นักธุรกิจสาวชื่อดัง เจน วิรสุรางค์ เข้าร้องเรียน ปอท. พร้อมแจ้งความ สน.คันนายาว หลังถูกสาวนิรนามปลอมเฟซบุ๊กโชว์หวิว ตั้งเงินรางวัลครึ่งแสนหาเบาะแส เรียกว่างานเข้าจนต้องโร่แจ้งความก่อนที่จะเสียไปมากกว่า เมื่อมีคนสนิทแจ้งไปยัง เจน วิรสุรางค์ ศศิอานนท์ กรรมการบริหารและผู้ถือหุ้น บริษัท บางกอกเพย์ จำกัด ผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่และตู้เติมเงิน AJ และ CEO บริษัท ศศิอานนท์ ผลิตภัณฑ์น้ำหอม LaMus ว่า เฟซบุ๊กของเธอ ถูกสาวนิรนามหุ่นเซ็กซี่ปลอม โดยใช้ชื่อและนามสกุลเดียวกันคือ วิรสุรางค์ ศศิอานนท์ ซึ่งเมื่อเข้าไปส่องดูในเฟซบุ๊ก ปรากฏว่ามีการโพสต์ภาพซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพโชว์หวิวของสาวเซ็กซี่นิรนาม ทั้งนี้อาจสันนิษฐานได้ว่า ผู้ปลอมเฟซบุ๊กอาจเป็นสาวผู้นี้หรือมีบุคคลอื่นนำภาพของสาวเซ็กซี่ผู้นี้มาโพสต์ลง โดยที่เจ้าตัวไม่ทราบ เป็นผลให้คุณเจนได้รับความเสียหายและเสียชื่อเสียง ดังนั้นจึงได้เข้าร้องเรียน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) และสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว กรุงเทพมหานคร เพื่อแจ้งความดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
เจน วิรสุรางค์ เผยว่า “ต้องขอขอบคุณกัลยาณมิตรที่รีบติดต่อตนเพื่อแจ้งเรื่องการถูกปลอมเฟซบุ๊ก จึงรีบเข้าไปดูเฟสบุ๊กที่ถูกปลอมเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นชื่อและนามสกุลของเรา พอเช็คว่าเป็นชื่อและนามสกุลของเราอย่างถูกต้องแล้ว ก็รู้สึกตกใจมาก เพราะเคยเห็นแต่คนอื่นถูกปลอม ไม่คิดว่าจะโดนเข้ากับตัว เมื่อเขาปลอมเฟซบุ๊กเราถือว่าเขามีเจตนาที่ไม่ดีอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่าปลอมมานานแค่ไหน และไปหลอกลวงสร้างความเสียหายกับใครมาบ้าง ซึ่งเราเสียหายและเสียชื่อเสียงเต็ม ๆ ก่อนที่จะเข้าแจ้งความกับ ปอท. และที่ สน.คันนายาว ได้พยายามติดต่อไปยังผู้ปลอมเฟซบุ๊กรายนี้ เมื่อติดต่อได้แล้วจึงร้องขอให้เลิกทำและลบเฟซบุ๊กปลอมออก แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับความร่วมมือแต่อย่างใด ยังทำการโพสต์ภาพไปในทางเซ็กซี่และยั่วยวน อีกทั้งยังแอดเฟรนด์กับเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กของเราด้วย บางคนก็ทักถามว่าเราเปลี่ยนเฟซบุ๊กใหม่หรือ คนปลอมเฟซฯ ก็ตอบว่าใช่ เป็นแบบนี้จึงต้องเข้าแจ้งความ เพราะชื่อนามสกุลของใครใครก็รักและหวง ไม่ต้องการให้คนอื่นนำไปสร้างความเสียหายให้เสื่อมเสียชื่อเสียง”
คุณเจนได้เดินทางไปร้องเรียนที่ ปอท. จากนั้นได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีต่อที่สถานีตำรวจนครบาลคันนายาว โดยแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในคดีนี้ ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามมาตรา 328 และ 397 ให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุดต่อไป เพื่อไม่ให้ไปกระทำกับบุคลอื่นใดๆ อีก แล้วเพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างรวดเร็ว เป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่นในอนาคต ตนเองจึงได้ตั้งรับรางวัลชี้เบาะแสจนกระทั่งเข้าสู่กระบวนการนำจับมาดำเนินคดีเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท สามารถติดต่อชี้เบาะแสมาที่ ไอดีไลน์ : @lamus จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูง