เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(14 ธ.ค.) ทางดาราสาว แหม่ม วิชุดา ได้หอบหลักฐานเข้าไปที่กรมปศุสัตว์ ถ.พญาไท เพื่อเคลียร์กับเพื่อนบ้านกรณีแย่งน้องหมาที่ป่วยมาดูแล โดยสาวแหม่มเผยเจอสุนัขตัวนึงในหมู่บ้านถูกปล่อยปละละเลย และป่วยรุนแรง เข้าข่ายทารุณสัตว์ จึงยื่นมือเข้าไปช่วยพาไปรักษา แต่ทั้งนี้สุนัขตัวนี้มีเจ้าของและเคลียร์กันไม่ลงตัว ด้านคู่กรณีซัดกลับดาราสาวสร้างภาพ อยากดัง โดยสาวแหม่ม ได้เปิดเผยกับสื่อมาว่า
”น้องหมาอยู่ในหมู่บ้าน เป็นหมามีเจ้าของแต่การใช้ชีวิตของน้องเหมือนหมาไม่มีเจ้าของ ใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ ที่ผ่านมาเคยไปคุยกับคนที่คอยให้ข้าวให้น้ำน้องหมาซึ่งไม่ใช่เจ้าของและได้ให้เงินจำนวนหนึ่งไปเพื่อซื้ออาหารมาให้น้องหมา เท่าที่รู้มาน้องหมาเคยเกือบโดนรถชนหลายครั้งแล้ว เพราะทางค่อยข้างมืด เราศึกษาข้อกฎหมายมาบ้างดูแล้วว่าเจ้าของเขาไม่พร้อมจะดูแล”
“วันนั้นไปเล่นกับเขาแล้วไปจับที่ตัวปรากฎว่าเขาร้องเราเลยพาไปตรวจสุขภาพ ผลออกมาคือติดเชื้อขั้นรุนแรงที่หู 2 ข้าง ตามร่างกายติดเชื้อปานกลางถึงรุนแรง ช่องคลอดติดเชื้อ มดลูกโตและมีน้ำขังข้างใน มันต้องรักษาถ้าปล่อยถึงไว้มันจะทำให้ถึงชีวิต เราไม่ได้คิดอะไรเห็นเขาป่วยก็พามารักษาเฉยๆ เราก็ได้ฝากเบอร์ทิ้งไว้ที่ รปภ. ให้เจ้าของว่าเราเป็นคนพามาหาหมอ แรกๆ ที่คุยกับเจ้าของก็ไม่มีปัญหาอะไร คุยกันดีว่าเราเป็นคนพาน้องหมามารักษานะ ก็ถามเขาเหมือนกันว่าถ้าเขาดูแลไม่ไหวเดี๋ยวเราช่วยดูแลให้ แต่ว่าเขาไม่ให้ก็เลยคุยกับเขาเรื่องข้อกฎหมายว่าการดูแลสุนัขแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ พอเข้าเรื่องข้อกฎหมายมันเลยเกิดการคุยกันไม่รู้เรื่อง เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยต้องมาจบที่นี่”
”คือเราเห็นสภาพน้องหมามา ทำให้เราเห็นว่าเจ้าของปล่อยปละละเลย ซึ่งคนในหมู่บ้านเห็นพฤติกรรมแบบนี้มาตลอด ตอนแรกที่เราคุยกันกับเขาคิดว่าน่าจะคุยกันได้ พอเคลียร์กันไม่ได้ถ้าเรื่องถึงกฎหมายเดี๋ยวเขาจะถูกดำเนินคดีนะ เขาบอกให้เบอร์กับเจ้าหน้าที่ไปเลย เราก็เลยให้ไป พอหลังจากคุยกับเจ้าหน้าที่เสร็จเขาก็บุกไปที่โรงพยาบาลจะไปเอาหมา แต่ว่ารับไม่ได้นะคะ เพราะเราเป็นเจ้าของเคส เขาโมโหมาก เราสงสัยว่าทำไมต้องโมโหขนาดนั้นด้วย เพราะว่าเราไม่เคยพูดอะไรกับเขาไม่ดีเลย ทำทุกอย่างตามขั้นตอน ตอนนี้หมาก็ยังไม่ได้ออกมาก็รอให้เขามาคุยกันที่นี่ เขาบอกว่าจะไปแจ้งความว่าเราขโมยหมาเขา ซึ่งไม่ได้ขโมยเรามีการพูดคุยกันว่าเรารับมาดูรักษา เราให้เบอร์โทร ที่อยู่เราแจ้งปศุสัตว์ แล้วทุกอย่างเราไม่ได้แอบทำ เราทำตามขั้นตอนทุกอย่างค่ะ”
”หลังจากพูดคุยกันคุณหมอก็มีความเห็นว่าจะให้โอกาสเจ้าของนำสุนัขกลับไปดูแลอย่างถูกต้อง และจะมีการเข้าไปตรวจสอบว่าหลังจากกลับไปแล้วหมาหายป่วยมั้ย การเลี้ยงดูดีขึ้นมั้ย ถ้าไปดูแล้วไม่ดีขึ้นหรือว่าไม่มีการปรับปรุงก็ต้องไปรับน้องหมาออกมาจากเจ้าของเพื่อหาที่ดูแลที่พร้อมต่อไป”
”วันนี้อย่างน้อยเจ้าของหมาตัวนี้ก็ได้เรียนรู้ว่าเขาต้องไปปรับปรุงการเลี้ยงดูแบบไหน เราก็ให้โอกาสกันได้ แต่ว่าเราต้องรอดูแล้วกันว่าการปรับปรุงของเขามันจะดีขึ้นแค่ไหน เขาแค่บอกว่าหมามันหลุดออกมาเฉยๆ เขาไม่ได้ยอมรับว่าหมาเขาออกมาใช้ชีวิตข้างนอก เราทำหน้าที่ได้ดีที่สุดเท่านี้ ถ้ามากกว่านั้นคงต้องให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตรวจสอบเข้าไปตรวจสอบ วันนี้มาถึงที่นี่ยกให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่จะดำเนินการยังไง หลังจากนี้ก็ดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ บอกตรงๆ ก็ลำบากใจ เพราะการพูดคุยกันมันไม่ดี คือทางเจ้าของหมาตัวนี้อาจจะไม่ทราบว่าแหม่มช่วยเหลือสัตว์มาเป็น 100 ตัวแล้ว ตัวนี้ไม่ใช่ตัวที่เห็นแล้วอยากได้เหลือเกิน แต่แหม่มเห็นแล้วรับสภาพที่หมาเป็นอยู่ไม่ได้จริงๆ ถึงยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ความที่เขามองเราถึงเจตนาที่ไม่ดี เขาจะมองเราสร้างภาพ อยากดัง ตามประสา เมื่อกี้ก็ถูกเขาว่าแหม่มอยากดังหรือสร้างภาพ แต่ไม่เป็นไรตรงนี้แล้วแต่คนฟังหรือคนดูคิดทำไมต้องมาทำตรงนี้”
ด้านคู่กรณี หลังจากเคลียร์กับดาราสาว แหม่ม วิชุดา ไปแล้ว ก็ได้เปิดใจมาดังนี้ “เราไม่อยากทำให้คุณแหม่มเสียหายขอไม่พูดได้มั้ยคะ เพราะว่าความจริงอยู่ที่ตัวคุณแหม่มเองว่าเขาทำแบบนี้เพื่อต้องการอะไร น้องหมามีเจ้าของไม่ใช่อยู่ๆ จะไปจับแล้วมาบอกว่าคนอื่นทารุณสัตว์มันไม่ใช่เรายืนยันว่าเลี้ยงดูแลหมาอย่างดี เพราะถ้าเลี้ยงไม่ดีคุณหมอทางปศุสัตว์จะให้มาคืนเหรอคะ ล่าสุดคือหนูจะไปรับน้องหมากลับ เพราะว่ามันเป็นหมาเรา เรามีหลักฐานทุกอย่าง ส่วนสาเหตุที่น้องหมาออกมาอยู่ข้างนอกบ้านหมาตัวเล็กและอยู่ในช่วงวัยซนมันก็ต้องมีมุดเข้ามุดออกได้ บางทีเขาอาจจะไปเจอตอนมันไม่สบาย เขาก็ต้องแจ้งเราก่อน แต่เราไม่รู้เลยว่าเขาเอาหมาเรามา รปภ. มาบอกเราว่ามีคุณแหม่มเอาไปนะ เราก็บอกไม่เป็นไรถ้าเขาเอาไปหาหมอ เดี๋ยวเราเสร็จธุระเราจะไปรับน้องหมาเราคืน พอเราติดต่อไปแล้วเหมือนเขาอยากดูแลหมามีเจ้าของจะเอาไปดูแลได้ยังไง ส่วนตอนแรกที่ฝั่งนั้นบอกว่ามีการพูดคุยกันดี ก็เพราะว่าเขาจะเอาหมาคืนเรา พอคุยไปคุยมาเขาจะไม่คืนแล้วจะดูแลเองเราก็ไม่ยอม วันนี้ตกลงกันแล้วว่าเราจะไปเอาหมาคืน เราไม่ได้มีอะไรกับเขา ไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ เรื่องค่าใช้จ่ายเราออกเองไม่เคยให้เขาออกค่าใช้จ่ายให้ เพราะหมาเรา หมาเราก็ต้องดูแลเอง ส่วนเรื่องไปแจ้งความว่าเขาเอาหมาเรามาไปแจ้งมาแล้ว แต่ก็ต้องดูพฤติกรรมเขาก่อนถ้าเขาหยุดราวีเราก็จะถอนฟ้องค่ะ”