มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับพระราชานุญาตให้ดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติ ๖๕ พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประกอบด้วยการจัดสร้างพระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณ ขนาดหน้าตัก ๖๕ นิ้ว และหอพระพุทธมหาสิริพีรยพัฒน์ เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป ขอเชิญชวนชาวมหาวิทยาลัยมหิดลและคนไทยทุกคนร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีและความรักที่มีต่อพระองค์ท่าน โดยจะมีพิธีเททองหล่อพระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณ และพิธีวางศิลาฤกษ์หอพระพุทธมหาสิริพีรยพัฒน์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๓ ณ บริเวณหน้าอาคารสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมหิดลรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีต่อชาวมหาวิทยาลัยมหิดลและประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์โดยถ้วนหน้าว่า ทรงงานหนัก อุทิศพระวรกายอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย ทรงทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและปวงชนชาวไทย ทั้งยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อมหาวิทยาลัยมหิดลนานัปการ อาทิเช่น ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานปริญญาบัตรให้กับบัณฑิตของมหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๒ จนถึงปัจจุบัน ทรงพระราชทานนามอาคารและเสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และเปิดอาคารและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง นอกจากนั้นยังพระราชทานพระราชดำริในด้านการศึกษาและการพัฒนาในศาสตร์ต่าง ๆ อีกนานัปการ ในโอกาสที่พระองค์จะทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๕ พรรษา วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๓ มหาวิทยาลัยจึงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติ ๖๕ พรรษาฯ ขึ้น โดยประกอบด้วย ๑. การจัดสร้างพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก ๖๕ นิ้ว โดยนำต้นแบบมาจาก พระพุทธมหาลาภ ที่พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อ ๒๘ ปีที่แล้ว (วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๓๕) และ ๒. หอพระเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป และลานปฏิบัติธรรมรอบหอพระ บริเวณสนามหญ้าหน้าอาคารสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีของบุคลากรมหาวิทยาลัยมหิดลต่อสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเพื่อเป็นที่สักการะบูชา เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ประพฤติตนโดยยึดพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างแห่งการเสียสละเพื่อประชาชนและประเทศชาติ และใช้สถานที่ดังกล่าวสำหรับการปฏิบัติธรรมของนักศึกษา คณาจารย์ บุคลากรของมหาวิทยาลัยมหิดล และประชาชนทั่วไป
ในการดำเนินโครงการฯครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันเป็นมหามงคลที่ชาวมหาวิทยาลัยมหิดลและประชาชนทุกหมู่เหล่าจะได้ร่วมใจกันถวายสดุดี ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขอให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ มีพระพลานามัยแข็งแรง มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญแด่ชาวมหาวิทยาลัยมหิดลและปวงชนชาวไทยตราบนิจนิรันดร์กาล และขอให้พระพุทธบารมีแห่งพระพุทธมหาลาภและพระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณ รวมถึงพระบารมีแห่งกรมสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯได้ทรงปกปักรักษาคุ้มครองชาวมหาวิทยาลัยมหิดลและประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่ามีความปลอดภัย มีขวัญและกำลังใจที่เข้มแข็ง มีความรักสามัคคี มีความร่วมมือร่วมใจกัน และมีสติปัญญาที่เข้มแข็ง สามารถก้าวข้ามปัญหาอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-๑๙ ในปัจจุบันที่เป็นปัญหาร่วมกันของทั่วโลก และขอให้ประเทศไทยของเราได้มีความสุข ความสงบ และความเจริญวัฒนาถาวรยิ่งขึ้นไป
ศาสตราจารย์ นพ.บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ประธานอำนวยการโครงการฯ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมหิดลได้ริเริ่มโครงการเฉลิมพระเกียรติ ๖๕ พรรษาฯ ขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นปีแห่งการครบรอบ ๕๐ ปี วันพระราชทานนาม ๑๓๑ ปี มหาวิทยาลัยมหิดล และเป็นปีที่ ๓๖ แห่งการก่อตั้งสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียนและมหาวิทยาลัยมหิดล เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อตั้งสถาบันฯ และเสด็จเปิดมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ในคราวเดียวกัน เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๒๖ โดยโครงการเฉลิมพระเกียรติ ๖๕ พรรษาฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ทรงมีต่อมหาวิทยาลัยมหิดล โดยเมื่อวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๓ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้พระราชทานนามพระพุทธรูปที่จะจัดสร้างนี้ว่า “พระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณ” ซึ่งหมายถึง “พระพุทธรูปที่นำมาซึ่งปัญญาหยั่งรู้อันกระจ่างแจ้งและเป็นมงคลแห่งมหาวิทยาลัยมหิดล” และให้อัญเชิญอักษรพระนามาภิไธย “ส.ธ.” มาประดิษฐานที่ผ้าทิพย์ สำหรับหอพระเฉลิมพระเกียรติฯได้รับพระราชทานชื่อว่า “หอพระพุทธมหาสิริพีรยพัฒน์” (ตามสร้อยพระนามาภิไธย) และให้อัญเชิญพระนามาภิไธย “ส.ธ.” มาประดิษฐานที่หน้าบันของหอพระเพื่อความเป็นสิริมงคลสืบไปด้วย ในการดำเนินการได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล ในพระราชูปถัมถ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับมูลนิธิดร.เทียม โชควัฒนา (โดยดร.บุญเกียรติ โชควัฒนา) โดยมีอาจารย์ ดร.สุพร ชนะพันธ์ เป็นผู้ออกแบบพระพุทธรูปและหอพระเฉลิมพระเกียรติฯ
ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๓ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับพระเมตตาจากเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานแผ่นทองทรงจารและชนวน เพื่อเตรียมนำไปทูลเกล้าฯ ถวายกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อทรงประกอบพิธีเททองหล่อยอดเกศองค์พระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณในลำดับต่อไป นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมหิดลยังได้รับพระราชานุญาตให้จัดสร้างพระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณจำลอง ขนาดหน้าตัก ๑๖ นิ้ว และ ๙ นิ้ว พร้อมทั้งเหรียญพระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณ ซึ่งออกแบบโดย นายโสภิศ พุทธรักษ์ ประติมากรชำนาญการ จากสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เพื่อเป็นของสมนาคุณแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสนับสนุนกองทุนของมูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดลฯอีกด้วย
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ที่ปรึกษาโครงการเฉลิมพระเกียรติ ๖๕ พรรษาฯ กล่าวถึง “พระพุทธมหาลาภ” ซึ่งนำมาเป็นต้นแบบของการจัดสร้าง “พระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณ” เป็นพระพุทธรูปโบราณทรงเครื่องแบบกษัตริย์ พระหัตถ์ขวายกเหนือพระหัตถ์ซ้ายซึ่งวางหงายบนพระเพลา (ตัก) โดยมีวัตถุคล้ายผะอบ (ยา) วางบนพระหัตถ์ พระพุทธรูปดังกล่าวมีชื่อว่า พระไภษัชยคุรุ ในนิกายมหายาน หมายถึงพระพุทธเจ้าผู้เป็นบรมครูแห่งการแพทย์และยารักษาโรค มีความเชื่อกันว่า ผู้ศรัทธาบูชาจะนำมาซึ่งความอยู่ดีมีสุข และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ สำหรับ “พระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณ” ที่มหาวิทยาลัยมหิดลจะจัดสร้างขึ้นนั้น ได้รับการออกแบบจากศิลปินช่างปั้นให้มีผลไม้ทิพย์วางบนพระหัตถ์ซ้าย
พระไภษัชยคุรุ นิยมนับถือกันมากในประเทศจีนและธิเบต ในฐานะเป็น “พระพุทธเจ้าแพทย์” เนื่องจากเมื่อพระองค์เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ทรงตั้งปณิธานว่า เมื่อพระองค์ทรงบรรลุพระโพธิญาณแล้ว เหล่าสัตว์ที่ทนทุกทรมานด้วยโรคภัยใดใด หากได้ยินพระนามของพระองค์ จะพ้นจากโรคภัยทั้งหลาย มีร่างกายสมบูรณ์ ประกอบด้วยสติปัญญา มีทรัพย์มหาศาล และจะบรรลุโพธิญาณในที่สุด เชื่อกันว่าผู้เจ็บป่วยด้วยโรคทางกายและทางใจ สามารถพ้นจากโรคภัยได้ ด้วยการถวายเครื่องบูชาและการตั้งจิตรำลึกแน่วแน่ในพระนามของพระองค์
รองศาสตราจารย์ นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ รักษาการแทนรองอธิการบดี ประธานดำเนินงานโครงการฯ กล่าวว่า เนื่องในวันพฤหัสบดีที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๓ จะเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยมหิดลขอเชิญชวนทุกภาคส่วนและประชาชนชาวไทยร่วมใจถวายสดุดี เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่พระองค์จะทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๕ พรรษา โดยจะมีพิธีเททองหล่อองค์พระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณและพิธีวางศิลาฤกษ์หอพระพุทธมหาสิริพีรยพัฒน์ โดยได้รับความเมตตาจากเจ้าประคุณ สมเด็จพระวันรัต กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต และเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ณ มณฑลพิธีหน้าหอประชุมบุญศิริ สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งแต่เวลา ๙.๐๐ น.จนถึง ๑๒.๐๐ น. ประกอบพิธีบวงสรวงโดย โหรหลวงฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้างานโหร พรามหณ์ กองงานพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ในพิธีดังกล่าวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯพระราชทานผ้าไตรเพื่อถวายคณะสงฆ์ที่มาประกอบพิธีซึ่งล้วนแต่เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่เปี่ยมด้วยเมตตาและเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนชาวไทย
มหาวิทยาลัยมหิดล ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพเททองหล่อพระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณ ด้วยการทำบุญจารึกชื่อลงบนแผ่นทองชนวนซึ่งจัดทำขึ้นพิเศษสำหรับพิธีนี้เป็นการเฉพาะ แผ่นละ ๑๐๐ บาท หรือสามารถร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา โดยท่านที่บริจาคตั้งแต่ ๓๐๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป จะได้รับการสลักชื่อบริเวณหอพระ และมูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดลขอมอบพระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณจำลอง ขนาด ๙ นิ้ว ๑ องค์ (เพียง ๒๘ องค์เท่านั้น) บริจาคตั้งแต่ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ขึ้นไป รับมอบ “ชุดเหรียญพระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณ” ๑ ชุด ประกอบด้วย เหรียญทองคำ ๙๕ เปอร์เซ็นต์ เหรียญเงิน และเหรียญทองคำ ๔๕ เปอร์เซ็นต์ (จัดสร้างเพียง ๖๕ ชุด เท่านั้น) บริจาค ๖๕,๐๐๐ บาท รับมอบเหรียญพระฯ (เนื้อทองคำ ขนาดใหญ่) ๑ เหรียญ บริจาค ๓๖,๕๐๐ บาท รับมอบเหรียญพระฯ (เนื้อทองคำ ขนาดกลาง) ๑ เหรียญ บริจาค ๒,๖๕๐ บาท รับมอบเหรียญพระฯ (เนื้อเงิน) ๑ เหรียญ และบริจาค ๓๐๐ บาท รับเหรียญพระฯ (เนื้อทองแดง) ๑ เหรียญ ใบเสร็จรับเงินบริจาคสามารถนำลดหย่อนภาษีได้ ๑ เท่า ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือ เพื่อเงินบริจาคไปจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุ ๖๕ พรรษา จัดตั้งกองทุนทำนุบำรุงพระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณ หอพระพุทธมหาสิริพีรยพัฒน์ และลานปฏิบัติธรรมบริเวณโดยรอบหอพระ ให้เป็นสถานที่สำคัญคงอยู่ยั่งยืนตลอดไป และเพื่อสนับสนุนการศึกษาพัฒนาวิชาการ และส่งเสริมการเรียนรู้ของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล มุ่งสู่ปณิธานในการเป็น “ปัญญาของแผ่นดิน” ต่อไป
ผู้สนใจสามารถติดต่อร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญจารึกชื่อแผ่นทองชนวนหรือร่วมบริจาคได้ที่ มูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โทร: ๐๒-๘๔๙-๖๓๕๙, ๐๒-๘๔๙-๖๑๑๑ หรือติดต่อที่สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน คุณนวลน้อย บุญชูส่ง โทรฯ ๐๙๑-๐๑๐-๓๑๓๐