รายการ เรื่องลับมาก (UNCENCER) โดย ดร. บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ออกอากาศทางช่องเนชั่น ทีวี ช่อง 22 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ ดร.เซปิง ไชยศาส์น ซึ่งมาพร้อม สุรชัย สมบัติเจริญ โต้กลับทุกข้อกล่าวหาศัลยกรรมหน้าผี โดย ดร. เซปิงเผยว่าผ่านมา 5 เดือนเสียหายกว่า 100 ล้าน พร้อมงัดหลักฐานเด็ดซัดกลับคู่กรณี เชื่อไม่อยากจ่ายหนี้ จึงรวมตัวกันหวังทำลายชื่อเสียง ก่อนเผยเหตุผลทำไมต้องฟ้องร้องรายการดัง
ถามพี่สุรชัย การมาตรงนี้ ทำศัลยกรรมหน้าต่างๆ มากมายเพื่อให้ดูเด็กลงแต่จริงๆ เซปิงจ่าย 10 ล้านให้กู้ชื่อเสียง
สุรชัย : ถ้าจ่าย 10 ล้านคงต้องทำทุกอาทิตย์ (หัวเราะ) สลึงนึงก็ไม่มี นอกจากได้รับคำแนะนำที่ดี จากดร.เซปิง
ดร.เซปิงทำให้ฟรี
สุรชัย : เสียตังค์ครับ แต่ว่าอาจเป็นกรณีพิเศษ ผมไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้น้องดร.เซปิงและไม่เคยชักชวนใครให้มาเป็นเหยื่อ ดังที่เมื่อกี้บอกดึงกระแสมา ชักชวนให้ใครต่อใครมาเป็นเหยื่อ ไม่เคยที่จะแนะนำสักคนเดียว แม้แต่ญาติพี่น้องเพื่อนฝูง คนรู้จักหรือไม่รู้จัก มีคนมาถามเยอะ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ทำแล้วเจ็บไหม ก็บอกให้ไปถามกันเอาเอง ผมไม่เกี่ยวเลย ที่ผมได้ออกมาตรงนี้ เนื่องจากผมดูข่าวสารต่างๆ ผมเห็นว่ามันไม่เป็นธรรม สงสารและเห็นใจน้องเขา อยากให้เขาได้มีโอกาสพูดบ้าง บางทีสังคมก็รับข่าวสารฝั่งเดียว ข้างเดียว
กล้าพูดความจริงต่อหน้าพระไหม
สุรชัย : แน่นอนครับ กล้าพูดได้เลยว่าผมไม่ได้รับอะไรจากดร.เซปิงแม้แต่สลึงเดียว แต่ด้วยความที่ปรึกษา เขาให้คำปรึกษามาตลอด
คนพูดถึงคุณ จะพูดว่าศัลยกรรมหลายรอบ เสพติดศัลยกรรมจริงหรือไม่
สุรชัย : เสพติดหมายความว่าเราต้องทำทุกเดือน นี่ 3 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ผมเจอคุณบุ๋มปี 59 นี่ 62 ก็ได้กลับมาทำอีก ก็ต้องมีการดูแล คำว่าเสพติดเป็นอะไรที่ต้องทำตลอด ทุกอาทิตย์ ทุกเดือน ทุกปี นี่มัน 3 ปีกว่าแล้ว ผมว่าผมไม่ได้เสพติด ผมเสพสุขมากกว่า ถ้าทำระดับนี้ ทุกคนก็ต้องดูแล ผู้หญิงดูแลมากว่าผมอีก ผมเป็นผู้ชายก็อยากดูแลให้ดูดี ไม่อยากตกรุ่น อะไรทำได้ และให้ของขวัญกับชีวิต ไม่น่าเป็นเรื่องทำให้คนอื่นทุกข์ใจ
รอบนี้รอบที่สอง
สุรชัย : กำลังจะทำรอบที่สาม
ทำไมต้องมีรอบที่สาม
สุรชัย : ไม่เห็นเป็นไรเลย เรายังกินข้าวได้ทุกวัน ยังไปเที่ยวเมืองนอกหลายครั้ง อยากทำความสุขให้ตัวเอง เป็นเรื่องเรา สตางค์เรา ไม่ได้เดือดร้อนใคร
สองครั้งที่ผ่านมายังไม่พอใจ
สุรชัย : ก็อาจมีการทำเพิ่มให้ดูดี ทุกอย่างก็อาจมีการย่อยสลายไป ก็ดูว่ายุบลงไปก็เสริมโหนกขึ้นมาให้ดูอิ่่ม ผิวหนังจะได้ดูดี เต่งตึง
ทำไมไปไหนต่อไหน ไม่กล้าถอดแว่น
สุรชัย : ถอดได้ไม่เห็นเป็นไร แต่ผมไปผ่าตัดต้อมา ผมอยู่กับไฟมา 30-40 ปี ตาผมแทบจะน้ำตาไหลตลอดเวลา
ไม่ได้ศัลยกรรมจนหน้าเละจนต้องใส่แว่น
สุรชัย : ไม่ได้เหมือนคนที่เขากล่าวอ้างว่าทำแล้วเป็นผี ถ้าเป็นผีจะมาหาดร.เซปิงทำไม ไม่ใช่ผมคนเดียว ศิลปินคนอื่นก็ใส่แว่นทุกคน เพราะทนกับแสนไฟไม่ไหว
ดร.เซปิง ให้สุรชัยกู้ชื่อเสียงให้คุณหรือเปล่า
เซปิง : ไม่จริงเลยค่ะ ชื่อเสียงที่เสียไป มีความจริงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาคุณสุรชัยมากู้ชื่อเสียงค่ะ แต่เราเอาความจริงมาให้คนได้ทราบ นั่นคือกู้ชื่อเสียงด้วยความจริงค่ะ
คุณทำให้เขาเสียหายหน้ากลายเป็นผี สามีบอกเลิก กลัวกระจก จะบอกกรณีนี้ยังไง
เซปิง : มีหลักฐานหมดเลยค่ะ จริงๆ ใบหน้าเสียหายจากการที่เขาทำศัลยกรรมจากที่อื่น แล้วฉีดสารจากที่อื่น แล้วไปแก้ไขที่รพ.จริง แล้วไม่สามารถแก้ไขได้ เราได้มีเทปบันทึกเอาไว้หมดทุกอย่างก่อนทำการเฟซออฟ
หน้าพังก่อนมาเจอคุณ
เซปิง : แน่นอนค่ะ เรามีคลิปเปิดเผยความจริงให้ประชาชนได้ทราบแล้ว คนได้เห็นไปหลายล้านคนแล้วค่ะ
การที่ตร.บุกจับที่คลินิกศัลยกรรมเป็นคลินิกเถื่อน หลอกคนทำศัลยกรรมจริงหรือไม่
เซปิง : ไม่จริงค่ะ ที่นั่นเป็นโครงการเฟซออฟค่ะ ไม่ใช่สถานพยาบาล ที่นั่นไม่ใช่ที่ผ่าตัดค่ะ เป็นการกล่าวหา เป็นที่ที่ผู้ร่วมโครงการต้องเซ็นเอกสาร ถ่ายรูป ถ่ายคลิปสัมภาษณ์ พูดถึงปัญหาเขาว่าทำไมต้องมาพึ่งโครงการของเรา แค่นั้นเองค่ะ
เขาทำทำไม ทำลายชื่อเสียง หรือเรียกร้องเงิน
เซปิง : เดิมทีจริงๆ กลุ่มคนเล็กๆ กลุ่มนี้เป็นหนี้โครงการ มาทำแล้วไม่มีเงินจ่าย อยากทำเพิ่มหลายรายการแล้วไม่มีเงินจ่าย ดิฉันสงสารก็ช่วยไปให้เขาผ่าตัดสมใจไป เราเห็นหลักฐานในไลน์กลุ่ม เขารวมตัวกัน และตั้งไลน์กลุ่มขึ้นมาและพูดในไลน์กลุ่มว่าจะไม่จ่ายหนี้เรา มีคนอยู่ในกลุ่มทนไม่ได้ก็เลยถอยออกมา และเอาข้อมูลมาให้เรา เราถึงเห็นว่ามีการด่าเรา นัดกันทำร้ายเรา ทำลายชื่อเสียงเรา ทีมทนายเลยบอกว่าเราต้องแจ้งความเขาหมิ่่นประมาทเรา
ไม่ใช่คุณทำหน้าเขาพังเขาเลยไม่จ่าย
เซปิง : ไม่ใช่ค่ะ มีคลิปให้ดูแล้วค่ะ ก่อนทำเขามีปัญหา เขาบอกเขาหน้าผีตั้งแต่ก่อนผ่าตัดเฟซออฟ หลักฐานมีชัดเจนค่ะ
เขาเรียกร้องคุณ 100 กว่าล้าน
เซปิง : สองท่านฟ้องเราคดีอาญาว่าเราฉ้อโกงประชาชน คดีนึงศาลไม่รับฟ้อง ไม่เข้าข่ายฉ้อโกงเลย อีกคดีไต่สวนมูลฟ้องไปแล้ว ศาลยกฟ้องค่ะ เขาจึงไปออกรายการนึงแล้วไปแจ้งความ แล้วสิ่งนั้นไม่เป็นความจริง
คุณฟ้องรายการนึง ทำทำไม
เซปิง : รายการนั้นบอกเป็นเวทีกลาง เป็นสื่อกลาง สื่อกลางก็ต้องเปิดโอกาสให้สองฝ่ายออกมาพูด และให้ประชาชนตัดสินว่าใครพูดความจริง
คุณก็ขอออกรายการเอง
เซปิง : ขอค่ะ เรียกว่าขอร้องเลยก็ได้ค่ะ
เขาไม่ให้ออกเหรอ
เซปิง : ค่ะ ไม่ได้รับโอกาสเลยค่ะ
เขาตอบว่ายังไง
เซปิง : เขาตอบว่าเราไม่มีกระแส
คุณเลยฟ้องรายการนั้น 1 วันก่อนหมดอายุความ
เซปิง : หลังจากเขาปฏิเสธหลายครั้งที่เราขอไป เราจึงตัดสินใจนาทีสุดท้ายจริงๆ เราใช้เวลาเขียนคำฟ้องไม่กี่ชม. เราไม่คิดว่าเราจะต้องฟ้องเขาด้วยนะคะ ถ้าเราได้พูดในรายการตามคำเชิญเขาที่บอกว่าเป็นเวทีกลาง
นี่คือความจริง
เซปิง : จริงมากค่ะ มีหลักฐานด้วยค่ะ
คิดว่ามีเหตุผลใดที่เขาจะฟังความฝ่ายโน้นฝ่ายเดียวไม่เอาฝั่งคุณบ้าง
เซปิง : คิดไม่ออกจริงๆ ค่ะ
หลายคนบอกว่าคุณใช้ดร.ให้หลายคนเข้าใจผิด ว่าคุณป็นหมอด้านศัลยกรรมและมาทำศัลยกรรมกับคุณ คุณใช้คำว่า ดร.หลอกลวงคนอื่น
เซปิง : ดิฉันจบปริญญาเอกเหมือนดร.บุ๋มค่ะ มีสิทธิ์ใช้คำว่าดร.ได้ค่ะ เราชัดเจนมาตั้งแต่แรก คุณวู้ดดี้เคยสัมภาษณ์ว่าเป็นหมอเหรอ ก็บอกในรายการว่าไม่ใช่ค่ะ จบปริญญาเอกมา ไม่ใช่หลอกลวงแน่นอน
เอาหมอที่ไหนมาผ่าตัด
เซปิง : หมอที่จบศัลยแพทย์เฉพาะทาง โครงการเราต้องการส่งเสริมศัลยแพทย์ที่เป็นคนไทย มีฝีมือไม่แพ้ชาติใดในโลก
ผ่าตัดรพ.ไหน
เซปิง : รพ.ในเมืองไทยค่ะ
ทำไมไม่สามารถบอกได้
เซปิง : การบอกก็เท่ากับโปรโมตให้โรงพยาบาลเขาสิคะในเมื่อโครงการเราไมได้โปรโมตให้โรงพยาบาลใดๆ เราโปรโมตให้โครงการของเรา เพื่อให้คนไทยทำศัลยกรรมอย่างปลอดภัย ไม่ต้องบินไปทำต่างประเทศ ไม่ต้องเอาเงินไปนอกประเทศ
ทำไมไม่พูดชื่อหรือแนะนำตัวคุณหมอว่าคนไหนมีฝีมือ
เซปิง : อาจารย์หมอมีหลายท่านอยู่ในหลายรพ.ค่ะ มั่นใจในความปลอดภัยได้แน่นอน เพราะสถานพยาบาลที่เราแนะนำไป ได้รับการรับรองจากอเมริกา แค่นั้นก็จบแล้วค่ะ ถ้าผู้เข้าร่วมโครงการติดต่อเข้ามาเราบอกค่ะ แต่ถ้าออกทีวีไม่บอกค่ะ
ถ้าจ่ายเงินให้คุณ คุณจะพาไปไหนก็ได้เหรอ
เซปิง : ต้องดูว่าดร.บุ๋มมีปัญหา เหมาะกับศัลยแพทย์ท่านใด
ทำไมดูลึกลับ ที่อื่นเปิดเผยกันหมด
เซปิง : ไม่ลึกลับเลยค่ะ ไปดูคลิปของเราสิคะ เราก็เปิดเผยห้องผ่าตัด รพ.ก็เห็นภาพบรรยากาศนะคะ ดูทางช่องทางยูทูป เฟซบุ๊ก เพจของเราค่ะ ข้อมูลเห็นหมดเลยค่ะ
เมื่อคุณโดนฝั่งโน้นฟ้อง คุณเตรียมฟ้องกลับมั้ย
เซปิง : เดิมทีไม่เคยคิดอยากฟ้องใครเลย ถ้าไม่ออกมาทำลายชื่อเสียงเรา เราจะหลอกคนจริงๆ ไม่หลอกแค่นี้หรอกค่ะ ทำไมต้องหลอกแค่ 7-8 คน ไม่รวยหรอกค่ะ ถ้าจะะหลอก หลอกไปเลยค่ะพันคน เห็นบอกว่าเหยื่อ ก็มีแค่ 7-8 คนนี้นี่แหละค่ะ
ตร.บุกจับข้อหาอะไร
เซปิง : ฉ้อโกงประชาชนโดยไม่มีหมายเรียกมาก่อนเลย แปลกใจมากเหมือนกันค่ะ ทำไมไม่มีหมายเรียกมาก่อน
สุรชัย หลายคนมองว่าคุณคือผู้ร่วมขบวนการหลอกลวงประชาชน
สุรชัย : เสียใจ เราไม่มีโอกาสออกมาพูด ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น พอมาเห็นอะไรต่างๆ นานา มันไม่ยุติธรรม กับการที่เจ้าหน้าที่รัฐบุกจับ 30-40 คน เขาไม่ได้เป็นอาชญากร ไม่ได้ค้ายาเสพติด ไม่ได้ฆ่าคนตาย ถ้าคนเราคิดว่าจะต้องบุกจับอย่างนั้น ก็ดูไม่ยุติธรรม
จะบอกว่า ณ วันนี้ยังมั่นใจ
สุรชัย : มั่นใจครับ ถ้าไม่มั่นใจ ผมจะไปทำทำไมครั้งสองครั้งสาม
คุณมีหลักฐานเด็ดสู้อีกฝ่ายคืออะไร
เซปิง : คลิปค่ะ ไม่ต้องดูภาพนิ่งเลยค่ะ คนเราต้องดูภาพก่อนผ่าตัด ซึ่งอยู่บนใบหน้าเขาอยู่แล้ว คำพูดต่างๆ ปัญหาที่เขาเจอมา บอกว่าเป็นหน้าผีมาก่อน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
คนอื่นๆ ที่ฟ้อง
เซปิง : ทั้ง 8 คนเรามีหลักฐานหมดค่ะ วันนี้เรามีคลิปความจริงให้ประชาชนได้เห็นกันแล้ว ตอนนี้คนได้ดูแล้วเกือบสิบล้านคนค่ะ
จะฟ้องเขายังไง
เซปิง : หลังจากอัยการสั่งฟ้อง เมื่อถึงที่สุดเราจำเป็นต้องดำเนินคดีกับทุกคน เพราะเราเสียหายหนักมากค่ะ
คุณเสียหาย 100 ล้านจากอะไร
เซปิง : ชื่อเสียงวัดไม่ได้เลยนะคะ เศรษฐีร้อยล้านก็วัดไม่ได้ ที่เราสร้างความดีมา เราช่วยคนมา โครงการเราให้โอกาสคน ให้ความรู้คน เป็นเกราะคุ้มกันไม่ให้คนตกเป็นเหยื่อศัลยกรรม
คุณก็ได้ตังค์
เซปิง : ตรงนี้เราวางแผนเอาไว้ เราต้องการสร้างฐานชื่อเสียงของเรา เราเดินทางมาเกือบสี่ปี แล้วเราถูกทำลายตรงนี้ เป็นดร.บุ๋มจะรับได้ไหม ถ้าไม่เป็นความจริงเราคงไม่กล้าออกมายืนแบบนี้ คุณสุรชัยคงไม่กล้ามาผ่าตัดอีกเป็นครั้งที่สอง
ได้พูดคุยกับผู้เสียหายแต่ละคนไหม
เซปิง : ก็ใบหน้าเขาไม่ได้เสียหายนี่คะ มีอะไรเสียหายบ้างคะ ถ้ามีก็กลับมาคุยกันค่ะ แต่ในกลุ่มกลับบอกว่าไม่จ่ายหนี้และด่าเรา บอกว่าจะทำลายชื่อเสียงเรา
จะจ่ายตังค์ให้เงียบไปไหม
เซปิง : ถ้าทำแบบนั้นแสดงว่าเราทำผิด เราเอาเงินปิดปากเขาสิคะ
เขาฟ้องคุณทำไม
เซปิง : ไม่รู้เหมือนกัน รู้อย่างเดียวเขาเป็นหนี้เรา ตั้งไลน์กลุ่มมาด่ากัน ตั้งใจทำลายเรา แต่มี
หลักฐานมีคนอยู่เบื้องหลัง มีหลักฐานอยู่ในไลน์
กลุ่ม มีชื่อด้วยค่ะ ว่าหมอคนนี้ชื่ออะไร
ดร.เซปิงเอาเอกสารมาปึ้งใหญ่ ฟ้องกลับผู้อ้างตัวเองว่าเป็นผู้เสียหาย ศาลยกฟ้อง
เซปิง : เราไม่ได้มีความผิดเรื่องฉ้อโกงประชาชนใดๆ เลยค่ะ
มีแชตไลน์กลุ่มนึงที่เขาด่าคุณ
เซปิง : ด่าอย่างเดียวไม่เป็นไร รับได้ ให้อภัยได้ แต่บอกว่าจะออกมาทำลายชื่อเสียง ไม่จ่ายหนี้เรา รวมตัวกันออกสื่อทำลายชื่อเสียงเรา จำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่ปนระมาท
คุณทุ่มเงินจ้างหนึ่งในผู้เสียหายจนเขายอมถ่ายคลิปให้คุณ
เซปิง : ไม่เป็นความจริงค่ะ กระแสไหนที่บอกต้องมีหลักฐานนะคะ
คุณไม่ได้ซื้อตัวเขา จนเขาอออกมาบอกว่าเขาไม่ใช่ผู้เสียหาย
เซปิง : ไม่ใช่ค่ะ ไม่เคยได้คุยกันเลยค่ะ
คู่กรณีสามารถมาเปิดเผยสู้กันได้
เซปิง : ควรออกมาค่ะ อยากให้มามากๆ มาเถอะค่ะ อยากให้ออกมามากๆ อยากรู้ว่าอยู่ไหน ประชาชนอยากรู้ว่าสิ่งที่พี่พูดเอาไว้ก่อนผ่าตัดกับเฟซออฟ มันตรงข้ามกัน
คุณท้าทายให้เขามา
เซปิง : เรียนเชิญค่ะ กราบขอร้องก็ได้ค่ะ
ทำไมพี่สุรชัยถึงยังมั่นใจ ทั้งที่มีข่าว มีตร.บุกจับ
สุรชัย : มันไม่ได้มีความเป็นจริง ผมก็ไม่ได้มีความรู้ว่าเราทำตาตรงไหน เย็บตรงไหน เป็นแผลเจ็บไหม ก็ต้องถามคนที่เขารู้ ผมรู้จักดร.เซปิง เหมือนเป็นเพื่อนลูกสาว น้องดร. จะให้คำแนะนำและเอาตัวอย่างให้เราดู ที่ทำไปแล้ว
ข่าวที่ออกมามีผู้เสียหายพยายามฟ้องร้อง ไม่ได้ทำให้สุรชัยแผ่ว
สุรชัย : จะแผ่วได้ยังไงในเมื่อเราเห็นข้อเท็จจริงบีฟอร์อาฟเตอร์ ทำไมสังคมกล้าพูดกันอย่าง
นี้เลยเหรอ ทำไมไม่กลัว
เซปิง : หน้าเสียหายตรงไหน
เห็นคอมเมนต์ที่เขาด่าคุณไหม
เซปิง : เห็นค่ะ คนเหล่านั้นกลับมาขอโทษเยอะมากแล้วค่ะ ที่เข้าใจดร.เซปิงผิดไป
เขาบอกมีเป็นร้อยเคสที่หน้าพังแล้วไม่บอก
เซปิง : มีเป็นร้อยทำไมไม่ออกมาล่ะคะ คนพูดว่ามีเป็นร้อยก็ต้องพาออกมาสิคะ