MONO29 ข่าวเช้า Good Morning Thailand ต๊ะ พิภู ผู้ประกาศข่าว ออกกำลังกาย

ไม่มีเวลาคือคำโกหก ต๊ะ พิภู ลั่น! อยากออกกำลังกาย อย่าอ้าง!

Home / Lifestyle, สุขภาพ / ไม่มีเวลาคือคำโกหก ต๊ะ พิภู ลั่น! อยากออกกำลังกาย อย่าอ้าง!

เป็นอีกหนึ่งคนข่าวที่ทุ่มเวลาให้กับงานข่าวตลอด สำหรับ ต๊ะ พิภู ผู้ประกาศข่าวรูปหล่อแห่งช่อง MONO29 ล่าสุดอ่านข่าวในรายการ ข่าวเช้า Good Morning Thailand แม้หนึ่งวันจะหาเวลาว่างได้น้อยมาก แต่ หนุ่มต๊ะ ก็ไม่เคยเอามาเป็นข้ออ้างในการไม่ออกกำลังกาย เพราะทุกวันนี้เจ้าตัวเจียดเวลาที่มีอันน้อยนิด ออกไปวิ่งเพื่อให้สุขภาพตัวเองดีอยู่เสมอ การวิ่งระยะไกลอย่าง ‘วิ่งมาราธอน’ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าตัวโปรดปรานและทำมาตลอดหลายปีด้วย

“ผมพยายามจะบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 200 นาที เสาร์อาทิตย์มีวันไหนที่ไปเตะฟุตบอลได้ก็ไป แต่วันธรรมดาถ้าพอมีเวลาผมจะเข้ายิมบ้าง สักชั่วโมงก็ยังดี ขยับร่างกายเล็กน้อยให้มันไม่อ้วนจนเกินไป ถามว่าติดการออกกำลังกายไหม? ผมไม่อยากใช้คำว่าติดการออกกำลังกาย แต่ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายนานๆ จะเริ่มรู้สึกหงุดหงิด (ยิ้ม) รู้สึกไม่สบายตัว ไม่ผ่อนคลาย นอนไม่ค่อยหลับ เพราะผมโตมากับโรงเรียนที่เล่นกีฬาแต่เด็กด้วย ช่วงหลังไม่ค่อยมีเวลาไปเจอเพื่อน ไม่ค่อยได้ไปเล่นกีฬาที่เป็นทีม เลยคิดว่าอย่างน้อยได้ออกกำลังกาย ได้วิ่ง ได้วิดพื้น ได้ยกเวท ได้ชกลมบ้าง มันก็ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย”

ได้ข่าวว่าชอบการวิ่งมาราธอนด้วย? : “คือจริงๆ การวิ่งมาราธอนมันเป็นสิ่งที่เราอยากเอาชนะใจตัวเองเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน ตอนที่เริ่มรู้จักกับการวิ่งใหม่ๆ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว รู้สึกว่ามันสนุก เราเคยวิ่งแต่ระยะสั้น พอวันหนึ่งมาวิ่ง 10 กิโล ครั้งแรก เราก็วิ่งได้แม้จะเมื่อยบ้าง เลยค่อยๆ ลองขยับระยะมาเรื่อยๆ แต่เนื่องจากผมทำงานค่อนข้างเยอะ ไม่ค่อยมีเวลาซ้อมจริงจัง การทำเวลาจึงไม่ได้ดีเหมือนนักวิ่งมืออาชีพ หรือคนที่เขาเอาจริงเอาจัง แต่ก็วิ่งมาเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีเวลาว่าง พยายามทำให้มันเป็นเหมือนงานอดิเรก เป็นการผ่อนคลาย ในชีวิตผมเคยวิ่งมาราธอนมาทั้งหมด 7 ครั้ง ก็จบหมดทั้ง 7 ครั้ง แต่ว่าเวลาที่ทำได้อาจจะดีบ้างไม่ดีบ้าง สลับกันไปครับ”

หลงใหลอะไรในการวิ่งมาราธอน? : “เวลาใครถามว่าทำไมถึงชอบวิ่งมาราธอน ผมคงตอบไม่ได้ แต่ต้องลองเอง ที่แน่ๆ คือเรื่องราวระหว่างทางโดยเฉพาะช่วงเวลาที่เราซ้อมก่อนมาวิ่งจริง มันจะมีเรื่องราวให้เราได้เรียนรู้เยอะ และมันเป็นการฝึกฝนตัวเองในเรื่องของวินัย เรื่องการเอาชนะสภาพจิตใจ ที่เวลาเราเหนื่อย ท้อแท้ หมดแรง มันจะมีตัวขี้เกียจที่สั่งให้เราหยุดพัก ถ้าเราผ่านมันไปได้เราจะรู้สึกว่าเวลาที่เราเจอกับอุปสรรคอะไรเล็กๆ น้อยๆ หรือความขี้เกียจเล็กๆ น้อยๆ เราจะชนะมันได้ การวิ่งมาราธอนมันเหมือนการต่อสู้กับอะไรบางอย่างในระยะยาว เราจะค่อยๆ ฝึกฝนตัวเองที่ละนิดๆ สะสมกล้ามเนื้อ สะสมอัตราการหายใจ ที่สำคัญคือฝึกการเอาชนะใจตัวเอง”

มองว่าเป็นกระแสหรือเปล่า? : “ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นกระแสนะ มันเหมือนกระแสสุขภาพ กระแสการวิ่ง กระแสปั่นจักรยาน ทุกอย่างในโลกมันจะมีกระแสความนิยม เป็นเทรนด์ช่วงๆ แต่ในระยะยาวมันจะพิสูจน์เอง ว่าสุดท้ายแล้วอะไรที่ใช่สำหรับเรา และเราชอบในสิ่งนั้นจริงหรือเปล่า หรือแค่ตามกระแส ผมเชื่อว่าคนที่ตอนแรกแค่ลองตามกระแส และทุกวันนี้ยังอยู่กับสิ่งนั้น ในขณะที่เพื่อนไปต่อกับสิ่งอื่นแล้ว คุณจะค้นพบบางสิ่งบางอย่างโดยไม่ตั้งใจแบบที่ผมเจอ จริงๆ ผมไม่ได้รักการวิ่งมากขนาดนั้น แต่ก็วิ่งมาตั้งแต่เด็กๆ ผมรู้สึกว่ามันง่ายดี การจะออกไปวิ่งใส่ชุดอะไรก็ได้ รองเท้าผ้าใบคู่หนึ่งก็วิ่งได้แล้ว ยอมรับว่ามันคงเป็นกระแส กระแสที่จะหายไปตามระยะเวลา แต่ถ้าเรารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขจริงๆ ต่อให้กระแสหายไป เราก็จะยังอยู่กับมัน”

การวิ่งมาราธอนมีข้อเสียไหม? : “ก็มีนะครับ หลายๆ ครั้งมันต้องปิดถนน มันทำให้การจราจรติดขัด (ยิ้ม) ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ คนจะออกมาเยอะมาก บางคนไม่เห็นด้วยเพราะมันทำให้เขารถติด นอกจากนี้ช่วงของ โควิด-19 ก็ไม่ใช่กีฬาที่แนะนำเลย เพราะการเอาคนไปวิ่งรวมกันเยอะๆ มันเสี่ยง จะเห็นว่าปีนี้ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ของโลก เลื่อนการแข่งขันไปเป็นปีหน้าหมดเลย”

ทำงานหนักมีผลต่อสุขภาพ จนต้องออกกำลังกายบ่อยหรือเปล่า? : “สำหรับผมเป็นนะ แต่กับคนอื่นผมไม่แน่ใจ บางทีเวลาเราทำงานหนักๆ เกินไป เราเหลือเวลาดูแลตัวเองน้อย เราจะเริ่มรู้สึกว่าชีวิตเรามันไม่มีสมดุลย์ เราจะพยายามเติมเต็มส่วนที่เราขาดหาย เพื่อให้ความสุขกลับมา ชีวิตมันเป็นเรื่องของบาลานซ์ บางครั้งเราให้กับบางอย่างมากไป บางคนอาจจะนิยามว่า น้ำขึ้นให้รีบตัก เป็นช่วงเวลาที่เราต้องกอบโกย ช่วงเวลาแห่งโอกาส เราจะทุุ่มเทไปทั้งหมด ซึ่งมันก็ไม่ผิด แต่ท้ายที่สุดเราจะพยายามดึงมันกลับมาสมดุลย์ ให้มันไม่เหนื่อยจนเกินไป การไปออกกำลังกายกับเเพื่อน ได้เจอสังคม ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองโดยไม่ต้องเครียดกับอะไร แถมได้สุขภาพด้วย ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ดีครับ”

ขอเคล็ดลับให้กับคนขี้เกียจออกกำลังกายหน่อย? : “ง่ายสุดคือพยายามนัดคนที่เราชอบออกไปวิ่งครับ (ยิ้ม) เมื่อเขาตกลงไป เราจะเสียหน้าไม่ได้ แต่ถ้าใครไม่มีแรงบันดาลใจแบบนี้และต้องไปวิ่งคนเดียว วิธีการก็คือพยายามทำตารางไว้ให้ดีๆ พักผ่อนให้พอและบังคับตัวเองด้วยการจัดข้าวของทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะถ้าอุตส่าห์จัดแล้วแต่เช้าไม่ตื่นไปเนี่ย มันจะรู้สึกเสียดายนะ หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือนัดเพื่อน นัดให้ดิบดีเลย ถ้าเราเป็นคนนัดเองแล้วเราเบี้ยวไม่ไป อันนี้เราจะเสียคำพูดแล้วเพื่อนก็จะด่าเรา ดังนั้นมันบังคับให้เราต้องไป (ยิ้ม) อย่างตัวผมเอง มีคนขอให้ไปวิ่งตามงานการกุศล ซึ่งงานแบบนี้ผมไม่สามารถเบี้ยวได้ แต่งานไหนที่ผมสมัครด้วยเงินตัวเอง บางทีถ้าขี้เกียจเราก็จะยอมทิ้งเงินเพราะเราเหนื่อย แต่ถ้าเมื่อใดที่เราไปรับปากคนอื่น ผมเชื่อว่าเราจะพยายามรักษาสัญญานั้น คนไทยจะเป็นแบบนี้ เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ (หัวเราะ) ดังนั้นผูกเงื่อนไขกับตัวเอง สร้างเงื่อนไขบางอย่าง ที่ถ้าสุดท้ายแล้วเราขี้เกียจเราไม่ไป เราอาจเสียเพื่อน เสียหน้า เสียมฟอร์ม รับรองว่าเราจะไม่เสีย แล้วสุดท้ายเราจะได้สุขภาพที่ดีกลับมา”

สุดท้ายฝากถึงคนที่อยากออกกำลังกาย? : “คนที่อยากออกกำลังกายมันก็เหมือนการเริ่มต้นทำบางสิ่งบางอย่าง อย่าให้มันเป็นคำว่า ‘จะ’ เท่านั้น เริ่มเลย! คิดปุ๊บทำปั๊บ วันนี้ว่างให้หยิบรองเท้าสักคู่ออกไปวิ่งในสวนสาธารณะ ไปเข้ายิม ไปตีแบด ไปทำอะไรก็ได้ ถ้าเริ่มวันนี้แล้วเรารู้สึกดี เราจะรู้สึกอยากทำอีก มันอาจจะเมื่อยบ้างในช่วงแรกๆ ปวดร่างกายบ้าง แต่เมื่อเราชินกับมันแล้ว ร่างกายจะเรียกร้องเราเองว่าให้ออกไปทำแบบนี้บ่อยๆ เพราะมันชอบ แล้วพอร่างกายชอบ สมองจะสั่งการให้เราทำสิ่งนี้ซ้ำๆ เพราะมันมีความสุข ที่สำคัญการออกกำลังกาย ทำให้เราแก่ช้าลง ทำให้สุขภาพใจดีขึ้น ทำให้ได้เพื่อนใหม่ๆ ทำให้เราเซฟเงินในกระเป๋าไม่ต้องไปโรงพยาบาลบ่อยๆ ผมไม่ป่วยมา 5-6 ปี แล้ว

และคำว่า ‘ไม่มีเวลา’ เป็นคำโกหกมากๆ เพราะผมรู้ดีว่าการทำงานวันละ 10 กว่าชั่วโมง เราก็ยังมีเวลา คุณสามารถเจียดเวลาได้ ที่อ้างว่าไม่มีเวลาแค่คุณยังไม่หาเวลาหรือจัดสรรเวลาในชีวิตให้ดีเพียงพอมากกว่า ผมทำงานเช้าตรู่ ทำงานช่วงค่ำอีก ผมเหลือเวลาช่วงเที่ยงถึงบ่ายแค่ไม่กี่ชั่วโมงในบางวัน ผมยังหาเวลาไปวิ่งในยิมได้ เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าคนอื่นๆ น่าจะหาเวลาได้ เดี๋ยวนี้มีฟิตเนสที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงมากมาย มีสวนสาธารณะที่เปิดตั้งแต่ตี 4 ตี 5 คุณสามารถไปวิ่งได้ อย่างน้อยๆ สัปดาห์ละวันสองวัน ให้โอกาสตัวเอง ให้ร่างกายได้พักผ่อนอยู่กับออกซิเจนดีๆ อยู่กับการทำบางอย่างที่มันสามารถฟื้นฟูตัวเองหรือว่าแข็งแรงมากยิ่งขึ้น รับรองว่าเมื่อคุณติดการออกกำลังกาย มันจะเป็นการติดสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตแล้ว ดีกว่าติดแฟนอีก (ยิ้ม)”