ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ แมทธิว ดีน

“ลีเดีย-แมทธิว” เปิดตัวเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ “ไครโอวิวา” เก็บสเต็มเซลล์ลูก 3 คน เพิ่มโอกาสในการรักษาสุขภาพคนในครอบครัว

Home / ข่าวและกิจกรรมดารา / “ลีเดีย-แมทธิว” เปิดตัวเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ “ไครโอวิวา” เก็บสเต็มเซลล์ลูก 3 คน เพิ่มโอกาสในการรักษาสุขภาพคนในครอบครัว

บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด ธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์มาตรฐานระดับโลก เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ ครอบครัวคุณลิเดีย คุณแมทธิว พร้อม คุณตาไชยยันต์ และ คุณยายศันสนีย์ กระตุ้นให้ทุกครอบครัวใส่ใจการดูแลสุขภาพด้วยนวัตกรรมสเต็มเซลล์ประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข

ถือเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์และอบอุ่นมากๆ สำหรับครอบครัวของนักร้องเสียงดี “คุณลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ ดีน” และพิธีกรมากฝีมือ “คุณแมทธิว ดีน” ที่ตอนนี้มีทายาท 3 คนแล้ว คือ “น้องดีแลน-น้องเดมี่-น้องดีออน” ซึ่งกำลังอยู่ในวัยน่ารัก ทำให้คุณแม่ลีเดียและคุณพ่อแมทธิวต้องดูแลใส่ใจสมาชิกในบ้านในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพที่เป็นเรื่องสำคัญจึงต้องวางแผนอนาคตให้รอบคอบ

โดย “ลีเดีย-แมทธิว” ได้ตัดสินใจเก็บสเต็มเซลล์ของลูกทั้ง 3 คนตั้งแต่แรกเกิดกับ “ไครโอวิวา” ซึ่งเป็นธนาคารจัดสเต็มเซลล์ที่ได้การรับรองมาตรฐานในระดับโลก หากวันใดที่ลูกๆ หรือคนในครอบครัว มีความจำเป็นต้องใช้สเต็มเซลล์เพื่อรักษาโรคและฟื้นฟูดูแลร่างกายก็สามารถนำไปใช้ได้เลย เป็นการเพิ่มโอกาสในการรักษาสุขภาพคนในครอบครัวได้มากขึ้น ซึ่งล่าสุดลีเดียได้นำ สเต็มเซลล์ของ “น้องดีแลน” ไปฟื้นฟูสุขภาพของคุณพ่อไชยยันต์ วิสุทธิธาดา แล้วเรียบร้อย เป็นความอุ่นใจที่ได้วางแผนเรื่องการดูแลสุขภาพไว้แต่เนิ่นๆ

คุณลีเดียและคุณแมทธิว เผยว่า  “ที่ตัดสินใจเลือกเก็บสเต็มเซลล์เพราะเลือกไว้สำหรับลูก การเก็บสเต็มเซลล์เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่รุ่นคุณพ่อคุณแม่เดียอาจจะไม่มี เราก็ควรจะมีไว้ก่อน เราไม่รู้หรอกว่าเทคโนโลยีจะพาเราไปถึงจุดไหน แต่ถ้าเราเก็บสเต็มเซลล์ไว้ก่อนเราก็ยังมีโอกาสนั้น ที่จะเอาไปใช้กับเทคโนโลยีที่มันจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าได้ มองว่ามันคุ้มกับการลงทุน มันคุ้มกับการที่เราเก็บโอกาสนี้ไว้ให้ตัวเราเอง ลูกของเรา และคนในครอบครัว”

“สเต็มเซลล์สามารถใช้รักษาโรคสำหรับตัวลูกน้อยได้มากกว่า 85 โรค ง่ายนิดเดียวแค่เอาสายสะดือของลูกเก็บรักษาไว้อย่างดีกับองค์กรที่เรามั่นใจในกระบวนการ และนอกจากการนำไปรักษาลูกหากวันหนึ่งเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้ มันพิเศษได้มากกว่านั้นคือเราสามารถนำสเต็มเซลล์บางประเภทมาใช้ดูแลตัวเองได้ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ก็สามารถนำมาใช้ได้เหมือนกัน เลยรู้สึกว่าเก็บไว้ไม่เสียหายแน่นอน”

“สเต็มเซลล์ของดีแลนได้มีการเอามาใช้บ้างแล้วกับพ่อของเดีย ใช้ฉีดรักษาสุขภาพไปเรียบร้อยแล้ว แล้วกำลังจะเบิกของ เดมี่มาเพิ่มเติมเร็วๆ นี้ รู้สึกดีมากๆ ที่ได้วางแผนเก็บสเต็มเซลล์ไว้ในการดูแลสุขภาพของปู่ ย่า ตา ยาย เป็นสิ่งที่เราอยากจะทำเพื่อคนในครอบครัว ถือเป็นของขวัญชิ้นหนึ่งที่เรายังไม่ต้องแกะก็ได้ เหมือนเรามีสำรองไว้ในอนาคต อย่างของดีแลนเรารู้สึกเสียดายที่ทำไมเราเก็บไว้น้อย เพราะพออากงเอามาใช้ก็คือหมดสต๊อกแล้ว เลยรู้สึกว่าเราน่าจะเก็บของขวัญไว้เยอะๆ เราจะได้มีแกะไปเรื่อยๆ”

“ตอนท้องดีแลนเราเก็บเป็น MSC สามารถใช้กับทุกคนในครอบครัวเลย พอมาถึงเดมี่จะมีเทคโนโลยีเพิ่มเติม เก็บสเต็มเซลล์จากไขมันของตัวเดียเอง เราก็จะได้สเต็มเซลล์จากตัวเราเองมาใช้กับตัวเราได้ พอมาท้องดีออนก็มีเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นมาอีกก็คือสกัดโกรทฮอร์โมน ซึ่งอันนี้สำคัญมาก เวลาผ่านไป อายุมากขึ้น ความเหี่ยวมันก็มา เราก็สามารถเอามาฉีดให้เราดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้”

“ต้องขอบคุณไครโอวิวามากๆ ที่เปิดโอกาสให้เราได้เก็บสเต็มเซลล์ ตลอด 16 ปี ก็มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เราเก็บจากท้องแรกจนถึงวันนี้ เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่มันทันสมัยมากขึ้น มีออฟชั่นในการนำมาใช้ได้หลายรูปแบบมากขึ้นด้วย ซึ่งเปรียบเสมือนกล่องของขวัญที่สุดพิเศษ ที่จะนำความยินดีมาให้ทุกครั้งที่ได้เปิดออกเพื่อใช้ดูแลสุขภาพคนในครอบครัว”

ด้าน “คุณตาไชยยันต์ วิสุทธิธาดา” คุณพ่อของคุณลีเดีย ได้เล่าถึงประสบการณ์การใช้สเต็มเซลล์ของหลานชาย “น้องดีแลน” ในการฟื้นฟูร่างกายเป็นครั้งแรกว่า… 

“ตอนนี้มีปัญหาเรื่องหัวเข่า แต่เคยได้ยินมาว่าการใช้สเต็มเซลล์รักษาหัวเข่าได้ผลดี จะได้ไม่ต้องไปเปลี่ยนหัวเข่าเหมือนคนรุ่นเก่าๆ ถ้าไม่มีสเต็มเซลล์ มันเหมือนจะขาดโอกาสการรักษา ก่อนที่จะใช้สเต็มเซลล์ ครั้งแรกลูกบอกว่าเขาได้เก็บสเต็มเซลล์จากรกของน้องดีแลนมา ก็อยากให้คุณพ่อลองใช้ดู ลองดูก็ไม่เสียหาย ซึ่งก็ต้องไปตรวจสุขภาพก่อนว่าร่างกายเราเป็นอย่างไรบ้าง จะมีผลกระทบต่อการใช้รึเปล่า ปรากฎว่าได้ ก็ลองดู สิ่งที่ได้รับมาเลยคืออันดับแรก หน้าตา ผิวพรรณ มีคนทักว่าทำไมหน้าเราอ่อนวัยขึ้น”

“ตั้งแต่ได้สเต็มเซลล์มา รู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้น มันเฟรช ต้องขอบคุณลูกๆ ที่เก็บสเต็มเซลล์จากหลานเพื่อมาใช้บำรุงรักษาผู้สูงวัยอย่างผม สำหรับคนที่อยากจะมาใช้สเต็มเซลล์ ผมคิดว่าต้องศึกษาให้ดีก่อนว่าสเต็มเซลล์มาจากไหน อย่างผมสเต็มเซลล์มาจากหลาน เราก็มั่นใจ แล้วทางไครโอวิวาเขาดูแลให้อย่างดี สเต็มเซลล์ของเรายังอยู่ในสภาพที่พร้อมจะใช้งานได้อยู่ ถ้าอายุมากเราจะรู้ว่าสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าไม่มีสเต็มเซลล์มันก็เหมือนขาดโอกาสในการรักษา การมีสเต็มเซลล์มันก็เพิ่มโอกาสในการรักษาสุขภาพของเราเอง ขอบคุณลูกๆ ที่ให้โอกาสในการดูแลรักษาสุขภาพในอนาคต”