วอร์นเนอร์ มิวสิค วันเดอร์เฟรม เฟรม ศุภัคชญา

11 เพลง แต่งเองแต่ถูกสั่งห้ามร้อง! วันเดอร์เฟรม สู้ตาย!!!

Home / Hot Gossip / 11 เพลง แต่งเองแต่ถูกสั่งห้ามร้อง! วันเดอร์เฟรม สู้ตาย!!!

          ชี้แจงต่อหน้าสื่อมวลชนอีกครั้ง สำหรับนักร้องสาวสุดฮอต เฟรม ศุภัคชญา หรือ วันเดอร์เฟรม ก่อนหน้านั้นแจงผ่านโซเชียลไปแล้วถึงกรณีที่ค่าย วอร์นเนอร์ มิวสิค ต้นสังกัดร่อนหนังสือชี้แจงว่ายุติสัญญากับ วันเดอร์เฟรม เธอไม่ได้เป็นนักร้องในสังกัดอีกต่อไป รวมถึงผลงานเพลงทั้ง 11 เพลง จะตกเป็นลิขสิทธิ์ของค่ายทั้งหมด รวมถึงงานจ้างโชว์ตัวที่ค้างไว้วันเดอร์เฟรมจะต้องยินยอมรับผิดชอบ ส่วนงานนอกเหนือจากที่พูดคุยกับค่าย ค่ายจะไม่รับผิดชอบใดๆ ซึ่งวันเดอร์เฟรมชี้แจงผ่าน FB ว่าตนไม่เคยเซ็นสัญญากับค่าย มีเพียงบันทึกข้อสัญญาตกลงก่อนทำสัญญาเท่านั้น และได้ให้ทนายทำการยกเลิกไปเป็นที่เรียบร้อยจึงไม่มีผล 

          ล่าสุดวันนี้สาวเฟรมร่วมงานแถลงข่าว GSB GEN CAMPUS STAR 2019 ก็ได้ยืนยันผ่านสื่อว่าตนไม่เคยเป็นศิลปินในสังกัดค่ายวอร์นเนอร์ งงกับข้อมูลที่ค่ายเผยออกมาเช่นกัน ตัวเธอพูดอะไรมากไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลทางกฎหมาย เรื่องที่เสียใจที่สุดคือสิขสิทธิ์เพลง เธอเป็นคนแต่งเอง แต่ค่ายกลับบอกว่าเธอไม่สามารถร้องเพลงของตัวเองได้ ทั้งที่ไม่มีสัญญากัน ซึ่งตรงนี้อยากให้เป็นคำสั่งของศาล หากท้ายที่สุดต้องแพ้เธอก็พร้อมที่จะเริ่มใหม่ ยอมทิ้งทั้ง 11 เพลง ยืนยันไม่ได้ดังแล้วจะย้ายค่ายไปอยู่กับ แกงส้ม ธนทัต และย้ำว่าผู้จ้างงานไม่ต้องห่วง เธอพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง

          “พูดตรงๆ ว่าตกใจมาก จริงๆ แล้ววันเดอร์เฟรมกับวอร์นเนอร์ฯ ไม่เคยทำสัญญากัน ไม่เคยมีการเซ็นสัญญา แต่เป็นเพียงข้อตกลงเบื้องต้นก่อนเซ็นสัญญา ซึ่งข้อตกลงนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2560 ผ่านมาเกือบสองปีแล้วค่ะ เป็นกระดาษ 2 แผ่น รายละเอียดในข้อตกลงบอกไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลทางกฎหมาย ต้องขอโทษพี่ๆ ทุกคนด้วย แต่ทนายของเฟรมแจ้งว่าข้อตกลงนี้ไม่เป็นผลทางกฎหมาย และเฟรมได้มอบอำนาจให้ทนายส่งหนังสือไปทางวอร์นเนอร์ฯ เพื่อยกเลิกข้อตกลงนั้น ซึ่งทางวอร์นเนอร์ฯ ได้รับเอกสารวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 ส่วนจะรับรู้หรืออนุมัติแล้วรึยัง อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องเข้าไปคุยกันในศาล

          (สรุปว่าที่ผ่านมาไม่เคยเป็นศิลปินในสังกัดวอร์นเนอร์ฯ ใช่ไหม?) ไม่เคยเป็นค่ะ ส่วนในหนังสือที่มีการชี้แจงออกมาแบบนั้น เราก็งงเหมือนกัน สรุปแล้วมันคืออะไร สาเหตุที่อยากขอยุติข้อตกลงกับทางวอร์นเนอร์ฯ คือมันเป็นปัญหาเรื่องการทำงานค่ะ ไม่ได้โทษว่ามีใครถูกหรือผิด แต่ต่างฝ่ายต่างทำงานแล้วไม่คลิกกัน คิดว่าไม่สามารถทำงานต่อได้ เราเลยเลือกที่จะเดินออกมา เป็นปัญหาที่สะสมมานานมากค่ะ มีการเจรจากันหลายครั้งเพื่อที่จะทำงานต่อด้วยกันได้

          (วอร์นเนอร์ฯ ระบุว่า วันเดอร์เฟรม ไม่มีสิทธิ์ใช้เพลง?) อันนี้เป็นเรื่องที่เสียใจมาก เพราะว่าเพลงทุกเพลงเราเป็นคนแต่งเอง แล้วมาบอกว่าเราไม่สามารถใช้เพลงของตัวเองได้ ทั้งที่ไม่มีสัญญากัน (ลิขสิทธิ์เพลงไม่ได้จดใช่ไหม?) มันเป็นอะไรที่คลุมเครือมากตอนนี้ อยากให้เป็นคำตัดสินของศาลเท่านั้นค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีการยื่นฟ้อง เอาจริงๆ ไม่มีใครอยากขึ้นศาล แต่หนูมั่นใจค่ะ อย่างน้อยเลยหนูมั่นใจในสิทธิของดนตรีกรรม ในฐานะผู้แต่งเนื้อและทำนอง หนูมีสิทธิ์ใช้เพลงค่ะ

          ด้านคุณพ่อกล่าวเสริมว่า : เพลงที่น้องแต่งเสร็จก็จะส่งมาสเตอร์ให้ทางเขา (จ่ายเงินให้เราไหม?) จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ทางเราเบิก ค่าห้องอัด ค่าโปรดิวเซอร์ เป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้นครับ

          (ระบุว่าลิขสิทธิ์เพลงเป็นของใคร?) ขอให้เป็นเรื่องของทางทนายนะคะ ไม่สามารถตอบได้จริงๆ คือไม่มีสัญญา เขาไม่ได้เรียกว่าสัญญา อย่างที่บอกมันคือข้อตกลงเบื้องต้น เพราะฉะนั้นทางกฎหมายไม่เรียกว่าเป็นสัญญา เฟรมจะต้องต่อสู้ว่าเฟรมควรมีสิทธิ์ที่จะใช้เพลงของตัวเอง เพราะเป็นเพลงที่เฟรมเขียนขึ้นมา ทุกวันนี้งานยังดำเนินอยู่ปกติ ตรงนี้ฝากด้วยนะคะ ยังรับงานปกติค่ะ หลังจากที่ได้ตกลงกับค่ายว่าเราไม่อยู่แล้วเราก็เริ่มรับเอง คือเรามีการตกลงกันหลายรอบ เราตกลงก่อนวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 เราก็บอกว่าทางเราไม่แฮปปี้แล้ว เพราะฉะนั้นเราเริ่มรับงานเอง ในข้อตกลงเบื้องต้นคือไม่ได้มีการระบุว่าห้ามรับงานเอง (เขาตอบกลับมาว่าโอเคใช่ไหม?) ไม่ได้พูดกันเรื่องนี้เลย ไม่ได้ข้อสรุป เราพยายามประนีประนอมกัน พยายามที่สุดแล้วที่จะให้อยู่ด้วยกันได้และดีที่สุด เฟรมไม่เคยทำร้ายใคร เป็นแค่เด็กธรรมดา

          เรื่องคนที่จ้างเฟรม เฟรมพร้อมรับผิดชอบเองทั้งหมด เขาจะต้องไม่เดือดร้อนเพราะจ้างเฟรม เฟรมไม่ได้มั่นใจว่าเฟรมจะชนะคดีนี้ แต่เฟรมมั่นใจว่าเฟรมไม่ได้ทำอะไรผิด (ถ้าแพ้อาจจะต้องจ่ายลิขสิทธิ์เพลงตัวเอง?) ถ้าจะต้องจ่ายเพลงที่ตัวเองแต่ง เสียใจค่ะ ถ้ามันถึงจุดนั้นจริงๆ หนูก็พร้อมที่จะเริ่มใหม่ พร้อมแต่งเพลงใหม่ หนูยอมทิ้ง 11 เพลงนั้นไปเลย หนูไม่นอยด์แต่เสียใจมากกว่า หนูชอบเปรียบเทียบเพลงเหมือนลูก เขาอยู่ในอกเราแล้ววันนี้มีใครเอาเขาออกไป มันก็เสียใจ หนูไม่อยากให้มาถึงจุดนี้ ทางวอร์นเนอร์ฯ เองก็คงไม่อยากให้มาถึงจุดนี้หรอก แต่เราทำงานร่วมกันไม่ได้แล้ว พยายามแก้ไขปรับตัวแล้ว มันยังไม่มีอะไรดีขึ้น ก็เลือกที่จะเดินออกมา (เลือกที่จะเป็นอิสระเองหรือมีที่อื่นที่จะไป?) ไม่มีเลยค่ะ ตอนนี้ออกมาดูแลตัวเอง เป็นศิลปินอิสระ ถ้าอ้างอิงตามเอกสารจริงๆ ก็คือหนูเป็นศิลปินอิสระมาตลอด

          (คนมองว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทำให้ตกลงกันไม่ได้?) โห….รับงานยังไม่รู้เลยว่าค่าตัวเท่าไหร่ หนูไม่เคยแคร์เลยว่าได้เงินเท่าไหร่ หนูแค่อยากทำงานที่หนูรัก แค่อยากมีความสุข ความสุขเป็นเรื่องสำคัญมาก ทุกคนคงอยากมีความสุข (มีชื่อเสียงขึ้นมาทำให้ข้อตกลงเปลี่ยนไปรึเปล่า?) หนูไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้น บางคนยังไม่รู้จักหนูเลยด้วยซ้ำ รู้จักแต่เพลงหนู เรื่องนี้มันไม่เกี่ยว (งานเราที่รับไว้มีเยอะไหม?) เยอะค่ะ จะเคลียร์ให้หมดทุกงานไม่ต้องห่วงว่าจะเดือดร้อนเพราะจ้างหนู หนูพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง มันไม่ได้มีสัญญา ทางทนายบอกว่าร้องได้ และหนูยืนยันว่ายังจะร้องเพลงของหนู ตอนนี้กำลังปรึกษาทนาย คือไม่อยากปล่อยให้มันเป็นช่วงสูญญากาศนาน มันจะเดือดร้อนทุกๆ ฝ่าย

          (มีข่าวว่าจะไปอยู่กับค่าย แกงส้ม ธนทัต?) ไม่เลยค่ะ หนูรู้จักกับผู้จัดการของพี่แกงส้ม คือพี่น้ำ ไม่ได้มีการตกลงว่าจะเป็นผู้จัดการกันเพียงแต่ว่าพี่เขามาช่วยดูให้เฉยๆ เพราะหนูเหมือนนกปีกหักที่ยังบินไม่ได้ ต้องมีคนช่วยพยุงแค่นั้นเอง พรุ่งนี้ (27 ก.ค.) จะมีแถลงการณ์จากทนาย จะเป็นข้อมูลทางกฎหมาย ตัวหนูเองไม่ได้รู้มาก หนูกลัวพูดไปแล้วมันจะเละไปกันใหญ่ เดี๋ยวจะมีการแถลงใน facebook และ IG ของหนูเป็นหนังสือออกมาค่ะ ฝากถึงแฟนเพลงทุกคนที่ให้กำลังใจเยอะมาก ขอบคุณครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ค่ะ

เฟรม ศุภัคชญา (วันเดอร์เฟรม)
เฟรม ศุภัคชญา (วันเดอร์เฟรม)

 

เฟรม ศุภัคชญา (วันเดอร์เฟรม) และครอบครัว
เฟรม ศุภัคชญา (วันเดอร์เฟรม) และครอบครัว