สัตว์เลี้ยงดารา สุนัขดารา หมาก ปริญ แพ้ขนสัตว์

หมาก ปริญ แนะวิธีดูแลสุนัข ให้ห่างไกลจาก โรคซึมเศร้า

Home / Lifestyle, สัตว์เลี้ยง / หมาก ปริญ แนะวิธีดูแลสุนัข ให้ห่างไกลจาก โรคซึมเศร้า

เป็นโรคที่คนส่วนใหญ่ในสังคมปัจจุบัน ประสบพบเจอค่อนข้างมาก สำหรับ ภาวะโรคซึมเศร้า เรียกว่าเป็นอาการที่ไม่ว่าใครก็เสี่ยงที่จะเป็นได้หมด ไม่เว้นแม้กระทั่ง สัตว์เลี้ยง อย่าง สุนัข เชื่อไหมว่า นอกจากมนุษย์เราจะเจอะเจอกับภาวะนี้แล้ว เหล่ามะหมา 4 ขา ก็เสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้เช่นกัน โดยทางการแพทย์ยืนยันว่าสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขมีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าได้มากกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ ซึ่งหากปล่อยให้ภาวะนี้เกิดขึ้นกับเขาเป็นเวลานาน ก็อาจจะทำให้เขาตรอมใจตายได้

พระเอกรูปหล่ออย่าง หมาก ปริญ ก็เป็นอีกหนึ่งหนุ่มคนบันเทิงที่เลี้ยงสุนัขไว้มากมาย เพราะเป็นคนที่ชอบนิสัยสุนัขจึงเลี้ยงสัตว์ชนิดนี้มาตลอด หมากไม่เคยเจอกับน้องหมาที่เป็นโรคซึมเศร้า แต่เขาเชื่อว่าพวกมันมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้อย่างแน่นอน เพราะถึงแม้จะเป็นสัตว์ แต่สัตว์ก็คือสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึก และแม้หน้าที่การงานของ หมาก จะทำให้มีเวลาไม่มากเท่าคนอื่น แต่หากมีเวลาว่างเมื่อใด หมากไม่เคยที่จะละเลยสุนัขในความครอบครองเลยสักครั้ง เขามักจะพาไปวิ่งเล่น พาไปเที่ยว หรืออย่างน้อยๆ ได้ลูบหัวพวกมันก่อนเข้านอนก็ถือว่าโอเคแล้ว

“ผมชอบเลี้ยง ‘สุนัข’ ครับ ตอนนี้บ้านที่กรุงเทพฯ มีอยู่ 3 ตัว ชิวาวา , ปอมเมอเรเนียน แล้วก็ ยอร์คเชียร์ ส่วนบ้านที่ลำปางมีเยอะมากครับ เป็นคนชอบสุนัข คือจริงๆ แล้วแม่ชอบ แม่รักหมามาก เลี้ยงแต่หมา ส่วนตัวผมคือชอบนิสัยของมัน ที่กรุงเทพฯ ผมมีคนช่วยดูแล จะมีแม่บ้านค่อยดูแลให้อยู่ แต่ว่าเรื่องของอาหารผมก็ดูเองบ้าง ผมเลี้ยงตามใจนะ เวลาเขาอยากกินอะไรผมก็ซื้อให้ ชอบอะไรซื้อให้หมด จะซีเรียสเรื่องการกินอาหารคนนิดหน่อย เพราะรู้ว่าเสี่ยงโรค แต่เราจะรู้อยู่แล้วว่าปริมาณอาหารคนที่เราให้เขากินเนี่ยมันมากน้อยแค่ไหน มันอดไม่ได้จริงๆ เวลาเรากินอะไรแล้วเขามาจ้อง แต่ผมจะควบคุม ดูที่ไม่เค็มมากเกินไป หรือไม่มันมากจนเกินไป มีผลกระทบต่อไตและขนหรือเปล่า

(พิถีพิถันเรื่องอาหารของ น้องหมา มากน้อยแค่ไหน?) ก็ทั่วๆ ไปอย่างที่คนเลี้ยงสุนัขใช้แหละครับ ไม่ได้พิถีพิถันมาก เขาแข็งแรงตามแบบของเขาอยู่แล้ว เรื่องของวัคซีนอะไรพวกนั้น แรกๆ ผมพาไปหาหมอเอง แต่หลังๆ ไม่ค่อยมีเวลา แม่บ้านก็จะพาไป ควบคู่ไปกับการดูแล ว่าตัวนี้ท้องเสียหรือเปล่า ป่วยหรือเปล่า จนเดี๋ยวนี้สุนัขผมรักแม่บ้านมากกว่าผมแล้ว (ยิ้ม)

(แบ่งเวลาให้ น้องหมา ยังไง?) ผมพยายามครับ ทุกวันที่กลับบ้านจะใช้เวลาเล่นกับเขาสักพักหนึ่ง ก่อนขึ้นนอนก็ทักทายบ้าง พาไปเที่ยวนอกบ้านบ้าง ช่วงเย็นๆ ถ้ามีเวลาจริงๆ ผมจะพาเดินรอบหมู่บ้าน ซึ่งเขาไม่เหงาแน่นอน

(เคยได้ยินภาวะสัตว์เลี้ยงเป็นโรคซึมเศร้าไหม?) พอจะนึกภาพออกนะ คิดว่ามันเป็นไปได้ เพราะเขาเป็นสัตว์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกเหมือนกัน เวลาเขาเห็นหน้าเราที่เป็นเจ้าของ เราก็รู้แล้วว่าเขาดีใจ เวลาเราไม่อยู่บ้าน เราก็พอจะนึกหน้าเขาออกว่าเขาก็คงเหงา คงคิดถึงเราเหมือนกัน

(หมาก เปรียบสัตว์เป็นอะไรในชีวิต?) เป็นเพื่อนครับ บางวันเราเหนื่อยๆ มา เราเล่นกับเขาสักหน่อยมันจะทำให้เราผ่อนคลาย ผมเคยอ่านเจอบทความที่ว่าสุนัขมีอะไรบางอย่างที่เวลาเราไปสัมผัสเขา หรือว่าไปเจอหน้าเขา กอดเขา มันจะทำให้อารมณ์มนุษย์เราเปลี่ยนในทันที ทำให้อารมณ์เราดีขึ้น สดใสขึ้น เหมือนเลี้ยงสัตว์ช่วยบำบัดครับ

(ถ้าหมาตาย จะเศร้ามากไหม?) ที่ผ่านมามีทั้งตาย มีทั้งหายไปเฉยๆ แต่ผมจะไม่ค่อยเซ้นซิทีฟกับเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ เราดูแลเขาอย่างเต็มที่ ถ้าสมมุติว่าวันหนึ่งเขาจากไป มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าจากตายให้คิดซะว่ามันถึงเวลาที่เขาต้องไป แต่ถ้าอยู่ดีๆ หายไปเฉยๆ อันนี้น่าสงสารครับ

(ฝากถึงคนเลี้ยงสัตว์หน่อย?) ครับ ในเมื่อคุณคิดจะรับผิดชอบชีวิตเขาแล้ว ในเมื่อคุณรับเขาเข้ามาในชีวิตแล้ว เลี้ยงเขาแล้ว ก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุดครับ เขาคือเพื่อน คือสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกเหมือนๆ กับเรา ปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นคนคนหนึ่ง อย่าละเลยเขาครับ สุนัขเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าได้อย่างที่บอก และการเลี้ยงสัตว์ผมว่ามันทำให้เรามีความรับผิดชอบด้วยนะ เลี้ยงเขาก็ต้องดูแลเขา ใส่ใจเขา ให้ข้าวให้น้ำ เหมือนฝึกวินัยเราไปในตัวด้วยครับ”

ขอบคุณรูปภาพประกอบเพิ่มเติมจาก IG : @mark_prin