ดาราสาว นัท มีเรีย เปิดใจพร้อมกับสามี อั้ม อธิชาติ ภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีสวดอภิธรรมศพ คุณแม่จินดา เต็งมีศรี หรือคุณแม่ของสาวนัท ในคืนแรกวันนี้(8 ม.ค.) ซึ่งมีกำหนดสวดอภิธรรม 5 คืนด้วยกัน ในวันที่ 8 – 12 มกราคม 2562 และฌาปนกิจในวันที่ 13 มกราคม 2562 ในเวลา 16.00 น.
โดยสาวนัทเผย คุณแม่จากไปอย่างสงบด้วยอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หลังจากที่ป่วยด้วยโรค ALS (กล้ามเนื้ออ่อนแรง) และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช มากว่า 11 ปี โดยเธอได้มีการเตรียมใจไว้บ้างแล้ว เล่าในช่วงเช้าวานนี้(7 ม.ค.) คุณแม่ลืมตาขณะ VDO คอลหากันเหมือนจะสื่อสารอะไร ก่อนจะจากไปตอน 4 ทุ่มกว่า บอกตลอดระยะเวลาที่ดูแลคุณแม่ได้มีการพูดคุยกันตลอด เปรยแม่หลับสบาย เหมือนหลับไปเฉยๆ แพลนทุกอย่างไว้หมดแล้ว ด้านหนุ่มอั้มบอก ที่ผ่านมาฝ่ายหญิงดูแลคุณแม่มาอย่างเต็มที่เท่าที่ลูกคนนึงจะสามารถทำให้ได้… รายละเอียดดังนี้
นัท “วันนี้เป็นวันรดน้ำวันแรกและสวดคืนแรกนะคะ ก็จะสวดทั้งหมด 5 คืนจนถีงคืนวันเสาร์ และวันอาทิตย์ที่ 13 ก็จะฌาปนกิจคุณแม่ค่ะ”
นัท “คุณแม่ก็ป่วยมานานนะคะ 11 ปี เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง และติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ก็ใช้สายเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะมานานหลายปี ก็คงจะมีอาการติดเชื้อค่ะ ไข้ขึ้นสูง ก็ไปอย่างสงบค่ะ ก็เป็นช่วงกลางคืน เพราะช่วงเช้านัทจะไลน์คอลคุยกันอยู่ ก็ยังเห็นคุณแม่ยังลืมตานิดๆ เหมือนพยายามจะบอก หรือพยายามจะสื่อสารกับเรานะคะ พอตอนกลางคืนสัก 4 ทุ่มกว่าๆ คุณแม่ก็ไม่อยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ไปหาเขาและไปดูแลตามปกติ อาบน้ำสระผมเปลี่ยนชุดให้”
นัท “ก็ได้คุยกันทางโทรศัพท์ตลอดค่ะ ช่วงที่ทางโรงพยาบาลโทรมาก็คุยทางโทรศัพท์ด้วยค่ะ ก็พูดกับคุณแม่เยอะค่ะ พูดไปหมดแล้ว(ยิ้ม) พูดทุกวัน พูดเหมือนที่เคยพูดค่ะ มันไม่ได้มีอะไรที่ต้องพูดเป็นพิเศษ เพราะเราก็พูดกันทุกวันอยู่แล้ว คุยกันเกือบจะทุกวันค่ะ 11 ปีคุณแม่ป่วยมันเหมือนเป็นประโยคที่เราเจอคุณพ่อคุณแม่เราทุกวัน”
นัท “ถามว่าเตรียมใจไว้ก่อนมั้ย เตรียมไว้ตลอดค่ะ คิดว่ามันต้องมีวันนี้อยู่แล้วสักวันนึง แต่ก็พยายามจะมีสติให้มาก และโชคดีที่มีญาติพี่น้องเพื่อนๆ พี่ๆ อยู่ในวันนั้นพอดี ทานข้าวกันที่บ้านพอดี ทุกคนก็เลยร่วมแรงร่วมใจแยกย้ายทำหน้าที่แต่ละคนไปโดยที่ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีจริงๆ ค่ะ ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณสถานการณ์ทุกอย่าง ขอบคุณอั้มด้วย(ยิ้ม)”
นัท “ต้องบอกเลยว่าที่นัทเป็นได้อย่างทุกวันนี้ อย่างที่ทุกคนเห็นว่านัทเป็นยังไง ก็ต้องขอบคุณคุณแม่จริงๆ ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ปลูกฝังเลี้ยงดูนัทมาอย่างดี คุณแม่เป็นคนเข้มแข็ง เป็นคนรักครอบครัว เป็นคนดูแลคนอื่น เราก็เห็นตรงนี้มาตลอด ก็เลยทำให้รู้สึกว่าที่เราเข้มแข็งได้วันนี้มันก็มาจากที่คุณแม่เขาทำให้เราเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันจากที่เราเข้มแข็งน้อย เราก็ค่อยๆ เข้มแข็งมากขึ้น จริงๆ เราเข้มแข็งมากกว่าเขาอีก เพราะว่าเขาป่วยเนอะ เขาค่อนข้างจะทนทุกข์ทรมานกว่าเราเยอะ แต่เราก็มีหน้าที่ของเราที่เป็นลูกให้ดีที่สุด ตัวเขาก็ดำรงค์ชีวิตของเขาและชีวิตของเราให้ไปด้วยกันแบบเรียนรู้ชีวิตซึ่งกันและกันค่ะ”
นัท “ถามว่าคุณแม่มีห่วงอะไรอีกมั้ย จริงๆ นัทไม่ทราบนะคะ แต่นัทเชื่อว่าที่ได้เห็นภาพเมื่อวาน สถานการณ์ต่างๆ นัทเชื่อว่าคุณแม่น่าจะหลับสบาย เพราะว่าคุณแม่สวยงามมาก ตาปิดสนิท เหมือนคนนอนหลับไปเฉยๆ เลยค่ะ นัทก็อาบน้ำสระผมแต่งตัวให้ อยู่ด้วยกันหลายชั่วโมงมากเลยค่ะ รู้สึกเหมือนเขานอนไปเฉยๆ เหมือนเขาแพลนทุกอย่างไว้ให้เราดีหมดแล้ว”
นัท “ทุกอย่างของคุณแม่อยู่ในใจเราตลอดมา มันเป็นอะไรที่เราแค่คิดเราก็มีความสุขแล้ว บางอย่างเราได้ปฎิบัติในขณะที่เขายังปกติดี และตอนที่เขาอาจจะดูแลตัวเองไม่ได้ และเราก็ดูแลทำหน้าที่ของเรา เราก็เดินหน้าต่อไปค่ะ”
นัท “ยังมีอะไรอยากจะทำให้ท่านอีกมั้ยเหรอ ไม่มีค่ะ บอกเลยว่าที่ผ่านมาทุกคนในครอบครัว เวลาเราทำอะไรเราก็จะนึกถึงคุณพ่อคุณแม่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เราทำบุญก็อุทิศให้กับทุกคนที่เราเอ่ยชื่ออยู่แล้วค่ะ ก็เลยคิดว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่เราทำเป็นประจำจนเรารู้สึกปกติ จนไม่รู้สึกว่ามีิอะไรต้องพิเศษค่ะ มันเป็นเหมือนทุกๆ วัน”
นัท “วันนี้ก็ได้ทุกๆ คนช่วยเยอะนะคะ ตั้งแต่คนในครอบครัว รวมไปจนถึงเพื่อนสนิท เพื่อนทุกๆ คน เพื่อนทั้งในวงการ นอกวงการ คือแทบจะไม่ต้องทำอะไรมากเลยค่ะ ทุกคนทำหน้าที่ให้นัทหมดเลย จนนัทรู้สึกปลื้มใจ และอยากจะขอบคุณจากใจจริงๆ สำหรับทุกๆ ท่านที่ให้การช่วยเหลือนะคะ และดูแลนัทเสมอมา และที่สำคัญก็เป็นพระมหากรุณาธิคุณสำหรับครอบครัวนัททื่สมเด็จพนะนางเจ้าพระบรมราชินีนาถท่านทรงเมตตาอนุเคราะห์ ท่านทรงดูแลและให้ความเมตตาอย่างยิ่งกับครอบครัวของนัทนะคะ อันนี้เป็นพระมหากรุณาอย่างหาที่สุดไม่ได้จริงๆ ค่ะ เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมจริงๆ ค่ะ เป็นอะไรที่ครอบครัวเราทุกคนปลื้มใจค่ะ(ยิ้ม)”
อั้ม “ก็ตั้งแต่รู้จักคุณนัทมา ก็จะเห็นคุณนัทมีความเป็นห่วงคุณแม่อยู่ตลอดเวลานะครับ คุณแม่ป่วยคุณนัทก็จะหาเวลาทุกครั้ง ไม่ว่าจะมีงานมากหรือน้อยแค่ไหนก็จะต้องหาเวลาไปหาคุณแม่ให้ได้ และจะเห็นเป็นประจำคือคุณนัทจะต้องไลน์คอล โทรหา ส่งเสียงพูดคุยให้คุณแม่ได้ยิน ผมก็เชื่อว่าอย่างที่ทุกคนได้เห็นว่าคุณนัทก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้กับคุณแม่มาอย่างเต็มที่ที่ลูกคนนึงจะสามารถทำให้คุณแม่ได้ ทั้งเรื่องของบุญกุศล ทั้งเรื่องของทานกุศลต่างๆ เชื่อว่าคุณแม่ได้สะสมบุญบารมีที่คุณแม่ได้ทำ รวมถึงที่คุณนัทในฐานะลูกได้ทำให้คุณแม่อย่างเต็มที่แล้ว คุณนัทก็ทำใจไว้แล้วล่ะครับ ในเรื่องของการทำใจก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ คุณแม่ก็ได้ไปอย่างสงบครับ”