การเรียนรู้ของนักศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21

Home / ข่าวและกิจกรรมดารา / การเรียนรู้ของนักศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21

        เดิมการเรียนของนักศึกษาไทยยังไม่มีนวัตกรรมและโอกาสทดลองลงสนามจริงตั้งแต่เริ่มเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นปีที่1 มากนัก โชคดีที่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีก้าวไกล ยิ่งเข้าสู่ยุค4.0 จึงทำให้เกิดโมเดลการเรียนรู้ในศตวรรษที่21ขึ้นมา…

   

        โมเดลการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยบวกกับโมเดลธุรกิจ โดย สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ เรียกกันว่า “House Project” ซึ่งคือการจำลองบริษัทขนาดย่อมโดยกลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่1 ถึง ปีที่ 4 โดยนักศึกษาได้แทนคำว่า “บริษัท” เป็นคำว่า “บ้าน” เพื่อสร้างเอกลักษณ์และบ่งบอกถึงความเป็นครอบครัวของสมาชิกในบริษัทนั้นๆ นั่นเอง

   

        ศตวรรษที่ 21 มีครบทั้งเทคโนโลยี นวัตกรรม ช่องทางการสื่อสารที่ทั่วถึงกัน ทำให้โมเดลการเรียนรู้คู่ประสบการณ์จริงช่วยสร้างรายได้ให้แก่นักศึกษาไปแล้วหลายต่อหลายคน มันจะดีแค่ไหนหากเด็กรุ่นใหม่ไฟแรงที่อาจจะเป็นคนในครอบครัวของคุณ ได้เข้ามาเรียนรู้วิธีการทำงาน การทำธุรกิจจริงๆคู่กับการเรียนในมหาวิทยาลัยไปด้วย เป็นเวลา4ปีติดต่อกัน ไม่เพียงแค่ได้ทฤษฎีในหนังสือเรียน แต่สิ่งที่นักศึกษารุ่นใหม่จะได้รับคือความรู้ ประสบการณ์ที่ได้ก่อนนักศึกษาจากที่อื่น และยิ่งดีไปกว่านั้นเมื่อนักศึกษาได้แรงสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยเพื่อไปแข่งขันธุรกิจจริงภายนอก

   

        สิ่งที่น่าสนใจในโมเดลนี้อีกอย่างคือการดึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวของนักศึกษาออกมาใช้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ที่สำคัญนี่คือการเปิด “โอกาส” ให้ตัวนักศึกษาเอง ประเทศไทยจะได้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่มีศักยภาพมากพอที่จะเข้าไปอยู่ในตลาดสากลได้ เหตุผลก็เพราะในโมเดลการเรียนรู้นี้ ทางสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ ของสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ได้จัดการแข่งขัน ชิงเงินรางวัลที่จะนำไปต่อยอดเป็นทุนสร้างธุรกิจ โดยจัดการประกวดธุรกิจยอดเยี่ยมเป็นประจำทุกปี เพื่อวัดผลการทำงานและศักยภาพของแต่ละบริษัทในปีที่ผ่านมา

  

        เพื่อให้คุณได้เห็นภาพมากขึ้น จึงจะขอยกตัวอย่าง “บ้าน Godfrey (ก็อดฟรี)” หนึ่งในบรรดาธุรกิจที่ทำขึ้นมาอย่างจริงจัง กลุ่มนักศึกษามีการทำงานเป็นฝ่ายถอดแบบจากการทำงานในบริษัทจริง เช่น ทีมบริหาร โดยมี CEO 2 คนด้วยกัน ได้แก่ น.ส.ณัฐสรัญ เดชาอมร และ น.ส.นิรชา คำสัตย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 รวมทั้งยังมีฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด ฝ่ายการเงิน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และฝ่าย HR ทำให้สมาชิกในบ้านมีโอกาสได้ลงมือทำงานกันจริงๆ พูดถึงสินค้าของ Godfrey มีด้วยกันถึง 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ อย่างแรกคือเซรั่มที่มีสารสกัดจากเปลือกมังคุดที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งสิวได้และอีกสินค้าหนึ่งคือครีมบำรุงผิวหน้าที่สามารถสกัดเซลล์ผิว ฟื้นฟูผิวหน้าอย่างชุ่มชื่นภายใต้ชื่อ Feodor ซึ่งคุณสามารถดูธุรกิจของนักศึกษากลุ่มนี้ได้จากเฟสบุ๊ค Godfrey ที่นี่ https://www.facebook.com/GFacneserum โดยนักศึกษากลุ่มนี้ได้พัฒนาธุรกิจตั้งแต่การจัดสัมมนาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ จัด workshop startup และออกอีเว้นท์อีกมากมาย จนได้เริ่มมีการส่งออกไปยังต่างประเทศแล้วในปีที่ผ่านมา

   

        ก่อนที่ธุรกิจแบบนี้จะเกิดขึ้น นักศึกษาทุกคนได้ศึกษาจากอาจารย์ผู้สอนและนำมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีที่อยู่รอบตัว ตั้งแต่กระบวนการการสำรวจตลาด ทดลองตลาด ดูความต้องการของลูกค้า จนถึงขั้นตอนผลิตและสร้างคอนเทนท์ทำการตลาดออกไป โดยตั้งจุดมุ่งหมายคือกรเข้าไปทำธุรกิจในตลาดสากลให้ได้ การเรียนรู้ในโมเดลนี้มีรุ่นพี่คอยดูแลและสนับสนุนรุ่นน้องให้พัฒนาทักษะรอบด้านเสมอ โมเดลการเรียนรู้ยุคศตวรรษที่21 ของสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศนี้ เป็นการตอกย้ำการเรียนภาคทฤษฎีด้วยการลงมีปฏิบัติจริง เรียกได้ว่าเล่นจริงเจ็บจริง

   

        นี่สิการเรียนยุคใหม่ เรียนทั้งในหลักสูตรบวกการปฏิบัติจริง สร้างประสบการณ์ก่อนเริ่มชีวิตวัยทำงานตั้งแต่เริ่มเรียนมหาวิทยาลัยก้าวแรก นักศึกษาไทยก้าวไกลด้วยโมเดลการเรียนในรู้ศตวรรษที่ 21 จากสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น สาขาการจัดการระหว่างประเทศ