จากไปอย่างสงบแล้ว สำหรับ น้ำตาล บุตรศรัณย์ หรือ น้ำตาล เดอะสตาร์ หลังจากป่วยกะทันหันมีอาการเลือดออกทางปากเป็นจำนวนมากจนหมดสติไป ภายหลังมีอาการสมองบวมจนล่าสุดเมื่อช่วงเวลา 02.17 น. ของวันที่ 14 มิ.ย.2562 น้ำตาลได้เสียชีวิตลง ณ โรงพยาบาลศิริราช และในช่วงสายของวันนี้ทีมแพทย์ นำโดย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ น้ำผึ้ง พิมพ์รดา พี่สาวของน้ำตาล รวมไปถึงพี่เขยอย่าง กิตติ์ธีธัช ได้แถลงถึงสาเหตุการเสียชีวิตและกำหนดการพิธีทางศาสนา ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา “เราพูดถึงอาการต่างๆ ตลอดวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตัวสัญญาณชีพทุกอย่างอยู่ในระดับที่ดี ความดันโลหิตปรับขึ้นมาค่อนข้างดี ทุกอย่างอยู่ในระดับที่ดีไม่มีเลือดออก ผมพูดว่ามี 2 เรื่องที่เป็นกังวล คืออาการสมองบวมและเลือดออกซ้ำ ซึ่งประเด็นที่ 2 มันไม่เกิดขึ้น เราสามารถควบคุมได้ดี ประเด็นสำคัญจึงอยู่ในสมองที่บวม ปกติเวลาเกิดเหตุการณ์เลือดไม่ไปเลี้ยงสมองได้อย่างเพียงพอ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเซลล์สมองจะบวม ทฤษฎีทั่วๆ ไป สมองบวมเรื่อยๆ ถึง 72 ช.ม. ถ้าปัจจัยที่ทำให้เกิดการบวมหายไป หลังจากนั้นสมองจะค่อยๆ ยุบบวมลง เราคาดการณ์ว่าถ้าสมองลดบวมลงจะทำการประเมินอีกครั้ง ว่าเซลล์ประสาทหรือสมองเสียหายไปมากน้อยแค่ไหน
แต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อเวลา 19.00-20.00 น. (หัวค่ำของวันที่ 13 มิ.ย.2562) ความดันโลหิตคุณน้ำตาลลดลง ระบบต่างๆ เริ่มแย่ลง แพทย์ขออธิบายเป็นความรู้ว่าเวลาที่สมองบวมภายในกะโหลกศีรษะ สมองขยายออกไม่ได้ ตัวสมองด้านในจะเคลื่อนลงล่างทางช่องกะโหลกช่องหนึ่ง ซึ่งจุดนั้นเป็นจุดที่ควบคุมการทำงานของปอดและหัวใจ เมื่อสมองเคลื่อนตัวไปกดจุดดังกล่าว จะทำให้คนที่มีอาการสมองบวมอยู่แล้วมีอาการแย่ลง ซึ่งเราเชื่อว่าเคสของคุณน้ำตาลเป็นลักษณะแบบนั้น และในที่สุดคนไข้ก็จากไปอย่างสงบ เวลา 02.17 น. ทุกคนพยายามทำอย่างเต็มที่ ทางโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปคือจะมีการเคลื่อนย้ายร่างคุณน้ำตาลไปที่ วัดป้อมวิเชียรโชติการาม จ.สมุทรสาคร เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา มีพิธีรดน้ำศพเวลา 16.00 น. สวดอภิธรรมศพตั้งแต่ 14-17 มิ.ย. และฌาปนกิจศพในวันที่ 18 มิ.ย. เวลา 17.00 น.
สาเหตุของอาการดังกล่าว ณ ตอนนี้ทีมแพทย์ยังไม่ทราบ ตามแผนที่ได้กล่าวไปเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. เนื่องจากทุกอย่างยังไม่ดีขึ้น สมองยังไม่สามารถทำงานดีนัก แต่ชีพจรและความดันโลหิตดี เราคิดว่าหากผ่านช่วงสมองบวมไปแล้วทุกอย่างดีขึ้น เราจะทำการสืบค้นหาสาเหตุของอาการป่วยของคุณน้ำตาล วันที่ 13 ที่ผ่านมาเราให้ข้อมูลว่าโดยทั่วไปอาการเลือดออกซ้ำ จะลดน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป เพราะเส้นเลือดที่ฉีกขาดเริ่มประสานตัว แต่ว่าเรายังไม่มีโอกาสที่จะทำแบบนั้น เรามีการส่องกล้องดูอะไรบ้างเล็กน้อย แต่ต้องดูผลอย่างแน่ชัดอีกครั้งหนึ่งเพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุ
ในเรื่องการขอชิ้นส่วนของอวัยวะคุณน้ำตาลไปวิจัยหาสาเหตุการป่วยที่แท้จริงนั้น อันดับแรกทางทีมแพทย์และโรงพยาบาลต้องให้เกียรติกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวได้อนุญาตทีมแพทย์ไปส่องกล้องดู ซึ่งก็เหมาะสมในระดับหนึ่งแล้ว ทางเราจะไปดูข้อมูลย้อนหลังอีกครั้งหนึ่งว่าเป็นจุดตรงไหน เราจะไปทบทวนดูอีกครั้งจากฟิล์มเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ โดยจะไม่ไปรบกวนร่างของคุณน้ำตาล ผมเชื่อว่าหากเรานำไปดูย้อนหลังดีๆ น่าจะพบอะไรบ้าง ซึ่งตรงนี้หากพบแล้วทางทีมแพทย์และโรงพยาบาลจะแจ้งให้ทราบต่อไป”
ด้าน เต้ กิตติ์ธีธัช พี่เขยของน้ำตาลกล่าวว่า “ทางครอบครัวเชื่อว่าน้องพยายามเต็มที่แล้ว ตั้งแต่ 20.00 น. ของวันที่ 13 มิ.ย. ทีมแพทย์ที่ดูแลอาการป่วยน้ำตาลได้ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ไม่ลดความพยายามลงแม้แต่สักนาที ทุกคนมีความหวังพร้อมกับพวกเรา ไปจนถึงระยะเวลา 02.00 น. น้องคงตัดสินใจไปด้วยตัวเอง ทุกคนในครอบครัวเชื่อว่าน้องพยายามทำเต็มที่แล้ว เราเชื่อว่าน้องเลือกแล้วว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับน้อง เขาสู้ตลอดเวลาแล้ว เราคิดว่าทุกท่านทำหน้าที่อย่างดีที่สุดและเราก็เชื่อในปาฏิหาริย์จนถึงนาทีสุดท้าย สุดท้ายเขาก็ไปด้วยความสงบของเขาเอง”
น้ำผึ้ง พิมพ์ลดา พี่สาวของน้ำตาล กล่าวเพิ่มเติมว่าเธอกับน้องค่อนข้างสนิทกันมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้จึงทำใจได้ยากพอสมควรเมื่อเห็นสภาพของน้องเมื่อวาน ลูกสาวของเธอ (หลานของน้ำตาล) สนิทกับน้ำตาลมาก อยากเดินทางมาเยี่ยมน้าแต่ตนมองว่าลูกยังเด็กจึงอยากรอให้น้ำตาลอาการดีขึ้นก่อนค่อยพามาเยี่ยม แต่สุดท้ายกลายเป็นว่ามันไม่ทัน เลยรู้สึกว่าน่าจะพามาเจอกัน ให้เขาได้เจอได้คุยกันเผื่อจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น