เพิ่งออกมาพูดใน Vlive ไปหมาดๆ สำหรับพระเอกหนุ่ม มิว ศุภศิษฏ์ ถึงการตัดสินใจยกเลิกรับงาน Top Spender ซึ่งอาจทำให้สูญเสียโอกาสงานและรายได้ที่จะเข้ามาในอนาคตอีกมากมาย รวมถึงขอร้องแฟนคลับงดทุ่มเงินโหวตเพื่อรับรางวัลต่างๆ
ล่าสุดมีโอกาสเจอ หนุ่มมิว ควงคู่จิ้น กลัฟ คณาวุฒิ มาเป็นสะพานบุญระดมทุนเพื่อผู้ป่วยเด็ก มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก ในงาน Little Miracle presents Happiness Live with Mew & Gulf เลยได้เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าว
มิว ศุภศิษฏ์ เผยว่า ตกใจหลังทราบยอดเงินของแฟนคลับทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ทุ่มโหวตสูงถึง 10 ล้านบาทเพื่อรางวัลพระเอกดาวรุ่ง และอีก 11 ล้านบาทเพื่อรางวัลคู่จิ้น โดยเจ้าตัวขอบคุณทุกความตั้งใจของแฟนๆ พร้อมชี้แจงเหตุผลว่า ไม่อยากทำให้ทุกคนลำบากและอยากให้สนับสนุนที่ผลงานและตัวเขามากกว่า
พูดถึงเงินโหวต 10 ล้านเพื่อรางวัลพระเอกดาวรุ่งให้เรา
“อย่างแรกคือรู้สึกขอบคุณมากเลยครับที่แฟนๆ สนับสนุน ให้กำลังใจเชียร์เรา ขอบคุณในความตั้งใจของทุกคนด้วยที่ตั้งใจโหวตมาเพื่อผม ให้ผมได้รางวัลนี้ อีกอันนึงคือรู้สึกว่าไม่อยากให้มีแบบนี้ เพราะรู้สึกว่าเรานำเงินส่วนนี้ไปสนับสนุนผมในด้านอื่นๆ ได้ อยากให้มาสนับสนุนผมที่ตัวผมเอง รู้สึกว่ามันสามารถเอาไปทำอะไรอย่างอื่นได้อีกในหลายๆ อย่างครับ”
ตอนที่เราทราบยอดโหวตตกใจมั้ย
“ตกใจมากจริงๆ ตกใจด้วย ดีใจด้วย ก็มีหลายความคิดครับ โอกาสนี้มันผ่านไปแล้วก็ขอบคุณมากจริงๆ แต่ในโอกาสหน้า ขอแล้วกันว่าไม่อยากรับแบบนี้อีกครับผม”
รู้สึกเสียดายยอดเงินที่แฟนคลับมาทุ่มโหวตให้เรามั้ย
“ถามว่าเสียดายมั้ย ถ้าในอนาคตคงเสียดายเพราะเรายังไม่เคยพูดไง แต่ว่าในตอนนี้ผมไม่เสียดาย เพราะทุกคนทำเต็มที่ให้ผม”
ถ้ามองอีกมุมนึงคือแฟนคลับซัพพอร์ตเรามาก
“ใช่ อันนี้ต้องขอบคุณเป็นอันดับแรกเลย เพราะทุกคนตั้งใจสนับสนุนมากจริงๆ”
ยอดโหวตรางวัลเดี่ยวของเรา 10 ล้าน และยอดโหวตรางวัลคู่จิ้นอีก 11 ล้าน รวมเป็น 21 ล้าน
“เยอะมากๆ เลยครับ ตกใจมากจริงๆ ขนลุกอ่ะตอนรู้ยอด”
ถ้าเป็นไปได้อยากนำเงินส่วนนี้ไปทำอะไรมั้ย
“อันนี้ผมไม่รู้เหมือนกัน เพราะเป็นเงินในส่วนของแฟนๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาสามารถสนับสนุนในด้านไหนได้บ้างครับผม แต่ว่าอันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน คิดว่าอย่างอื่นน่าจะโอเคกว่าครับ”
วันนั้นที่มิวออกมาไลฟ์ แฟนคลับเข้าใจแค่ไหนยังไงบ้าง
“แฟนคลับเค้าก็เข้าใจ เค้าก็รู้สึกว่าคราวหน้าเราลองสนับสนุนที่ตัวผมเองดีกว่า เรื่องเงินต่างๆ อยู่ที่แฟนๆ แล้วกันว่าเค้าจะจัดสรรปันส่วนกันยังไง แต่ว่าที่ผ่านมาแล้วก็อยากขอบคุณมากจริงๆ ไม่เสียดายเลยนะครับ”
รู้สึกมั้ยว่าพลังแฟนคลับเรายิ่งใหญ่มาก
“เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ สุดยอดจริงๆ ครับผม”
คิดมั้ยว่าวันนึงเราจะมาเจอจุดนี้
“ไม่คิดเลยว่าเค้าจะโหวตให้เรารวมกัน 2 คน 21 ล้านได้ สุดยอดมากเลยครับ จะเป็นลม (หัวเราะ)”
ถ้ายอดเงินประมาณนี้ มีลักษณะแบบนี้ อยากเอาเงินไปทำกิจกรรมอะไรบ้างในมุมมองของเรา
“โห ทุกคนเอา 21 ล้านมาทำซีรีส์ได้ทั้งเรื่องอ่ะ ทำได้ทั้งเรื่องจริงๆ งานดีเลยนะ 21 ล้าน สมมติว่าหาร 12 ตอน ตอนละเกือบ 2 ล้านเลยนะทุกคน โปรดักชั่นสเกลต่างประเทศได้เลยนะ จะเป็นผู้จัดเลยในอนาคตนะครับ”
ได้คุยกับกลัฟมั้ยพอมีข่าวออกมาแบบนี้คนจะมองในมุมดราม่า
“เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยเลย เพราะว่ามันเซนซิทีฟนะเรื่องนโยบายในการรับงานหรือการใช้เงินต่างๆ เป็นนโยบายส่วนบุคคลแล้วกัน ก็เลยคิดว่าให้ทางน้องตอบเองดีกว่าเรื่องพวกนี้ ทางผมพูดในมุมมองผมได้ ทางเค้าก็ให้เค้าตอบแหละ”
แสดงว่าที่เราไลฟ์ไป อยากได้ความร่วมมือจากแฟนคลับ
“ใช่ กับตัวผมก่อนแล้วกัน เพราะทางน้องก็ต้องให้ทางเค้าตัดสินใจเอง เราไม่สามารถไปบังคับอะไรเค้าได้หรอก หรือไปบอกว่าควรจะทำอย่างนี้นะ อย่างที่บอกไปว่าเรื่องเงินมันเซนซิทีฟมากเลยนะครับ”
เลิกรับงานพวก Top Spender ด้วย
“ใช่ครับ เอาจริงๆ เรื่องยกเลิกการรับงาน Top Spender ประมาณเดือนนึงได้แล้ว แต่งานที่เหลืออยู่ตอนนี้เป็นงานที่ค้างอยู่ เป็นงานที่เรารับไปแล้วครับ มีปัดไปเยอะมากเลยนะ ปัดงานอีเว้นท์เต็มเลย งานพรีเซ็นเตอร์ก็ปัดไปเหมือนกัน เพราะมันเป็น Top Spender เพราะเรารู้สึกว่ารบกวนแฟนๆ ด้วยแหละ อย่างที่บอกไปในไลฟ์ตอนนั้นคือขอโทษจริงๆ ขอโทษสำหรับคนที่ชอบงานลักษณะนี้ แต่เรารู้สึกว่าอยากให้นำเงินส่วนนี้มาสนับสนุนที่ตัวเราดีกว่าครับผม”
แบบนี้ต้องปรับแผนในการเจอแฟนๆ มั้ย เพราะ Top Spender ก็อยากใกล้ชิดเรา หรือต้องจัดมีตติ้งเจอกัน
“เรามีโกลเด้นทิกเก็ตอยู่แล้วสำหรับอัลบั้ม ได้ใกล้ชิดมากกว่าอีกผมว่า ต้องรอเลยครับ เพราะงานโกลเด้นทิกเก็ตที่จะได้มาไซน์อัลบั้มเนี่ยก็จะเปิดเร็วๆ นี้แล้ว รอติดตามกันด้วยนะครับ จะได้มาเจอกันแบบใกล้ชิดเลย”
