลงได้สัมผัสผ่านโสตประสาทกันอย่างเต็มที่มาเป็นครั้งที่ 11 แล้วตั้งแต่ข่วงเย็นไปจนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 7 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ไบเทค บางนา ก็ยังคงคราคร่ำไปด้วยขาปาร์ตี้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่แต่ละบีทของทุกบทเพลงที่เปิดออกมาผ่านลำโพงที่มีระบบเสียงที่แน่นปึ้กสุดๆได้เข้าไปกระตุกต่อมแดนซ์ให้ทุกคนพร้อมใจกันวาดลีลาออกสเตปแดนซ์กันแบบนอนสต็อปเลยทีเดียว ในปีนี้ความเก๋าของงานคือการคัดสรรดีเจระดับท็อปของโลก ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้มาอวดทักษะการมิกซ์เพลงเซิร์ฟเหล่าแฟนๆที่ยังคงเต็มที่ไปกับทุกบีทและทุกฮุคที่บรรเลงออกมา
![](https://talk.mthai.com/storage/uploads/2024/06/14/13f9e62a2fe6cf7dcbcd771dcc18e3dc.jpeg)
ความโดดเด่นที่เห็นได้ชัดที่สุดของงาน Together Festival ปี 2024 ก็คือโปรดักชั่นที่ผ่านการออกแบบมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นจอ LED คุณภาพสูงลายล้อมจนล้นเวที ไปจนถึงจอด้านบนเหนือเวทีที่มีความคมชัดสูงมากคอยวาดลวดลายกราฟฟิกและมิวสิควิดีโอให้เข้ากับจังหวะดนตรีที่สร้างสรรค์มาอย่างจัดจ้าน ช่วยสร้างอารมณ์ร่วมให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดี ส่วนระบบแสงสีที่มีทั้งแสงเลเซอร์และแสงที่สร้างสีสันต่างๆที่ยิงมาจากหลากหลายทิศทางบนเวที รวมถึงเปลวเพลิงสุดเร่าร้อนก็มีส่วนทำให้โชว์ของเหล่าดีเจที่ดีอยู่แล้วยิ่งเร้าอารมณ์ความรู้สึกให้ฟินกันมากยิ่งขึ้นไปอีก
Mordan ดีเจฝีมือดีชาวไทยเป็นดีเจคนแรกที่ขึ้นโชว์เปิดแดนฟลอร์ให้กับงาน Together ปีนี้ จัดเซทมาอุ่นเครื่องและสร้างความคึกคักให้กับงานได้เป็นอย่างดี และSABAI สุดยอดดีเจและโปรดิวเซอร์ชาวไทยที่แฟนๆอยากเจอ Sabai ใช้ดนตรี Future Bass และ House ที่หลากหลาย ตามด้วยสามหนุ่มดีเจยอดฝีมือสุดแสนอารมณ์ดี Cheat Code จัดให้กันแบบเดือดๆด้วยดนตรี Progressive House, Future Bass และ Electro Pop ที่มิกซ์กันได้อย่างกลมกล่อม
![](https://talk.mthai.com/storage/uploads/2024/06/14/bcb3497b2fb35dcf65476d8ee51636cc.jpeg)
Kayzo ทำให้แดนซ์ฟลอร์ลุกเป็นไฟด้วยการสาดบีทของดนตรีแนว Break Beat, Dubstep, Trap ไปจนถึง Happy Hardcore และด้วยความชื่นชอบในดนตรีร็อก, เมทัล และฮาร์ดคอร์ร่วมสมัยก็ทำให้โชว์ของเขาไม่ต่างไปจากโชว์ของวงเฮฟวีเมทัลดีๆซักวงนึงเลย โดยเฉพาะในช่วงที่นำเพลงของวง Break Beat Hardcore ระดับตำนานอย่าง The Prodigy มารีมิกซ์ใหม่
![](https://talk.mthai.com/storage/uploads/2024/06/14/0fb7a616649ea8cd69c487666768536f.jpeg)
ปิดท้ายวันแรกด้วยโชว์ของ Alan Walker ที่ทำเอาทุกคนขนลุกตั้งแต่ได้ยินท่อนอินโทรของ Faded หนึ่งในเพลง Electro House ที่ดีและเป็นที่รักของแฟนเพลงมากที่สุด Alan Walker ผสมผสานดนตรี Future House, Future Bass, Trap และ Electro Pop เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลื่นไหลและค่อยๆเร่งระดับความมันด้วยบีทที่หนักและหนาขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งก็ทำให้ดนตรีมีมิติและความลึกมากขึ้นด้วย เสน่ห์ของ Alan Walker ก็คือการเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ทั้งด้วยบุคลิกของเขาเองและดนตรีที่เขาเปิด ทุกเพลงมีเสน่ห์ของเมโลดีที่งดงามและสีสันของดนตรีเต้นรำแต่ละแนวที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ซึ่งความสนุกแบบค่อยๆไหลไปเรื่อยๆแบบนี้ทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและแฟนๆต่างก็เสียดาย เพราะอยากให้โชว์นานกว่านี้อีกหน่อย
![](https://talk.mthai.com/storage/uploads/2024/06/14/6043597a1a3e37fe8d756206849ff9d0.jpeg)
ดีกรีความร้อนแรงของงาน Together ในวันที่ 2 ไม่ได้ลดลงไปจากวันแรกเลยแม้แต่องศาเดียว ดนตรีแนว Dubstep, Jungle ไปจนถึงแนว Trap และ Drum & Bass ของดีเจ RL Grime ที่มีจังหวะที่เร่งเร้ารุนแรงเหมือนเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้แดนฟลอร์ทะลุจุดเดือดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว สุดเซอร์ไพร์ด้วยการประชันสุดยอดดาวรุ่งระดับโลก ก็ยิ่งช่วยเสริมความมันด้วยฝีมือการมิกซ์ระดับพระกาฬของ b2b รวมถึง Knock 2 สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆด้วยดนตรี House ที่มีเบสไลน์หนักๆ นอกจากนี้ก็ยังนำดนตรี Trap และ RL Grime ที่ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของดนตรีฮิปฮอปและอาร์แอนด์บีร่วมสมัยในเวลานี้มามิกซ์เข้าด้วยกันได้อย่างสนุกมือ ซึ่งเจ้าตัวก็เอาใจแฟนเพลงด้วยการนำธงชาติไทยมาคลุมตัวเองไว้ในระหว่างโชว์ด้วย
![](https://talk.mthai.com/storage/uploads/2024/06/14/ced8067e9ae0323741543cfb797af7da.jpeg)
GRYFFIN ดีเจคนนี้ได้ยินแค่ชื่อก็มันแล้ว ซึ่งโชว์ในคราวนี้เจ้าตัวยิ่งกว่าไม่ทำให้ผิดหวัง แต่ทำให้ภาพรวมของงานดูสนุกสนานมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวกับการเปิดเพลงในแนว Tropical House, Trance และ Future Bass ที่เจ้าตัวถนัดและด้วยเซนส์ของการเปิดเพลงแดนซ์ที่มีความเป็นดนตรีป็อปร็อกผสมผสานอยู่ด้วยก็ทำให้เพลงของ GRYFFIN เข้าถึงง่ายและโชว์ก็เต็มที่ทั้งในเรื่องของคุณภาพเปิดเพลงเอาใจแฟนๆและความเป็นป็อปสตาร์ของเขาเอง ตามได้โชว์สุดพิเศษจาก NWYR (ออกเสียงว่า “New-Year”) เป็น Side Project ของ W&W นั่นเองและนี่ก็แสดงให้เห็นถึงการ comeback สู่เพลง Trance ของพวกเขาอีกครั้งหลังจากที่หยุดพักไปเกือบ 4 ปี บอกเลยว่าคุ้มค่า
Steve Angello ดีเจชาวกรีซที่เป็นหนึ่งในสมาชิกวง House ระดับซูเปอร์กรุ๊ปอย่าง Swedish House Mafia เป็นอีกหนึ่งความพีกของงานในปีนี้ โชว์ของเขาได้รับคำชมจากแฟนๆว่าเป็นหนึ่งในโชว์ที่ดีที่สุดของงาน Together ปีนี้ด้วยดนตรีแนว Tenhno House และ Electro House เป็นหลัก ดนตรีที่ Steve Angello เปิดในงานเจิดจรัสด้วยท่วงนองของบทเพลงที่สวยงามติดหู แต่ในขณะเดียวกันก็มีความหนักหน่วงชวนให้ออกสเตปตลอดเวลาด้วยกลิ่นอายของบีทแบบเทคโนจากยุค 90 โดย Steve Angello ปิดโชว์อย่างงดงามด้วยเพลงที่ครองใจขาแดนซ์ที่สุดเพลงหนึ่งอย่าง Save the World X Calling (ID Remix)
![](https://talk.mthai.com/storage/uploads/2024/06/14/fa810e24795ea4f0c626560736c70bcc.jpeg)
งาน Together Festival ปี 2024 ไม่ทำให้ผิดหวังเลย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าดีเจฝีมือระดับเทพทุกๆคนที่มาสร้างความมันและความสนุกให้กับทุกคนในแบบแทบไม่มีเวลาให้หยุดพักกันเลย เช่นเดียวกันกับเหล่าแฟนเพลงที่ส่งพลังกลับคืนมาให้กับเหล่าดีเจบนเวทีในแบบล้นทะลัก ซึ่งก็ยิ่งทำให้โชว์ทวีความมันมากขึ้นไปอีก สุดท้ายก็คืองานโปรดักชั่นที่ยิ่งกว่าจัดเต็มในทุกๆอย่างซึ่งก็ทำให้ภาพรวมของงานออกมาวิจิตรตระการตาสุดๆ ไม่ต่างไปจากการดูงาน Performance Art ดีๆงานหนึ่งเลย
ใครพลาดงานปีนี้ยังมีปีหน้าให้แก้ตัว ส่วนใครที่ได้ไปร่วมงานในปีนี้แล้ว ซึ่งเชื่อว่าได้ฟินกันถ้วนหน้าแน่นอน ก็ยังมีเวลาเตรียมตัวกันได้อีกหนึ่งปีเต็มๆ เพราะความเดือดและความมันที่จะทำให้ทุกคนได้แดนซ์กันยับแบบนอนสต็อปยังมีให้ได้เติมกัน จนเกินที่จะเต็มอีกแน่นอนกับงาน Together Festival ในปี 2025