ตกเป็นข่าวแรงๆ อีกครั้งสำหรับหนุ่มเจ้าสำอาง ท๊อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ที่ล่าสุดได้เลิกรากับหวานใจ นางแบบสาวหุ่นแซ่บ ไพลิน โอลเซ่น ที่ฝ่ายหญิงเคยโออกมาพสต์ฉะทางไอจีสตอรี่ ว่าได้แต่ของปลอม และไม่เคยเรียกร้องให้ซื้อรถ หลังจากมีข่าวลือหนาหูแนวอักษรย่อ ว่ามีไฮโซหนุ่มรายหนึ่งไม่แฮปปี้ ที่แฟนนางสาวแบบลามปามไปถึงพ่อ และเรียกร้องให้ไฮโซหนุ่มซื้อรถให้ ล่าสุดทางด้านหนุ่มท๊อปได้เดินทางไปร่วมงาน Pava Gift Collection เปิดตัวคอลเลคชั่นพิเศษ ณ ร้าน Pava ชั้น M Shoes & Eags Salon Siam Paragon ซึ่งเจ้าตัวจึงเผยถึงเรื่องนี้แบบจัดเต็มว่า
ข่าวเรื่องเลิกกับไพลินแล้ว
“เราก็เลิกกันมาตั้งแต่เดือนกันยายนแล้วครับ ตั้งแต่ช่วงวันเกิดผม”
สาเหตุที่เลิกเพราะอะไร
“ก็รู้สึกว่ามันไปต่อไม่ได้แล้วครับ”
เป็นอย่างในข่าวมั้ยที่ว่าจะซื้อรถให้พ่อ แล้วไพลินขอด้วย
“ถ้าคนที่รู้จักผมก็จะรู้ว่าอะไรเป็นยังไง ผมเป็นผู้ชายก็ไม่อยากจะพูดถึงสาเหตุที่มาที่ไป แต่เอาเป็นว่ามันก็เป็นเรื่องที่เสียใจด้วยกันทั้งคู่นะครับที่มันไปต่อไม่ได้ เราก็ตั้งใจทำให้มันดีที่สุด แต่มันก็มีเหตุการณ์ที่เราคงจะจูนกันต่อไปไม่ได้จริงๆ”
ก่อนเลิกกันมีการพยายามปรับความเข้าใจกันก่อนมั้ย
“ก็พยายามปรับจูน และครั้งสุดท้ายที่มีการคุยกันก็ค่อนข้างชัดเจนมากครับว่าเราคงจะมองไม่เหมือนกัน”
ข่าวว่าสาเหตุมีเรื่องของพ่อเราเข้ามาเกี่ยวข้อง
“ก็มีหลายเหตุการณ์ หลายปัจจัยที่ทำให้เราเห็นหลายอย่างขัดเจนขึ้น”
เราเป็นคนถอยออกมาเองมั้ย หรือเขาเป็นฝ่ายไป
“น่าจะเป็นผมนะครับ ผมก็ชัดเจนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอยู่แล้ว เราก็ไม่อยากจะเสียเวลาเขาหรือว่าเรา ความจริงผมไม่อยากจะพูดมากเรื่องนี้ ผมเป็นผู้ชายก็ไม่ควรจะพูดเยอะ มันก็เสียความรู้สึกทั้งคู่อยู่แล้ว และเหตุมันก็เกิดมาหลายเดือนแล้วเหมือนกัน”
มันเกิดจากการกระทบกระทั่งกันในครอบครัวหรือเปล่า
“ตอนนั้นมันก็ผ่านมาแล้วนะ แต่ ณ ตอนนี้ไม่ว่าจะตัวผมเองหรือครอบครัวผมไม่อยากจะมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับผู้หญิงคนนี้แล้วครับ อยากจะแยกให้ชัดเจน แล้วผมก็ไม่อยากจะพูดถึงเขาอีกต่อไป”
ข้อความที่เขาโพสต์เราได้เห็นมั้ย
“เห็นครับ คือผมก็มีหลักฐานทุกอย่างหมดอยู่แล้วครับ เราเป็นผู้ชายก็อย่าให้พูดมากไปกว่านี้เลย อยากให้เรื่องมันจบแล้วครับ”
มีความจริงบ้างมั้ยที่เขาพูดว่าเราให้แต่ของปลอม
“(หัวเราะ) ผมว่าคนที่รู้จักผมก็จะรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ผมทำธุรกิจขนาดนี้ ให้กับแบรนด์ขนาดนี้ การใช้ของพวกนั้นมันเป็นไปไม่ได้ครับ ถ้าพูดกันตรงๆ ว่าของที่เราให้ไปถ้ามันไม่จริง จะใส่โชว์ถ่ายทำไม มันก็ไม่น่าภูมิใจมั้ย (ยิ้ม) เอามาคืนก็ได้นะ เพราะมีเยอะมากที่เอาไป”
เสียใจมั้ยที่เขาโพสต์แบบนี้
“ค่อนข้างเสียใจมาก เพราะเราเข้าใจว่าเวลาที่ผ่านมามันเป็นเวลาที่ดีทั้งคู่ ถึงแม้จะเลิกรากันไป เราต่างคนต่างรู้ว่าเหตุผลมันคืออะไร มันไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องทำร้ายใคร และมันผ่านมาแล้ว ต่างคนต่างก็เริ่มใหม่แล้ว แต่มันก็เห็นชัดเจนนะว่าเขาปิดหนีไปแล้ว เขาทำเสร็จเขาก็หนีไปเลย เพราะแน่นอนมันมีเรื่องของกฎหมายที่สามารถเอาผิดได้”
เราได้ติดต่อกลับไปมั้ยหลังจากที่เขาโพสต์
“ไม่ครับ ผมไม่อยากจะคุยกับเขาตั้งแต่วันที่เราแยกกันแล้วครับ ผมว่ามันชัดเจนมากแล้ว”
แสดงว่าจบกันไม่ดี
“ไม่ขนาดนั้นครับ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นผมก็ไม่อยากจะไปอะไรมากแล้ว เพราะเรากับเขามันอยู่คนละที่กันแล้วครับ ผมเป็นคนจริงใจกับความรู้สึกผมทุกอย่างและทุกคนที่อยู่รอบข้างผม ดังนั้นเรื่องที่เกิดแบบนี้ก็ค่อนข้างผิดหวังและเสียใจพอสมควร”
คนมองว่าเราเป็นคนปล่อยข่าว
“เขาอาจจะมองแบบนั้นก็ได้นะครับ ผมคิดว่าเขาคงจะเสียใจ ผมก็ขอโทษที่ข่าวมันหลุดออกไป แต่ความเป็นจริงแล้วไม่มีการคอนเฟิร์มอะไรทั้งสิ้นเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แล้วเขาก็ไม่ได้พูดว่าเป็นชื่อใคร ผมก็อยู่เงียบๆ ของผมไป เพราะข่าวที่ออกไปมันก็ไม่ได้ดูดีสำหรับครอบครัวผมเหมือนกัน”
ข่าวนี้มันกระทบกับงานเรามั้ย
“มีเหมือนกันนะครับ แต่เราคิดว่าคนที่รู้จักเราหรือคนที่ทำงานกับเราคนที่อยู่รอบข้างเราก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ มันเป็นยังไง เราก็หวังว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำมาตลอดคนจะรู้ว่าเราเป็นยังไงครับ”
ตอนนั้นคิดถึงขั้นฟ้องร้องมั้ย
“คิดครับ เตรียมข้อมูลแล้วด้วยครับ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทำอะไร ถามว่าจะเปลี่ยนใจฟ้องมั้ย ผมก็ยังไม่ทราบ คือจริงๆ มันก็ทำได้ แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องที่เด็ก และไร้สาระพอสมควรครับ”
ก็ถ้าเขาจบเราก็จะจบใช่มั้ย
“จริงๆ ผมจบมานานมากแล้วนะ ผมค่อนข้างชัดเจนมากในการจบครั้งนี้ของผม ก็ไม่เคยชัดเจนกับใครขนาดนี้มาก่อน แต่แน่นอนว่าอีกฝ่ายนึงคงจะเสียใจ แต่การเสียใจของเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำอะไรแบบนี้ครับ ตัวผมและครอบครัวก็อยากให้จบจริงๆ ก็คุยกันอยู่ว่าอยากให้มันผ่านไป”
แสดงว่าตอนนี้อยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะฟ้องมั้ย
“ตัดสินใจไปแล้วนะครับ มีเตรียมหมดทุกอย่างแล้ว ผมว่าเขาก็ทราบ ถึงได้ปิดไอจีหนีไปแล้ว แต่ผมไม่อยากทำ”
แสดงว่าตัดขาดแล้ว
“ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้อีกเลย ผมไม่อยากทำ”
ตอนนี้ยังโสดมั้ย
“โสดครับ (ยิ้ม) ตอนนี้เรียกว่าเข็ดดีกว่าครับ (ยิ้ม) เข็ดมาก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับปิดใจหรอกครับ แต่ค่อนข้างเข็ด ตอนนี้ไปไม่ค่อยเป็น ไม่รู้ว่าจะไปแนวไหน เพราะว่าผมก็ตั้งใจมากๆ กับรักครั้งนี้ครับ ผมคิดว่าคนที่อยู่รอบข้างผมก็คงจะรู้ และผมก็พร้อมที่อยากจะมีครอบครัวแล้ว แต่การที่ผมได้เจอเหตุการณ์แบบนี้มันทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างเหมือนกันครับว่ามันคงยังมีคนคิดไม่เหมือนเราอีกหลายคน”
ตอนนี้ต้องระวังตัว ระวังใจมากขึ้นมั้ย
“ตอนนี้ก็รู้แล้วครับว่ามันมีแบบนี้ ก็เรียนรู้แบบรู้สึกจริงๆ แล้วว่าอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ครับ”