คณะทำงานมะเร็งปอดเพื่อคนไทย จับมือ กลุ่มเซ็นทรัล จัดกิจกรรม Caring LungAndMe, No Smoking, No Killing เดินหน้าให้ความรู้ดูแลสุขภาพปอด เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก

Home / ข่าวและกิจกรรมดารา / คณะทำงานมะเร็งปอดเพื่อคนไทย จับมือ กลุ่มเซ็นทรัล จัดกิจกรรม Caring LungAndMe, No Smoking, No Killing เดินหน้าให้ความรู้ดูแลสุขภาพปอด เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก

เนื่องใน “วันงดสูบบุหรี่โลก” ซึ่งตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี คณะทำงานมะเร็งปอดเพื่อคนไทย ภายใต้ มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ Lung And Me Digital Solution สำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอด และ กลุ่มเซ็นทรัล ได้จัดกิจกรรม World No Tobacco Day 2023: Caring Lung And Me, No Smoking, No Killing พร้อมจัดเสวนาครั้งสำคัญในหัวข้อ “บุหรี่กับสังคมไทย และโอกาสเสี่ยงมะเร็งปอด” เพื่อสร้างความตระหนักถึงวิธีการป้องกันและการดูแลสุขภาพปอด ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปอด พบกับ “คนเซ็นทรัลพันธุ์ฮีโร่ เลิกบุหรี่” ร่วมพูดคุยกับพนักงานที่สามารถเลิกบุหรี่ได้จริง พร้อมด้วย ตูมตาม The Star ที่มาแบ่งปันประสบการณ์ Caring and Sharing: Case ผู้ป่วยมะเร็งปอด เคสผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ได้ มินิคอนเสิร์ต จากศิลปินชื่อดัง FrenchW และ วง Playground, กิจกรรม วอร์มปอด วอร์มใจ จาก Cover Dance Anti-Smoking Club Thailand บอกให้โลกรู้ว่า “ปอดแข็งแรงแล้วดีอย่างไร” พร้อมด้วยบูธกิจกรรมต่างๆ อาทิ บูธให้คำปรึกษาเลิกบุหรี่โดยศูนย์บริการสาธารณสุข 16 ลุมพินี และคณะทำงานชมรมลมวิเศษ, บูธให้คำปรึกษาพร้อมกดจุดเลิกบุหรี่จากสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่, บูธ Lung & Me ที่รวมเรื่องราวประสบการณ์มะเร็งปอดจากคุณหมอและเพื่อนๆ วิธีการอยู่ร่วมกับมะเร็งปอด การค้นหาโรงพยาบาล แพทย์ และแนวทางการรักษา และ บูธ Touch Screen Exhibition ชวนตอบคำถามสั้นๆ เพื่อประเมินว่า สูบบุหรี่นานแค่ไหนถึงเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด โดยงานจัดขึ้น ณ Craft Studio ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

ภายในงาน World No Tobacco Day 2023: Caring Lung And Me, No Smoking, No Killing นำโดย รศ.นพ.ดร. วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ ประธานคณะทำงานมะเร็งปอดเพื่อคนไทย สุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ กลุ่มเซ็นทรัล โดยได้รับเกียรติจาก ศ.เกียรติคุณ พ.ญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติ เพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ประธานในพิธีร่วมเล่าถึงวัตถุประสงค์และที่มาของการจัดงาน พร้อมรับฟังเสวนาในหัวข้อ “บุหรี่กับสังคมไทย และโอกาสเสี่ยงมะเร็งปอด” โดย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ รศ.นพ. ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่และแนะวิธีป้องกันและการดูแลสุขภาพปอดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มะเร็งปอดสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบเร็ว

สุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัล ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม ผ่านการรณรงค์เพื่อสร้างสังคมไทยที่ปลอดบุหรี่ จึงเป็นที่มาของการจัดตั้ง “โครงการสมาพันธ์เครือข่ายเซ็นทรัลเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่” โดยได้รับการสนับสนุนจาก สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ให้องค์ความรู้ในการขับเคลื่อนโครงการ ซึ่งได้เคยประกาศให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่แห่งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 เพื่อขานรับนโยบายภาครัฐและด้วยปณิธานมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของสังคม และในปี 2566 นี้ เรามีเป้าหมายการลดบุหรี่ในกลุ่มพนักงานต่อเนื่องไปยังศูนย์กระจายสินค้าให้เป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ 100% ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เราไม่ห้าม…แต่เราห่วง” ที่ขับเคลื่อนโดย “กลุ่มคนเซ็นทรัลพันธุ์ฮีโร่” ซึ่งเป็นบุคคลต้นแบบด้วยวิธีการเพื่อนชวนเพื่อนให้ “ลด.. ละ.. เลิก สูบบุหรี่” สำหรับปีนี้ กลุ่มเซ็นทรัล ยังคงตระหนักถึงความสำคัญในสุขภาพปอดของทุกคนเหมือนเช่นเคย จึงได้ร่วมกับ คณะทำงานมะเร็งปอดเพื่อคนไทย ภายใต้มะเร็งวิทยาสมาคม ร่วมกับ LungAndMe platform จัดกิจกรรม Caring LungAndMe , No Smoking, No Killing ขึ้นเพื่อสื่อสารเชื่อมโยงถึงผู้ป่วยโรคโรคมะเร็งปอดและผู้ที่สูบบุหรี่ให้ตระหนักถึงพิษภัยผลกระทบต่อสุขภาพ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ เพื่อลดจำนวนนักสูบหน้าใหม่ให้ได้

รศ.นพ.ดร. วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ ประธานคณะทำงานมะเร็งปอดเพื่อคนไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีภัยคุกคามมากมายที่ส่งผลให้เกิดมะเร็งปอดในอนาคต หนึ่งในนั้นส่วนใหญ่มีปัจจัยเสี่ยงมาจากการสูบบุหรี่ ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงบุหรี่รูปแบบต่างๆ เช่น บุหรี่ไฟฟ้า ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนเป็นจำนวนมาก เพราะคิดว่าไม่เป็นการรบกวนคนรอบข้างและเข้าใจผิดว่ามีโทษน้อยกว่า ซึ่งตรงนี้ต้องทำความเข้าใจใหม่ว่า ไม่ว่าบุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ธรรมดาก็ทำให้ผู้เสพเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตามการร่วมกันรณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชนจึงมีความสำคัญ เพื่อให้คนลดการสูบบุหรี่ และลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดในอนาคต

ทางด้าน ศ.เกียรติคุณ พญ. สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติ เพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า จากการเก็บรวบรวมสถิติ พบว่า ปี พ.ศ. 2564 มะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 ของโรคมะเร็งทั้งหมด คิดเป็น 12.4% ของจํานวนผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการวินิจฉัยใหม่ในประชากรไทยทุกกลุ่มอายุ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเป็นอันดับที่ 2 เช่นเดียวกัน (16.3%) โดยบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสาเหตุของมะเร็งปอดถึงร้อยละ 80-90 ผู้ที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด 15-30 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ นอกจากนี้ บุคคลผู้ใกล้ชิดกับควันบุหรี่ (บุหรี่มือสอง หรือ Secondhand Smoker) จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีสารก่อให้เกิดมะเร็งปอดหลายชนิด เสี่ยงทั้งคนสูบและคนรับควันมือสอง เราจึงต้องร่วมมือกันเพื่อให้สังคมไทยเป็นปลอดบุหรี่ให้ได้ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีนักสูบหน้าใหม่เพิ่ม มากขึ้นและการเข้าถึงง่ายของทั้งบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอีกด้วย