จากแม่ค้าขนมปังปิ้งตลาดนัดรถไฟรัชดา สู่การสร้างธุรกิจส่งออกต่างประเทศมูลค่ามหาศาล พร้อมมีตัวแทนร่วมพันชีวิต เรียกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับ “แนน นฤมล ประเสริฐสุข” CEO Gala Thailand สาววัยรุ่นวัยเพียงแค่ยี่สิบต้นๆ ที่ฮึดสู้ชีวิตจากการให้เงินปู่กับย่า 500 บาท เงินก้อนแรกในชีวิตที่เธอขายได้กำไรจากขนมปังได้ในวัยที่เรียนยังไม่จบมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
แต่โชคร้ายคุณปู่ที่เธอรักได้จากไปซะก่อนด้วยโรคมะเร็งทำให้เจ้าตัวฉุกคิดว่า เราน่าจะตอบแทนท่านให้มากกว่านี้ เยอะกว่านี้ และประสบความสำเร็จให้เร็วกว่านี้ น้ำตาของความเสียใจที่ตอบแทนคนที่รักช้าไปเป็นแรงบันดาลใจครั้งยิ่งใหญ่ให้เธอตัดสินใจผันตัวจากแม่ค้าขนมปังตลาดนัดสู่การเป็นตัวแทนของขายออนไลน์ จากที่วันหนึ่งเล่นไอจีแล้วไปเห็นร้านขายเครื่องสำอางค์สกินแคร์เกาหลีที่คนแห่ซื้อออเดอร์แน่นร้าน แพ็คของส่งเยอะมากเงินเข้ารัวๆ ทุกวัน จนตัวเองแอบเพ้อฝันว่าถ้าเราเป็นเจ้าของคงจะรวยและหาเงินได้เยอะมาก
“แนนจำได้ว่าวันนั้นตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจขายของออนไลน์ด้วยเงินทุน 5000 ไปสมัครเป็นตัวแทนของแบรนด์หนึ่ง ได้สินค้ามาแล้วเริ่มเปิดไอจีของตัวเองเพื่อขายสินค้าตัวนั้น ตอนแรกไม่ได้บอกเพื่อนหรือคนรอบตัวเลยนะว่าเราจะมาขาย คือไม่มีฐานลูกค้าเลย ทุกอย่างเริ่มต้นจากศูนย์และเริ่มหาลูกค้าใหม่ในแพลทฟอร์มไอจี”
“ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะขายได้หรือไม่ได้ คิดแค่ว่ามันต้องเริ่มและต้องทำในทุกๆ วัน อาศัยความอึดอดทน พยายาม เพราะคนที่เขาขายดีๆ เขาใช้เวลามากี่ปี เขาทำมานานแค่ไหน แนนให้กำลังใจตัวเอง แนนสู้ บอกตัวเองว่าเริ่มก่อน ก็คือรวยก่อน อะไรที่ทำได้ทำเลย ไม่รอเพราะแนนไม่อยากเสียดายเวลา และโอกาสในการตอบแทนบุญคุณคนที่แนนรัก เพราะบางทีเขาอาจรอแนนไม่ไหว”
“เปลี่ยนความคิดตัวเองต้องรอเรียนจบแล้วค่อยหางานทำ ไม่ค่ะเริ่มเลย เริ่มต้นวันนี้เลย นี่แหละคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ แนน อยากจะหาเงินให้ได้เร็ว อยากหาเงินให้ได้ไว เพื่อไปเลี้ยงดูคนในครอบครัว ทำให้แนนทำแบบไม่รีรออะไร ก้มหน้าก้มตาทำมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง จากที่เด็กที่ไม่มีอะไรเลยจนมีทุกอย่าง สร้างบ้านใหม่ให้คุณย่า ดูแลท่านตามที่หวังไว้ในวัยที่ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ มันตอกย้ำว่าฉันคิดไม่ผิดที่ฉันลงมือทำเร็ว เริ่มเร็ว จนทุกวันนี้ แม้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่เสียใจแล้วเพราะตัวเองทำหน้าที่ได้ดีที่สุด กลายเป็นเสาหลักและทำให้คนในความครอบครัวมีความสุข”
จากเงินก้อนแรก 5000 บาท กลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจคอสเมติกมูลค่าหลักร้อยล้าน ตอบโจทย์ผู้หญิงด้วยสินค้าที่ทำให้หน้าว้าว ช่ำสวย ผิวแลดูสุขภาพดี ลุคแบบสาวเกาหลีที่มีกระแสออนไลน์โด่งดังมาก โดยคุณแนน บอกว่า เป้าหมายแรกเริ่มคืออยากได้เงินมาเรียน ดูแลตัวเอง ใช้จ่าย ดูแลคุณย่า จนลองไปเป็นตัวแทนขายให้กับแบรนด์อื่น เริ่มเก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ ความชำนาญ จนสร้างฐานลูกค้าในไอจีมีคนติดตามเกือบ 5 หมื่นคน
พอเริ่มมีความรู้พื้นฐาน ขายเก่งและสังเกตเรียนรู้หาต่อยอดแนวทาง พัฒนาความเป็นผู้นำ เพิ่มทักษะและให้คำปรึกษาทีมงาน ตัวแทนจนกลายเป็นแม่ทีมใหญ่ประมาณปีกว่า จนถึงวันหนึ่งที่พร้อม คุณแนนรู้สึกอยากทำสินค้าออกมาตัวหนึ่งในตลาดออนไลน์เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์ของตัวเอง นั่นคือสินค้า GALA TONE UP เป็น water drop whitening cream ซึ่งเป็นสินค้าตัวแรกช่วยในเรื่องการบำรุงผิวก่อนแต่งหน้าสำหรับสาวๆ ก่อนลงกันแดดหรือรองพื้น ตอนนั้นเราขายครีมกันแดดอยู่แต่พื้นผิวหน้าของลูกค้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ลูกค้าอยากให้หน้าดูผิวผ่องผิวว้าว ผิวดูสุขภาพดี ปรับใบหน้ากระจ่างขึ้น มีความช่ำความผ่องจนผลิตตัวนี้ออกมาปรากฏว่า เกินคาดมาก ปิดจองมีออเดอร์มากกว่าหมื่นซองในลอตแรกเลย
กระแสตอบรับดีมากทำให้ไปต่อได้ กลายเป็นสินค้าติดกระแสมากๆ มีคนสนใจพูดถึงเยอะมาก บิวตี้บล็อกเกอร์หลายคนรีวิวบอกความประทับใจ ปากต่อปากใช้ดี แบรนด์เติบโตมาเร็วมากภายในระยะ 2 ปี พร้อมปรับวางแผนการตลาดใหม่ๆ เพื่อให้ตัวแทนสามารถหารายได้ในระยะยาว จากแบรนด์ที่ขายแบบออนไลน์จ๋า มาเป็นแบรนด์เทียบเท่าเค้าท์เตอร์แบรนด์คุณภาพชั้นนำ มีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยคุณแนนเผยว่า อยากทำสินค้าให้มันหลุดจากคำว่า ครีมในเน็ต แล้วตอบโจทย์ลูกค้าทุกช่วงวัย ไมใช่แค่วัยรุ่นวัยเดียว
วางแผนการตลาดปรับภาพลักษณ์แบรนด์ จนกลาย Gala Thailand ติดหูลูกค้า สินค้าของแบรนด์ก็เข้าวางขายในร้าน Multi Beauty พร้อมได้รับการติดต่อมาจากหลายๆ ช็อปไม่ว่าจะเป็น อีฟแอนด์บอย และ บิวเทรียม หลังจากปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้โตขึ้น จนตอนนี้ขยายฐานลูกค้าจากไทยไปยังต่างประเทศ เริ่มมีวางขายในกัมพูชา และทยอยเปิดตัวในอีกหลายประเทศ
ล่าสุดทางรายการ ต้มยำอมรินทร์ ช่อง อมรินทร์ 34 ก็ได้เชิญ คุณแนน มาร่วมพูดคุยถึงความสำเร็จของแบรนด์ Gala Thailand เรียกว่าแค่วินาทีแรก ทำเอาหลายๆ คนน้ำตาไหล กับความมุ่งมั่น ความพยายาม ของ CEO สาวคนนี้ ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แต่ขอลุกขึ้นสู้ และลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
“ตอนไปนั่งในรายการ แนนตื่นเต้นมากๆ ค่ะ ทั้งไฟ ทั้งกล้อง ทีมงาน พี่อั๋น ภูวนาท พี่อั๋นเป็นกันเองมาก ให้เราทำใจร่มๆ สบายๆ ไม่ต้องเกร็ง เพราะเป็นครั้งแรกของแนนเลยที่ได้ไปออกรายการทีวี สิ่งที่แนนเตรียมไปทุกอย่าง ท่องจากที่บ้าน แนนลืมหมดเลย (หัวเราะ) แต่ที่ไม่ลืมเลยคือ คุณปู่คุณย่า ในช่วงที่ชีวิตที่แนนลำบาก แนนอยากดูแลคุณปู่มาก แต่สุดท้ายท่านก็มาเสียไปก่อน ทุกวันนี้คุณปู่ คือแรงบันดาลใจของแนน เวลาแนนเหนื่อย แนนท้อ พอนึกถึงช่วงเวลาลำบาก พอคิดถึงคุณปู่ ก็ลืมความเหนื่อย ความท้อ ไปเลย ต้องขอบคุณสติ และหัวใจตัวเอง ที่ตัดสินใจทำแบรด์ Gala Thailand แนนไม่ได้ทำเพื่อตัวแนนคนเดียว แต่แนนทำเพื่อทุกๆ คน ที่อยากเข้ามาเป็นครอบครัว Gala Thailand และคนที่อยากมีผิวดี ผิวใส ผิวสวย กับสินค้าที่ราคาจับต้องได้ ตอนนี้สินค้าของแบรนด์ Gala Thailand มีหลายตัวมาก ทุกๆ ชิ้นได้กระแสตอบรับดีมากๆ ตอนนี้มีคนทักมาเยอะมาก เพราะดูจากรายการ ต้มยำอมรินทร์ ไลน์-อินบ๊อกซ์ แทบแตก ทั้งเขามาให้กำลังใจตัวแนน และสนใจสินค้า สั่งสินค้า ขอสมัครมาเป็นตัวแทน เป็นครอบครัวของ Gala Thailand ขอบคุณโอกาสดีๆ ที่ทางรายการ ต้มยำอมรินทร์ เชิญแนนไปพูดคุยถึงความสำเร็จนะคะ”
https://www.facebook.com/plugins/video.php?height=476&href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FGala.perfectskin%2Fvideos%2F692414238828090%2F&show_text=false&width=476&t=0
และวิกฤติโควิด 19 แบบนี้ ทำให้หลายๆ คนอ่อนแอ ท้อถอยหมดกำลังใจ แต่สำหรับคุณแนน เธอไม่หยุดลุย ลุกขึ้นมาสู้ทำให้ตัวเองแข็งแกร่ง ซึ่งเธอได้เล่าประสบการณ์ที่ปลุกพลังที่ฟังแล้วเกิดกำลังใจขึ้นมา โดยในช่วงโควิดหลายๆแบรนด์อาจชะลอปล่อยสินค้าออกมาใหม่ แต่แบรนด์ Gala ไม่ถอย แรงฮึดสู้เกิดจากแค่ไปเห็นพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนยังสู้ ยังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ทำไมเธอเองจะไม่สู้ละ
“แนนไปข้างนอกบ้านไปซื้อข้าวกิน เห็นพ่อค้าแม่ค้าขายข้าวขายอาหาร หลายๆ คนลำบากกว่าเรายังดิ้นรน แล้วตัวเองเราจะอยู่เฉยๆ ทำไม วันนั้นบอกกลับตัวเองว่าฉันต้องลุย ฉันต้องรอด จนตัดสินใจใหม่ เปิดตัวสินค้าใหม่ออกมาเลยค่ะ เพราะแม้ว่าสถานการณ์จะย่ำแย่แค่ไหน คนก็ยังต้องกินต้องใช้ต้องบริโภคสินค้า ตัวแทนเราเขาก็มีรายจ่ายถ้าเราไม่ทำอะไรเพิ่ม เขาจะรอดมั้ย เราต้องออกสินค้าใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ให้ตัวแทน ตัวแนนเปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้าปล่อยสินค้าใหม่ออกมาสวนกระแส เพราะทุกคนต้องรอดและต้องสู้ อดทนสู้จะรอดเพราะถ้าหยุดกับที่แล้วไม่ทำอะไรเลย เราจะร่วงทันที เลยลุยทำ เดินหน้าสู้ต่อมาพร้อมกับกระแสตอบรับที่ดีมากในสถานการณ์แบบนี้ ทุกอาชีพต้องเดินหน้าต่อ เช่นกันกับตัวเอง ถ้าเราไม่สู้ต่อเราจะแพ้ทันที แต่ถ้าเราเดินหน้าเราแข็งแกร่งขึ้นฝ่าฝันมันไปได้”