หอมกลิ่นความรัก ตลบอบอวลไปทั่วงานฉลองสมรส ของนิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 กับเจ้าบ่าวนักธุรกิจหนุ่มร้อยล้านวัย 32 ปี เจได ไตรนุภาพ จิระไตรธาร ซึ่งเมื่อเช้าได้จัดพิธีช่วงเช้าที่โบสถ์วัฒนา สุขุมวิท 15 พอตกเย็น ทั้งคู่ก็มาร่วมฉลองมงคลสมรสกันที่ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ซึ่งสาวนิ้งจูงมือเจ้าบ่าวมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวความรักตั้งแต่รู้จักกันมา1 ปี จนถึงวันที่ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน
นิ้ง “เหมือนฝันเลยค่ะ เป็นสิ่งที่นิ้งฝันมาตั้งแต่เด็กเลยว่าอยากจะมีพิธีโบสถ์ ได้เจอผู้ชายคนนึงเข้าพิธีด้วยกัน
เจได “สำหรับผมเป็นมากกว่าฝัน เพราะมันสวยมาก ครอบครัว เพื่อนที่มากันจากทั่วโลกเลย เหมือนฝันจริงๆ ครับ ขอบคุณทีมงาน ขอบคุณเพื่อนทุกคนทั้งไทยและต่างประเทศที่มากันอบอุ่นมากครับ”
เราตื่นเต้นขนาดไหนงานเช้า?
นิ้ง “ตัวเขาผ่านมาเกือบทั้งชีวิตแล้ว (หัวเราะ)”
เจได “คือผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวมาน่าจะร่วม 10 งานแล้ว และอยู่ในพิธีของคริสต์เกือบทั้งหมด คุ้นเคยดีอยู่แล้ว พอถึงงานตัวเองก็ค่อนข้างชิลล์ แต่พอไปยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ ก็ร้องไห้เลยครับ เพราะเราไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ครับ”
เสียน้ำตาทั้งคู่เลยมั้ย?
นิ้ง “นิ้งเห็นเขาร้องไห้จนนิ้งไม่กล้าเสียน้ำตา นิ้งก็เลยไม่เป็นไรดีกว่า”
เจได “กลายเป็นว่าผมซึ้งอยู่คนเดียว (หัวเราะ) ร้องไห้เพราะภาพที่เราเคยคิดฝันมันออกมาดีกว่านั้นครับ ทุกคนที่อยู่ที่นั่น ครอบครัว เพื่อน บินข้ามโลกกันมาเพื่องานพวกเราโดยเฉพาะจริงๆ ผมตกใจมากมีหลายคนอุตส่าบินมาไกลเพื่องานเราอย่างเดียวเลย”
นิ้ง “อย่างมิสเซาท์แอฟริกา เขาบินมาเพื่ออยู่แค่วันเดียว เดี๋ยวคืนนี้เขาต้องกลับแล้ว และเขามีสอบของหมอที่เตรียมจะจบด้วย”
เจได “เขาเล่าให้พวกเราฟังว่าตอนอยู่บนเครื่องบินเขาอ่านหนังสือสอบไปด้วย เดี๋ยวกลับไปสอบตื่นวันรุ่งขึ้นก็สอบเลย สุดยอดจริงๆ ครับ”
คิดมั้ยว่างานเราจะขนจักรวาลมารวมตัวกันได้?
นิ้ง “จริงๆ นิ้งเชิญทวีปเอเชียมาเยอะเหมือนกัน ไดเรคไอจีไปบ้าง บางคนเขาไม่สะดวก อย่างรูมเมทนิ้งก็ลุ้นว่าเขาจะมามั้ย สุดท้ายเขาเซย์เยสเป็นอะไรที่โอ้มายก๊อดมาก แล้วก็มีเวียดนามที่เขาค่อนข้างบีซี่ แต่สุดท้ายก็เคลียร์คิวให้เพื่องานแต่งเรา และเวียดนามไม่ได้มามือเปล่า เขาเอาชุดประจำชาติของเขามาเป็นของขวัญให้พวกเราด้วย”
รูมเมทเราได้ดอกไม้ที่งานเมื่อเช้าด้วย?
นิ้ง “ใช่ค่ะ เพื่อนเจ้าสาวทุกคนก็ลุ้นหมด ตื่นเต้นกัน ตอนนิ้งโยนก็รู้สึกว่าใครได้ก็คงเป็นเจ้าสาวคนต่อไปแหละ และคนที่ได้ก็คือรูมเมทนิ้งเอง”
ช่วงเช้าให้คำมั่นสัญญาอะไรบ้าง?
นิ้ง “สัญญาว่าจะดูแลซึ่งกันและกัน”
เจได “เชื่อในส่วนดีของกันและกัน ไม่จดจำความผิดของกันและกัน แน่นอนว่าต้องรักเพียงแค่นิ้ง รักนิ้งคนเดียวจนกว่าวันที่พระเจ้าจะเอาพวกเรากลับบ้านครับ”
เล่าย้อนกลับไปวันที่เจอกันครั้งแรก?
นิ้ง “คือจุดเริ่มต้นของธีมยูนิเวิร์ส มันมีเหตุผลค่ะ”
เจได “จริงๆ เราพบรักกันผ่านมิสยูนิเวิร์ส เราเจอกันครั้งแรกจริงๆ ตอนนิ้งเดินเข้ามาที่โบสถ์ของผม ตอนนั้นรู้ว่าเขาเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แต่ไม่ได้คิดว่าเราจะมารักกัน สถานที่นี้โรงแรมที่เราจัดงานแต่งนี้ก็มีเหตุผล เพราะนิ้งเคยมาถ่ายแบบที่นี่กับแบรนด์แว่นของผม ตอนนั้นมีพี่ส่งรูปของนิ้งที่ใส่แว่นแบรนด์ผมมาให้ ผมก็เลยไดเร็กไอจีไปหานิ้ง”
นิ้ง “เขาบอกว่า คุณใส่แล้วสวยมากๆ คำนี้แหละค่ะ พี่ที่ส่งรูปไปก็บอกว่า เขายังโสดนะนิ้ง เขาเป็นผู้ชายที่ดีมาก ลองคุยมั้ย”
เจได “ก็เลยคุยกันจากตอนนั้นมา”
ประทับใจอะไรในกันและกัน?
นิ้ง “เราเป็นคนที่เหมือนกันมาก รู้ใจกันและกันแม้กระทั่งว่าตื่นมารู้เลยว่าอยากกินอะไร นิ้งมีลิสต์สเปกผู้ชายของนิ้งเอาไว้ เขาก็มีลิสต์สเปกของเขา”
เจได “ผมมีสเปกที่ผมเขียนไว้ เช่น สวย ฉลาด เป็นคริสเตียน เป็นนักสู้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ชอบอ่านหนังสือ ชอบทำงาน ขายาว หุ่นดี ผมมีดีเทลเยอะมาก แต่นิ้งมีเกินสิ่งที่ผมคาดหวังไว้จริงๆ เรามีหลายอย่างคล้ายกัน อยู่ด้วยกันแล้วสนุก”
นิ้ง “สเปกของนิ้ง ต้องเป็นคริสเตียน เป็นผู้ชายอบอุ่น รักคนอื่นมากๆ แม้กระทั่งแม่บ้านของเขาก็ยังดูแลเหมือนเพื่อนเลย รักห่วงใยคนรอบข้าง เป็นผู้ชายที่เก่งมาก ขี้น้อยใจบ้างเพราะรักแฟน เขาเป็นคนที่รักนิ้งมาก แม้กระทั่งเรื่องการกิน ที่นิ้งสมบูรณ์น้ำหนักขึ้นก็เพราะเขานะคะ”
เราต้องปรับตัวยังไงในการใช้ชีวิตคู่บ้าง?
เจได “ผมว่ามันเป็นเรื่องของความเคยชินบางอย่าง ผมโสดมานานไม่ได้มีใคร เราต้องละทิ้งความต้องการบางอย่าง เสียสละบางอย่างให้กับเขามากขึ้น แต่มันเป็นความสุขครับ ปรับตัวนิดหน่อยไม่มากครับ“
เรื่องสินสอดจัดหนักมาก?
นิ้ง “ขอบคุณพระเจ้าแล้วกันที่ทำให้คุณพี่มีวันนี้ ขอบคุณครอบครัวคุณพี่ดีกว่า”
เจได “สำหรับเราทั้งสองครอบครัวไม่ได้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เราสองคนรักกัน ครอบครัวเห็นความรักของพวกเรา อยากจะอวยพรเราทั้งสองคนมากกว่า ก็แน่นอนว่าเราต้องไม่ให้นิ้งเสียเกียรติอยู่แล้ว ต้องให้สมเกียรติครอบครัวเขาด้วยครับ”
เห็นว่าแหวนเพชร 10 กะรัต?
นิ้ง “วงที่ใส่ก็ไม่ได้อะไรมากมาย แต่มีวงที่มะม๊าให้เป็นแหวนประจำตระกูล”
เจได “เป็นแหวนที่ปะป๊าเป็นคนไปซื้อให้ เอามาให้ผมขอนิ้งแต่งงาน อวยพรพวกเราอย่างมากครับ ที่ว่าแหวน 10 กะรัตลดๆ ลงมาหน่อยครับ แต่ถ้ารวมกับสร้อยที่มะม๊าให้ก็ถึงครับ ถ้าวงเดียว 10 กะรัตคงจะเยอะไป”
งานฉลองช่วงเย็นเตรียมการไว้ยังไงบ้าง?
เจได “ผมอยากจะเสกเวทีมิสยูนิเวิร์สมาที่งานเลย ดังนั้นงานวันนี้จะพยายามทำให้เป็นธีมนั้นมากที่สุด โทนก็จะเป็นกาแล็คซี่วิ้งๆ มีทำเวทีให้เดินกันยาวๆ มีจอ LED เหมือนเวทีมิสยูนิเวิร์ส”
แอบคาดหวังเซอร์ไพรส์จากเจ้าบ่าวมั้ย?
นิ้ง “ไม่รู้ เซอร์ไพรส์มาเยอะมากเลยตั้งแต่ขอแต่งงาน เขาเป็นคนชอบเซอร์ไพรส์จนนิ้งคิดมุกไม่ออกแล้ว”
หลังจากนี้วางแผนชีวิตคู่มีลูกเลยมั้ย?
เจได “คงเป็นปีหน้าครับ เพราะเราอยากจะเที่ยวกันก่อน จำนวนขั้นต่ำน่าจะ 1 คน แต่ที่เราคุยกันไว้ก็อยากมีสัก 4 คนครับ”
นิ้ง “ต้องมีก่อนนิ้งอายุ 30 นะ นิ้งจะได้ฟิตหุ่นได้ อยากเป็นคุณแม่หุ่นแซ่บ”
เรื่องการทำงานตอนนี้?
นิ้ง “ตอนนี้นิ้งช่วยงานพี่เจไดเต็มตัวมาสักพักแล้วตั้งแต่ประกวดมิสยูนิเวิร์สเสร็จ มาช่วยครอบครัวพี่เจไดมี 2 ธุรกิจหลัก คอยดูการเงินให้เขา”
มีแพลนเปลี่ยนคำนำหน้ามั้ย?
นิ้ง “เปลี่ยนค่ะ ต้องเปลี่ยนแล้วแหละ เรามีการจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้ว จดกันก่อนหน้านี้วันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยังไม่ได้เปลี่ยนนามสกุล แต่เดี๋ยวต้องไปเปลี่ยนค่ะ”
เจได “เรื่องฤกษ์เราไม่ได้อะไรมาก แต่เห็นเป็นวันตัวเลขสวย อย่างวันนี้จัดงานแต่งวันที่ 27 เลขนี้เป็นวันเกิดของผมด้วย เลข 2 คือสองคน เลข 7 เป็นเลขแห่งความสมบูรณ์ 2+7 = 9 ก็คือชีวิตก้าวหน้าอีก”
คุณพ่อคุณแม่ฝากฝังดูแลนิ้งยังไงบ้าง?
นิ้ง “กว่าจะผ่านด่านมาได้ก็นิดนึงค่ะคุณพ่อไม่ค่อยแฮปปี้ พี่เจไดบุกไปที่บ้านเลย แนะนำตัวว่าเป็นแฟนนิ้ง ครั้งที่ 2-3 ต่อมาคุณพ่อก็ยอมรับ ตอนแรกคุณพ่อยังสงสัยว่าชายแท้หรือเปล่า”
เจได “ตัวแม่ผมเองก็หวงลูกชายเหมือนกัน ตอนแรกก็มีสัมภาษณ์นิ้งส่วนตัวเลยว่า รักลูกแม่จริงหรือเปล่า สุดท้ายแล้วสองครอบครัวเรารักกัน ผมดีใจมากที่มีคุณพ่อคุณแม่ท่านใหม่อีก ดีใจมากๆ ครับ”
แพลนฮันนีมูนที่ไหน?
เจได “ฟินแลนด์ครับ จะไปกันอาทิตย์หน้า เพราะนิ้งมีเดินแฟชั่นโชว์จากนั้นก็ไปกันครับ”
เรือนหอ?
เจได “นิ้งจะย้ายเข้าคอนโดของผมอยู่ตรงพระราม 3 ครับ”
อยากบอกอะไรกันในวันสำคัญ?
เจได “จริงๆ ก็พูดมาเยอะแล้วนะครับ”
นิ้ง “พูดอีกได้ อยากฟังค่ะ”
เจได “ขอบคุณนิ้งที่ยอมเหนื่อยจริงๆ ยูยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเราครับ ขอบคุณมากที่ละทิ้งชื่อเสียงเกียรติยศที่จริงๆ แล้วยูมีต่อได้ ขอบคุณที่ละทิ้งอะไรมากมายที่อาจจะดีกว่าอยู่กับพี่ก็ได้ แต่ยูก็เลือกครอบครัวของเรา เลือกที่จะเชื่อมั่นในความไม่ปกติของพี่ รักและยอมรับในตัวพี่ เชื่อมั่นในส่วนดีของพี่และครอบครัวของพี่ ขอบคุณที่จะยืนเคียงข้างกันจากวันนี้จนกว่าวันที่พระเจ้าจะพาเรากลับบ้านครับ”
นิ้ง “นิ้งก็เช่นเดียวกันค่ะ ขอบคุณที่พี่ทนความบ้าบิ่นและความดื้อของนิ้งได้ เราเป็นสายเลือดนักสู้เหมือนกัน ขอบคุณที่คอยอยู่เคียงข้างในเรื่องทุกข์สุขซับพอร์ตตลอดแม้กระทั่งช่วงที่อยู่มิสยูนิเวิร์ส เพื่อนนางงามรู้จักคุณพี่ไปหมดเลย คอยให้กำลังใจ ส่งขนมให้ตลอดเลย เป็นผู้ชายที่นิ้งไม่คิดว่าจะเจอ แต่พระเจ้าก็ส่งพี่มา สัญญาว่าจะปกป้องคุ้มครองให้พี่มีความสุข จะเป็นแม่ที่ดี เป็นภรรยาที่ดีค่ะ”
