เจาะลึก! ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 1 2 3 เลือกอะไรดี?

Home / ข่าวและกิจกรรมดารา / เจาะลึก! ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 1 2 3 เลือกอะไรดี?

มอเตอร์ไซค์เป็นหนึ่งในยานพาหนะยอดนิยมที่มีการใช้งานเยอะ เพราะสามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว และในถนนสายเล็กมอเตอร์ไซค์ก็สามารถขับได้อย่างคล่องตัวมากกว่ารถยนต์ แต่ด้วยจุดเด่นเหล่านี้เองที่อาจกลายเป็นดาบสองคมที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ ยิ่งในเวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย มอเตอร์ไซค์ที่ไม่มีอะไรปกคลุมก็อาจมีความรุนแรงจากอุบัติเหตุมากกว่ารถยนต์ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ทั้งชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 กัน

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 1

เป็นประกันที่มีความคล้ายกับประกันรถยนต์เพราะมีความคุ้มครองเยอะ โดยมีรายละเอียดหลัก ๆ ดังนี้

  • คุ้มครองคู่กรณี ผู้เอาประกัน
  • รับผิดชอบต่อชีวิตและร่างกาย ทรัพย์สิน และค่ารักษาพยาบาล
  • คุ้มครองกรณีรถสูญหาย และไฟไหม้
  • คุ้มครองกรณีที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ และไม่มีคู่กรณี
  • มีค่าเสียหายส่วนแรก (ยอดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท)

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 2+

ประกันชั้น 2 + นี้เป็นประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่มีความคุ้มครองคล้ายกับประกันชั้น 1 แต่จะมีความแตกกันที่

  • คุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอก
  • รับผิดชอบค่าซ่อมรถคู่กรณี
  • รับผิดชอบค่าซ่อมรถตัวเอง
  • คุ้มครองกรณี สูญหาย/ไฟไหม้

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 3

              ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 3 เป็นประกันที่มีราคาประหยัดที่สุด โดยมีความคุ้มครองแตกต่างจากประเภทอื่น ๆ คือ

  • คุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอก
  • รับผิดชอบค่าซ่อม เฉพาะ รถคู่กรณีเท่านั้น

              ด้วยเหตุนี้ทำให้ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 3 ไม่เป็นที่นิยมของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์เท่าไรนัก แต่ก็ถือว่าเหมาะสมกับเบี้ยประกันราคาถูก

วิธีเลือกประกันให้เหมาะกับมอเตอร์ไซค์

              นอกจากการเลือกประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 ยังมีองค์ประกอบอื่นที่เป็นปัจจัยสำคัญอีก ดังนี้

1. เบี้ยประกันของรถมอเตอร์ไซค์สูงขึ้นตามขนาดของกำลังเครื่องยนต์ หากกำลังเครื่องยนต์สูง ราคารถก็จะสูงตามไปด้วย ดังนั้นหากใช้รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ควรเลือกประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี เพื่อตอบโจทย์ความคุ้มครองและให้ความสบายใจ เมื่อต้องซ่อมแซมรถ

2. เลือกประกันให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยให้คำนึงถึงการใช้งานเพื่อให้เบี้ยประกันคุ้มค่ามากขึ้น เช่น 

  • ใช้รถในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นการใช้รถเป็นประจำ อาจต้องเจอเผชิญสภาพการจราจรซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงควรเลือกประกันชั้น 1 เพราะให้ความคุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี ทั้งยังให้ความคุ้มครองทั้งทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล และร่างกาย ของผู้เอาประกัน ทั้งยังคุ้มครองในกรณีลื่นล้มหรืออุบัติเหตุอื่นๆ ที่ไม่มีคู่กรณี
  • ใช้สำหรับการท่องเที่ยว ออกทริปต่างจังหวัด อาจเลือกเป็นประกันชั้น 2+ เนื่องจากเป็นประกันที่คุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี ให้ความคุ้มครองทั้งทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล และร่างกาย ของผู้เอาประกัน รวมถึงกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้อีกด้วย
  • ผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ อาจเลือกประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 3 ซึ่งเบี้ยประกันต่ำสุด โดยจะให้ความคุ้มครองแค่ความเสียหายและทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น