มหาวิทยาลัยศรีปทุม ไทยดี มีมารยาท ปี 2

ม.ศรีปทุม ทีม DUST ไอเดียสะท้อนสังคมยุค โควิด19 โดนใจ! คว้าเงินแสนโครงการ ไทยดี มีมารยาท ปี2

Home / ข่าวและกิจกรรมดารา / ม.ศรีปทุม ทีม DUST ไอเดียสะท้อนสังคมยุค โควิด19 โดนใจ! คว้าเงินแสนโครงการ ไทยดี มีมารยาท ปี2

ประกาศผลเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ โครงการส่งเสริมและเผยแพร่ค่านิยมและความเป็นไทย (ไทยดี มีมารยาท ปี2) หลังจากที่ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม , กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม และ บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) ได้เชิญชวนเปิดรับไอเดียสร้างสรรค์จากเยาวชน นักเรียนระดับเตรียมอุดมศึกษา นักศึกษาระดับอุดมศึกษา อายุไม่เกิน 25 ปี ร่วมส่งผลงานหนังสั้นความยาว 3-5 นาที หัวข้อ ‘ไทยดี มีมารยาท New Normal’ เข้าประกวดเพื่อร่วมเป็นกระบอกเสียงและประพฤติตนตามหลักมารยาทในแนวปฏิบัติในสังคมไทย รวมถึงการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องและเหมาะสม พร้อมทั้งเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักเรียนนักศึกษาจากทั่วทั้งประเทศร่วมส่งผลงาน พร้อมประกาศผล ณ ลิโด้คอนเน็คท์ ชั้น 2 เธียร์เตอร์ 2 ถนนพระราม 1 เมื่อวันก่อน

ในงานได้รับเกียรติจาก คุณปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม , คุณยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม , คุณชัยพล สุขเอี่ยม รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม พร้อมด้วย คุณกัญญภัทร สุขสมาน ผู้อำนวยการหน่วยกลยุทธ์อีเวนต์และการตลาดออนไลน์ บริษัท โมโน ไซเบ้อร์ จำกัด ในเครือ โมโน เน็กซ์ ร่วมงานประกาศผล โดยมีคณะกรรมการ เสือ พิชย , เสือ ยรรยง , เฟรม ธีพิสิฐ ติชมผลงานหนังสั้นเรื่องต่างๆ ซึ่งผลรางวัลชนะเลิศได้แก่ ทีม DUST ซึ่งมี นายนรินทร์ ลี้โชติ (ผู้กำกับ) , นายธนพล มณีธร (บูมแมน) , นายวีระยุธ ราชประทุม (ตัดต่อ) , นายเขมชาติ สุวรรณเจียรมณี (สวัสดิการ) , นายชิษณุพงศ์ คำสุข (ช่างภาพวิดีโอ) นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยศรีปทุม จากผลงานเรื่อง ‘มารยาทไม่ดีตรงไหน?’ คว้ารางวัลทุนการศึกษา 100,000 บาท พร้อมโล่รางวัลชนะเลิศไปครอง

“เป็นครั้งแรกของพวกเราครับได้ที่ส่งผลงานหนังเข้าประกวด ซึ่งเรื่องของเราน่าจะเป็นเรื่องที่สัมผัสได้ง่ายๆ ในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 ที่ผ่านมา จากสถานการณ์รอบตัว ณ สถานที่ต่างๆ ที่ขอความร่วมมือในการสแกนเช็กอิน ผมเองก็แอบเห็นคนหลายๆ คน ที่เขาสแกนแบบปลอมๆ นะ และเข้าไปยังสถานที่นั้นๆ มันเป็นการแสดงออกในการไม่รับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ก็เลยเป็นไอเดียของหนังเรื่องนี้ขึ้นมาครับ ซึ่งน่าจะโดนใจคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ครับ โดยเงินรางวัลที่ได้มา พวกเราตั้งใจจะแบ่งเพื่อไปต่อยอดในเรื่องของอุปกรณ์กล้อง คอมพิวเตอร์ในการตัดต่อ เพื่อเป็นต้นทุนในการหาประสบการณ์ในการประกวดครั้งต่อๆ ไปครับ” นายนรินทร์ กล่าว