Gossipstar ข่าวดารา ข่าวบันเทิง จันจิ จันจิรา จันจิ ไกอา มาริโอ้ เมาเร่อ

รักก็ปัง งานก็ดีเวอร์ จันจิ เผยจับธุรกิจของขลัง!!

Home / Hot Gossip / รักก็ปัง งานก็ดีเวอร์ จันจิ เผยจับธุรกิจของขลัง!!

  จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสาวที่น่าอิจฉาที่สุดในขณะนี้ สำหรับดาราสาว จันจิ จันจิรา หรือ จันจิ ไกอา เพราะอย่างที่ทราบ เธอเป็นเพียงคนเดียวที่ได้หัวใจของ “ทองเอก” หรือหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ พระเอกฮอตเบอร์แรงที่สุดในตอนนี้ไปครอง เรื่องความรักปังขนาดนี้ เรื่องงานก็ไม่ธรรมดานะจ๊ะขอบอก ยิ่งช่วงนี้ถ้าเห็นเธอใส่ตะกรุด เครื่องรางเต็มไม้เต็มมือก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะของขลังเหล่านี้เป็นธุรกิจของครอบครัวที่กำลังบูมสุดๆ ได้เจอสาวจันจิที่งาน Infinity clinic by dr.palm เจ้าตัวก็อัปเดตให้ฟังกัน บอกลูกค้าพูดกันปากต่อปากจนแทบไม่ต้องโปรโมทแล้ว ซึ่งเธอเองก็มีส่วนช่วยเกือบทุกขั้นตอนเลยทีเดียว แหม… เห็นเป็นสาวเจนใหม่แบบนี้ก็เล่นของกับเค้าเหมือนกันนาจา เอาเป็นว่าโปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล ไปติดตามรายละเอียดกันได้เลยจ้า พร้อมอัปเดตเรื่องหัวใจกับหนุ่มโอ้กันด้วยในช่วงท้าคลิป!

  ”จุดเริ่มต้นธุรกิจ จริงๆ เป็นของที่บ้านทำมาตั้งแต่รุ่นอาม่า เป็น 10 ปี 20 ปี แล้ว ก่อนจันจิจะเกิดอีก แล้วในเรื่องของเศรษฐกิจในเรื่องของจิวเวอร์รี่มันไม่ได้บูมขนาดนั้น คุณอาเขาก็เลยสรรหาอะไรที่กำลังฮิต อย่างในเรื่องของหินสี หินพลังงานฮิต ร้านเราก็มีปรับเอาไปขาย แล้วพอมันซาลงเราก็กลับไปขายจิวเวอร์รี่เหมือนเดิม แล้วก็พยายามหาอะไรใหม่ๆ มาขาย พี่สาวก็เลยช่วยออกแบบ แต่ด้วยความที่เขาจบศิลปากร งานก็จะติสท์นิดหนึ่ง คนก็เก็ทยาก มันจะออกร็อคๆ นิดหนึ่ง มันก็เลยซา เลยพักไว้แปบหนึ่ง แล้วพอมาเมื่อต้นปีที่แล้ว เหมือนคุณอาเขาชอบเรื่องการทำบุญ มีพวกของขลัง ก็เลยลองเอามาผสมกันมั้ย ตอนแรกที่บ้านก็แบบจริงเหรอ เอามาผสมกันจริงเหรอ เพราะก็สงสัยกันว่ามันจะดีเหรอ พี่สาวก็เลยออกแบบเอาแบรนด์ lovd ที่ทำอยู่แล้วมาผสมกัน จนมีลูกค้ามาถามก็เลยเริ่มให้บูชาไป มันก็เลยเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นตั้งแต่ปีที่แล้ว และเกิดการบอกต่อปากต่อปาก จนมาถึงตอนนี้”

  ”คือด้วยความคุณอาเขาอยากทำบุญด้วย คือเอาจริงๆ ร้านเราเอาเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญต่อที่วัด ลูกค้าทุกคนที่รับบูชาไปก็จะได้เอาเงินส่วนนั้นไปทำบุญด้วย เหมือนการทำจิวเวอร์รี่บวกบุญด้วย บวกความสวยงามด้วย ก็จะมีพุทธคุณที่ช่วยเหลือคนด้วย เพราะบางคนเขามาด้วยความแบบเขามีปัญหาจริงๆ คือจันจิเองก็จะไปช่วยขายหน้าร้าน ช่วยนั่งร้อยสร้อย แล้วเจอบางคนเขามีปัญหา ไม่รู้จะแก้ยังไง เขาก็มาคุยกับเราจะรับชิ้นไหนไป แล้วพอเขาดีเราก็แฮปปี้ เรารู้สึกว่าเฮ้ยๆ เขาดีนะ ไม่ใช่รับไปแล้วหายไปเลย”

  ”ฟีคแบค ดีค่ะไปจากที่คนคิดว่ามันน่ากลัว กลายเป็นว่าตะกรุดที่คนคิดว่ามันน่ากลัว ใช้ได้เฉพาะผู้ชายแต่กลายเป็นช่วงแรกผู้หญิงนิยมมาก แต่ผู้ชายยังคิดว่าใส่แล้วจะดีเหรอ มันจะดูเยอะไปมั้ย ตอนนี้ปัจจุบันลูกค้าทั้งหญิงและชายพอๆ กันเลย คือมันไม่ได้ดูน่ากลัว มันดูเป็นงานดีไซน์ที่สวยด้วย เพราะทางร้านเราจะมีพนักงานนั่งร้อย นั่งทำสร้อย พนักงานทุกคนทำด้วยใจ ตัวจันจิเองก็ไปนั่งร้อย ขาดเราก็มาซ่อมให้เขา กรอบแตกเราก็รับซ่อม ไม่ใช่ให้เขาบูชาไปแล้วจบ แต่ถ้าเขากลับมามีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเครื่องรางเราก็ดูแล เหมือนเป็นบริการหลังการขาย ส่วนช่วยก็มีหมดเลยทุกด้าน แต่ว่าแล้วแต่ว่าวัดไหนจะถนัดเรื่องอะไร ซึ่งมีหลายวัดค่ะเพราะว่าพุทธคุณของแต่ละที่พระบางท่านเขาก็จะเด่นเรื่องนี้ๆ เรื่องนั้น”

  ”คนเริ่มตรงนี้ก็คือคุณอา ใช่ค่ะ คุณอาเขาจะชอบเรื่องทำบุญตั้งนานแล้ว เขาก็เหมือนไปเจอเซียนพระต่างๆ ไปเจอคนที่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องรางของขลังด้วยว่าที่ไหนดีอะไรอย่างเนี้ยค่ะ ก็ไปหามา ส่วนเรื่องดีไซน์พี่สาวจันจิเป็นคนทำค่ะ เป็นคนออกแบบ แล้วก็ช่วยกันขายกับน้องสาวที่เป็นลูกของคุณอาอีกทีหนึ่ง ชื่อเจนนี่ ก็ช่วยกันทำ เป็นแบบผู้หญิง 3 คน ช่วยกันทำ ตัวจันจิเองช่วยขายกับโปรโมท แต่โปรโมทเบาๆ ไม่ต้องโปรโมทเยอะแล้ว เพราะว่าเหนื่อยมาก ทุกคนอยากได้ คืออย่างที่บอกว่าทุกคนที่รับไปแล้วช่วยรีวิว เขาจะบอกปากต่อปากกัน แบบเฮ้ยๆ แกพาเพื่อน พาพ่อแม่มา มาจากต่างจังหวัดแบบเก็บเงินเป็นฟ่อนเพื่อจะมารับบูชา หรือเด็กก็มี คือเด็กจริงๆ เขาศึกษามาดีมาก มารับบูชา เพราะเขาเรื่องนี้อยู่แล้ว มันเป็นอะไรที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่”

  ”ดูเป็นธุรกิจที่มาแรง มาแรงแหละๆ เพราะก็มีหลายเจ้าที่เขาทำ คือเจ้าไหนที่ทำแล้วดีไซน์ต่างกันเราโอนะคะ แต่อาจจะรู้สึกเสียใจแทนพี่สาวหน่อย เพราะเค้าแต่ละงานเขาผ่านการคิดมา แล้วเขาเป็คนติสท์ ติสท์จริงๆ เพราะเขาเป็นคนออกแบบ มันก็เลยเสียใจว่าทำไมต้องมีคนเลียนแบบ แค่ตรงนั้นแหละค่ะ แต่เรื่องเครื่องรางของขลังเราไม่กั๊กกันอยู่แล้ว มันเป็นของที่ใครจะรับไปบูชาเราก็ยินดี ถ้าสมมุติลูกค้าที่เขารับจากร้านอื่นๆ แล้วเขาแฮปปี้ ก็คือแฮปปี้ ไม่ได้มีปัญหา แค่ในเรื่องดีไซน์แค่นั้นแหละ”

  ”มีคนก๊อปปี้ ลองไปเปิดดูค่ะ มันจะมีขึ้นเลย โดยที่เราไม่ต้องไปหาเอง มันจะมีขึ้นโปรโมท แต่จันจิไม่รู้ว่าถ้าเขาให้ลูกค้าไปแล้ว และเขาได้นำเงินตรงนั้นไปทำบุญรึเปล่า เพราะจันจิรู้สึกว่าถ้าเราได้ เราก็ต้องให้คืนกับสิ่งที่ได้รับมาบ้าง ไม่ใช่แค่รับมา และก็รับๆ อย่างเดียว”

  ”จะมีแบ่งเงินไปทำบุญด้วย ก็ช่วงนี้จะมีไปทำบุญทางวัดค่ะ แต่ก็มีทางลูกค้าแนะนำว่าให้ไปทำกับทางโรงพยาบาล คุณอาก็รับรู้เรื่อง ถ้ามีโอกาส จังหวะเวลาก็จะไปค่ะ คุณอาก็จะเป็นคนที่จะไปหาพระตามวัดต่างๆ ไปไหว้ ไปบูชาอะไรอย่างนี้ค่ะ เอาเครื่องรางไปปลุกเสก รวมถึงเรื่องการคุมการดีไซน์ เพราะจะมีช่างของทางวัดอยู่ด้วย แต่เราอาจจะขอให้มันเล็กลงหน่อยได้มั้ย เพราะบางคนเขาอาจอยากได้ขนาดเล็กเพื่อที่เขาจะได้สะดวกเวลาที่เขาทำงาน บางทีเขาไม่สามารถที่จะพกเครื่องรางของขลังได้แบบชัดเจน”

  ”สามารถใส่เป็นแฟชั่นได้ ใช่ๆ เนี่ยอย่างที่คอจันจิใส่ ก็เป็นดีไซน์ที่น่ารักมาก เพราะมันเป็นรูปหัวใจ ส่วนสร้อยทางร้านก็มีให้ซื้อ มันก็น่ารัก แล้วลูกค้าสามารถรีเควสได้ แต่มันอาจจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนั้น แต่ถ้าส่วนทั่วๆไปแล้ว ถ้าใครรับบูชาก็จะมีหินให้ฟรีอยู่แล้วค่ะ ไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าใครมีหินของตัวเองที่สวยๆ หรือหินในช่วงที่ฮิตๆ เอามาร้อยได้ เพราะเขาอาจจะแฮปปี้กว่า หรือหินที่มูลค่าแพงกว่าของบางชิ้น อย่างเช่นไหมทองแพงมาก”

  ”ในส่วนราคา ก็จะขึ้นในอินสตราแกรมอยู่แล้ว ก็จะแล้วแต่บางชิ้น คือของแต่ละชิ้นจะมาในราคาประมาณหนึ่ง แต่มันจะมีค่าช่าง ค่าดีไซน์ ออกแบบต่างๆ ค่าพนักงานก็นั่นรวมมาเป็นหนึ่งชิ้น ราคาก็จะมีตั้งแต่ 990 บาท จนสูงขึ้นไป แล้วแต่ว่าของนั้นมันเป็นของที่หายากรึเปล่า มันก็จะสมเหตุสมผล เพราะในเรื่องของดีไซน์ เรื่องจิวเวอร์รี่มันต้องนิดหนึ่งค่ะ มันไม่ใช่แบบสักแต่ทำๆ มันผ่านกระบวนการคิด คือของทำมือแต่ละชิ้นมันไม่ใช่แค่แบบทำสำเร็จรูปแล้วมาต่อๆ กัน เขาทำทีละชิ้นจริงๆ เพราะของแต่ละชิ้นกว่าจะได้มาลูกค้ารอนานมาก เพราะบางทีเอาไปส่งซ่อมกว่าจะได้เป็นเดือน เพราะออเดอร์ที่ต้องทำมารองรับลูกค้าเครื่องรางมันยังไม่เสร็จเลย เราก็เลยไม่รับเอาเครื่องรางของเขาเข้ามาทำกับร้านเรา เพราะของเขาอาจจะราคาสูง หายาก แล้วถ้าเราเอามา แล้วทำของเขาพังหรือหายก็ไม่รู้จะทำยังไง แล้วบวกกับต้องรอด้วย ใช้เวลานาน เพราะฉะนั้นเราจะไม่รับของลูกค้ามาทำ เราจะเอาของเราให้ลูกไป เพื่อความสบายใจ”

  ”แบบที่คนนิยมสุด หูยยยๆ เอาแบบเบสิคเลย แบบคนที่เขาไม่รู้ แต่อยากมีเครื่องรางของขลังเป็นของตัวเองก็จะมีสีผึ้งเป็นหลอดเล็กๆ แล้วก็จะมีแมลงภู่ เพื่อป้องกันภัย แล้วก็จะมีหน้าพราน เพื่อให้เพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้าเอ็นดู รักใคร่ จะเป็นแนวเมตตามหานิยมซะส่วนใหญ่ค่ะ แล้วนอกนั้นก็แต่คนเลย แล้วราคามันก็จะสูงขึ้นตามความนิยมของเครื่องรางนั้นๆ ในแต่ละวัดอยู่แล้วด้วยค่ะ”

  ”ถ้าสนใจติดตามได้ที่ไหน ก็ดูได้ที่ leila_amulet ค่ะ แล้วก็อยากให้คนคิดว่ามันเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจละกัน ไม่ใช่ของที่จะมาแก้ปัญหาชีวิต เพราะบางคนเอาไปแล้วแบบคิดว่าแก้นู่นนี่ได้ แต่จริงๆ จันจิว่ามันเกี่ยวกับจิตใจเราด้วยนะคะว่า ถ้าสมมุติเราเอาไปทำเรื่องที่ไม่ดี มันก็ไม่ดีจริงๆ คือถ้าเราคิดไม่ดี ทำไม่ดี อะไรมันก็ไม่ดี แต่ถ้าเราคิดบวก มีความตั้งใจ หรือรับของไปแล้วเฮ้ยๆ รู้สึกฮึดขึ้นมามันก็จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น คือไม่อยากให้คิดว่าเครื่องรางของขลังมันช่วยทุกสิ่งในชีวิต แต่มันอาจจะช่วยเสริมให้เรามีพลังขึ้น” จันจิ กล่าว

 

จันจิ ไกอา
จันจิ ไกอา