จากกรณีที่สมาคมศิลปินตลก(ประเทศไทย) ถูก “นางสาวฟ้า เมืองไทย” หรือ “ดารณี เจริญศิริ” เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลง “ทูลกระหม่อมแก้ว” พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินสูงถึง 500 ล้านบาท ซึ่งคดีเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2562-2563 อย่างไรก็ตาม ทางด้านสมาคมศิลปินตลกฯ ยืนยันหลักฐานในการถือครองลิขสิทธิ์เพลงอย่างชัดเจน โดยผู้แต่งคำร้องและทำนอง คือ “ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก (ปรีดา แก้วกนก)” เรียบเรียงเสียงประสานโดย “สมชาย เทียนชัย” และ บูม-ชญาภา พงศ์สุภาชาคริต(ศิลปินขับร้อง) ซึ่งเพลง “ทูลกระหม่อมแก้ว” แต่งขึ้นเพื่อถวายความอาลัย ในหลวง รัชกาลที่ 9 ในคราวเสด็จสู่สวรรคาลัย ภายใต้การดำเนินการและร่วมมือร่วมใจของคนในสมาคมศิลปินตลก แต่ทางฝ่ายโจทก์อ้างตนเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จึงนำมาสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีดังกล่าว
ทั้งนี้ระหว่างที่ต่อสู้คดีนั้นสมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย) ได้เปลี่ยนผู้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ มาแล้วถึง 3 คน ตั้งแต่ “ถั่วแระ เชิญยิ้ม” มาเป็น “หยอง ลูกหยี” และปัจจุบันคือ “โอบะ เสียงเหน่อ (นายกิตติ ปักษี)” ในที่สุดเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2566 ศาลทรัพย์สินทางปัญญา ก็ได้พิจารณายกฟ้องสมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย) ให้เป็นผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นมลทินในคดีดังกล่าว
โดยวันนี้ (10 ม.ค. 67) เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ จ.นนทบุรี สมาคมศิลปินตลก นำโดย โอบะ เสียงเหน่อ (นายกิตติ ปักษี) นายกสมาคมฯ, ถั่วแระ เชิญยิ้ม (นายศรสุทธา กลั่นมาลี) อดีตนายกสมาคมฯ, หยองลูกหยี ลูกหยี (นายหฤษพล สมจิตรนา) อดีตนายกสมาคมฯ, ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก (นายปรีดา แก้วกนก) ผู้ประพันธ์เพลง ทูลกระหม่อมแก้ว, บูม-ชญาภา พงศ์สุภาชาคริต (ศิลปินผู้ขับร้อง) พร้อมทีมทนายความ ทนายมะลิพรรล บิลหร่อหีม, ทนายทองเยี่ยม สรรพสอน และ ทนายศราวุธ เทพศร จึงได้จัดแถลงข่าวการพิจารณาของศาล ยกฟ้องสมาคมศิลปินตลก ให้เป็นผู้บริสุทธิ์ โดยมี อ.สมชาย เทียนชัย (เรียบเรียงดนตรีเพลง ทูลกระหม่อมแก้ว), จเร เชิญยิ้ม รองนายกฯ, เชษฐ์ เชิญยิ้ม, กิ๊ฟ โคกคุน, โต๋เต๋ เชิญยิ้ม, คม ซุปเปอร์โจ๊ก, โปรย ซุปเปอร์โจ๊ก ร่วมงานแถลง
ทาง โอบะ เสียงเหน่อ นายกสมาคมฯคนปัจจุบันกล่าว “ตลอดระยะเวลาที่สมาคมศิลปินตลกฯ ได้ยกสถานะจากชมรมมาเป็นสมาคมฯ โดยนายกฯ เป็ด เชิญยิ้ม (ดร.ธัญญา โพธิ์วิจิตร) จดทะเบียนถูกต้อง กิจกรรมของสมาคมฯในทุกยุคตระหนักเสมอถึงความรักชาติ ศาสนา เทิดทูลสถาบันพระมหากษัตริย์ อาทิ เมื่อปีพ.ศ. 2538 สมเด็จย่าฯ เสด็จสู่สวรรคาลัย นายกฯเป็ด ได้จัดกิจกรรมอุปสมบทหมู่สมาชิกตลก 119 ชีวิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จนมาถึงยุค นายกฯถั่วแระ เชิญยิ้ม ในครั้งที่ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ สวรรคตสู่สวรรคาลัย พวกเราได้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการจัดแต่งเพลง “ทูลกระหม่อมแก้ว” ร่วมพลังรักสามัคคีถ่ายทำเอ็มวี แต่สมาคมฯเราถูกฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์เพลง พวกเราก็ต้องปกป้องสิทธิ์ของเราตามความถูกต้อง ผมยินดีที่จะร่วมเดินหน้าไปกับท่านนายกฯถั่วแระ และนายกฯหยอง ทำในสิ่งที่ถูกต้องครับ”
ด้าน หยอง ลูกหยี กล่าวว่า “ผมมารับตำแหน่ง นายกสมาคมฯ ดำรงตำแหน่งอยู่ 1 ปี 1 เดือน สมาคมฯโดนฟ้อง ว่าเราละเมิดลิขสิทธิ์เพลงนี้ ฟ้องมูลค่าสูงถึง 500ล้านบาท รวมถึง อ.ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก ผู้แต่งเพลง , อ.สมชาย เทียนชัย ผู้เรียบเรียงดนตรี , น้องบูม ชญาภา ลูกสาวพี่ชูษี ผู้ขับร้อง ผมเลยปรึกษา ป๋าพยัพ คำพันธุ์ ป๋าเลยส่งทนายมาช่วยพวกเรา จากที่ศาลยกฟ้องเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ต้องขอบคุณทนายทั้ง 3 ท่าน ที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่มาโดยตลอด มันเหนื่อยมากครับ การต่อสู้นั้นใช้เวลายาวนานมาก จนถึงที่สุดศาลยกฟ้องพวกเรา เราเป็นผู้บริสุทธิ์ครับ”
ฝ่าย ถั่วแระ เชิญยิ้ม อดีตนายกฯ กล่าวเสริม “เหตุการณ์ที่ถูกใครไม่รู้มาเป็นโจทก์ฟ้องร้องว่าสมาคมฯ ว่าละเมิดลิขสิทธิ์เพลง “ทูลกระหม่อมแก้ว” ที่เป็นลิขสิทธิ์ชอบธรรมของทางสมาคมฯ มันเป็นอะไรที่ส่อให้เห็นถึงความไม่ชอบธรรม มันจำเป็นที่เราจะต้องสู้ หาความจริงให้ได้ เล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อหรอกครับ ว่าทางผู้ร้องจะมีความสามารถแต่งเพลงที่ใช้ราชาศัพท์ภายใน 3 นาทีได้ ในขณะที่กำลังขับรถ”
“ผมต้องกราบขอบคุณศาลที่เคารพอย่างสูง ที่เมตตา ตัดสินด้วยความยุติธรรมมาก ให้เราได้ผ่านพ้นวิกฤติที่ร้ายแรง เงิน 500 ล้านผมคงติดคุกหัวโต พวกเราต่อสู้กันมายาวนานเกือบ 4 ปีนะครับ ซึ่งหลักฐานที่เราชนะส่วนหนึ่ง คือหลักฐานของ อ.สมชาย เทียนชัย วันที่เราไปอัดเนี่ย ท่านได้เก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ มันเป็นหลักฐานสำคัญมาก ระบุวันเวลา การแก้ไขทั้งอักษรและสำเนียง ท่านเก็บไว้หมด เราก็เลยให้ อ.สมชาย เป็นไพ่ใบสุดท้าย ที่นำไปสู้กับเขา เป็นข้อมูลที่สามารถอ้างอิงให้กับศาล เราถึงได้ถูกยกฟ้องครับ”
ทางด้าน นายมะลิพรรล ตัวแทนทีมทนายกล่าวว่า : “ตามที่พี่ถั่วแระ และ พี่หยอง ได้กล่าวข้างต้น เรื่องของคดีมันมีที่มา สรุปความเป็นสาระสำคัญว่า สมาคมฯถูกกล่าวหาละเมิดลิขสิทธิ์งานเพลง ทูลกระหม่อมแก้ว โดยเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านบาท ในชั้นพิจารณาของศาล โจทก์ในคดีนี้ได้นำพยานหลักฐานทุกชนิดเข้าสืบไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุ ส่วนจำเลยก็เช่นเดียวกัน โต้แย้งให้การต่อสู้มาเสมอ ว่าเราเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ไม่ใช่โจทก์ในคดีนี้ นอกจากนี้ตัวจำเลยทั้งหมดได้นำพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ว่าเพลงพิพาทดังกล่าวที่เกิดขึ้น เป็นเพลงของสมาคมฯ ในทางพิจารณาของศาล ศาลพิจารณาจากวัตถุพยาน โดยเฉพาะที่โจทก์เขากล่าวอ้าง ว่าเพลงดังกล่าวได้แต่งขึ้นภายใน 2-3 นาที โดยบันทึกไว้ในโทรศัพท์ แต่ในทางพิจารณา ตัวโจทก์ในคดีนี้ไม่สามารถจะนำโทรศัพท์ที่กล่าวอ้างไปตรวจพิสูจน์ ทำให้ศาลเชื่อเต็มประการหนึ่ง ว่าโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับ การกล่าวอ้างว่าเพลงดังกล่าวเป็นของโจทก์ ฉะนั้นในทางกฎหมาย ถ้าภาระการพิสูจน์ตกอยู่กับโจทก์ เป็นการแสดงให้เห็น ว่าโจทก์ไม่ใช่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานเพลงดังกล่าวที่แท้จริง เมื่อประเด็นข้อวินิจฉัยเป็นอย่างนี้ โจทก์ในคดีนี้ จึงไม่สามารถจะพิสูจน์ภาระหน้าที่ ตามกฎหมายของตัวเองได้ ว่าโจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ในขณะเดียวกันตัวจำเลยทั้งหมดได้นำพยานหลักฐานเข้าสืบ เพื่อหักล้างข้อสันนิษฐานและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ความปรากฎว่าพี่ปรีดา (ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก) ได้ส่งเอกสารเป็นลายมือเขียน ที่เป็นบทเพลงดังกล่าว พร้อมกับในวันทำสตูดิโอ มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ความปรากฏว่าพี่ปรีดา ได้แต่งเพลงดังกล่าวจริง ข้อสนับสนุนหักล้างเพียงแค่นี้ เป็นข้อสาระสำคัญความหนึ่ง ตรงที่ว่าโจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จริงหรือไม่ และโจทก์เป็นผู้สร้างสรรค์จริงหรือไม่ สองประเด็นดังกล่าว จำเลยมีพยานหลักฐานครบถ้วน จึงทำให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญา มีคำพิพากษายกฟ้องคดีนี้ นี่คือความตอนที่เป็นสาระสำคัญอีกตอนหนึ่งครับ ที่สามารถเห็นเป็นประจักษ์ได้ ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ผ่านมาครับ ประการสุดท้ายในคดีนี้ จำเลยทุกคนไปศาล ไม่ได้ไปด้วยความมีความสุข แต่ไปศาลเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แสดงความบริสุทธิ์ เพื่อปกป้องตนเอง และที่สำคัญกว่านั้น คือเพื่อปกป้องสมาคมฯ รักษาศักดิ์ศรีของสมาคมฯ ว่าสิ่งที่เราทำไปทั้งหมด ไม่ได้ลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง มาจากบุคคลใดท้้งสิ้น ความยุติธรรมจึงบังเกิดขึ้นครับ”
ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก ผู้แต่งเพลงกล่าวความในใจ “ถ้าไม่ได้ความอนุเคราะห์จากทีมทนายความ และสมาคมฯ ผมก็ไม่รู้ว่าตัวผมจะไปยังไง ชีวิตตั้งแต่เกิดมาไม่เคยขึ้นศาล ไม่เคยมีคดีความ พอโดนแบบนี้ปุ๊บ ผมทำอะไรไม่ถูก ทางสมาคมฯเคียงข้างสู้คดีมาโดยตลอด ผมซาบซึ้งใจ รายละเอียดการแต่งเพลงผมใช้เวลา 3 วันในการแต่งถวายความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่จริงเพลงมันยาวกว่านี้อีก แต่นายกถั่วแระให้ตัดออก เลยออกมาตามที่เห็น มีเอกสารยืนยันถูกต้องครับว่าเป็นผู้แต่ง ผมแต่งในสมุด เขียนแล้วแก้ๆ มันมีคำที่ผิดเยอะ พวกคำราชาศัพท์แต่งลำบากครับ”
ต่อข้อซักถาม ในเรื่องของคดี คิดว่าทางโจทก์จะสู้ชั้นอุทธรณ์ต่อไหม หยอง ลูกหยี อดีตนายกฯ เผยว่า “ผมคาดว่านะ เขาจะกล้าหรือไม่กล้าก็แล้วแต่เขา แต่พอศาลยกฟ้องเสร็จ เขายกมือคัดค้าน ว่าขอคัดค้านการตัดสิน ฉะนั้นแล้วเราไม่มีอะไรจะปฏิเสธ เขามาเราก็ไป เราก็ต้องปกป้องเพื่อศักดิ์ศรีของสมาคมของเรา ทุกขั้นตอนที่เราทำ มันไม่ได้ทำง่ายๆ นะครับ คนในองค์กรของเราเทใจมาทำกัน โชคดีที่อาจารย์สมชายเก็บรายละเอียดไว้ พวกเราตั้งใจทำกันขนาดนี้ คุณเป็นใครมาจากไหน จะมาฟ้องพวกเราง่ายๆ มันก็ยากอยู่นะ เราก็ต้องปกป้ององค์กรของเรา ใจจริงเราไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรม อยากยุติ การฟ้องยืดเยื้อเป็นปีๆ มันไม่ได้มีอะไรคืบหน้า เสียเวลา เสียทั้งเงินเสียทั้งจิตใจครับ อยากให้ทุกคนที่คิดจะทำในกรณีอย่างนี้ ไตร่ตรองให้ดีสักนิดหนึ่งครับ อย่าละเมิดลิขสิทธิ์ใครว่าเป็นของเราครับ ขอบคุณครับ”