สำหรับนักการตลาดออนไลน์หลายๆ ท่านที่กำลังมองหาช่องทางในการโปรโมทธุรกิจ ผ่านทั้งหน้าเว็บไซต์หรือบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ การเลือกทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ตัวช่วยที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพบนหน้าเว็บไซต์ เรื่องของการแสดงผลลัพธ์การค้นหาบนหน้า Search Engine ยกตัวอย่างเช่น Google และเพื่อเป็นการทำให้หน้าเว็บไซต์ติดอันดับการค้นหา อย่างไรก็ตามการทำ SEO ไม่ได้หมายความว่าหน้าเว็บไซต์ของเราจะไปปรากฏอยู่บนอันดับแรกของผลการค้นหาได้เสมอไป แต่เป็นการทำ SEO เพื่อเป็นการขยายโอกาสให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้มองเห็นหน้าเว็บไซต์และเข้ามาเยี่ยมชมได้ง่ายมากขึ้น อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการทำ SEO นั้นจะมีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ตามมาหาคำตอบกันต่อได้จากบทความนี้เลย
วางแผนให้ดีก่อนเริ่มลงมือ
ในที่นี้หมายถึงการวางแผนและเตรียมตัวให้ดีก่อนเริ่มลงมือ อย่างไรก็ตามเมื่อไหร่ที่นักการตลาดพร้อมแล้ว ในลำดับถัดมาคือการกำหนดแผนการทำ SEO ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์ ผ่านคำสำคัญหรือ Keyword ที่วางเอาไว้ ซึ่งการวางแผนเพื่อทำ SEO นี้จะช่วยให้นักการตลาดสามารถทราบได้เป็นอย่างดีว่าควรทำอะไรเพิ่มเติมหรือปรับปรุงแผนการทำ SEO อย่างไรบ้าง เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประเมินหน้าเว็บไซต์โดยพื้นฐาน
แน่นอนว่าการทำ SEO นั้นคือการวางแผนเพื่อโปรโมทหน้าเว็บไซต์ให้ไปปรากฎบนหน้าการค้นหาหรือ Search Engine โดยใช้หน้าเว็บไซต์เป็นตัวแปรสำคัญ อย่างไรก็ตามหนึ่งในขั้นตอนการวางแผนหรือเตรียมตัวก่อนเริ่มลงมือเพื่อทำ Search Engine Optimization นั้นแนะนำว่าให้นักการตลาดรู้จักเข้าไปวิเคราะห์เว็บไซต์ในขั้นพื้นฐานเสียก่อน เพื่อให้รับทราบปัญหาหรือข้อบกพร่องที่อาจจะมีอยู่ ณ ตอนนั้น ยกตัวอย่างเช่น ความช้าหรือเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์, โครงสร้างหรือการจัดระเบียบบนหน้าเว็บไซต์, การเข้าถึงหน้าเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ฯลฯ
ใช้ตัวช่วยเพื่อตรวจจับ Analytics
อาจจะกล่าวได้ว่า SEO นั้นคือเครื่องมือทางการตลาดประเภทหนึ่ง แต่การโปรโมทแบรนด์หรือหน้าเว็บไซต์ดังกล่าวจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เลยถ้าหากนักการตลาดไม่หยิบเอาตัวช่วยประเภทที่จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ Analytics ต่างๆ ในที่นี้ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ Google Analytics ที่จะเข้ามาช่วยให้นักการตลาดสามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ อีกทั้งการใช้ Analytics เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวย่อมมีส่วนช่วยให้นักการตลาดสามารถปรับปรุงแผนการทำ SEO ให้ดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
ในท้ายที่สุดนี้จะเห็นได้ว่าการทำ SEO นั้นเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีหลักการทำงานค่อนข้างละเอียดและซับซ้อน ดังนั้นการมีความรู้และทักษะในการวิเคราะห์และปรับปรุงเว็บไซต์คือสิ่งจำเป็น ประกอบควบคู่ไปกับการวางแผนและเตรียมตัวให้ดี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของเราจะนำมาซึ่งผลลัพธ์และประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม จนสามารถแปรเปลี่ยนไปเป็นยอดขายได้ในอนาคต