ถือเป็นเรื่องราวดีๆ อีกหนึ่งเรื่องเมื่อคุณแม่ยังสาวสุดแซ่บ ตั๊ก บงกช ลดน้ำหนักลงมากว่า 30 กิโล ภายในเวลา 9 เดือน จนหุ่นอวบอั่นกลับมาสวยเช้งเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือมีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยเจ้าตัวเผยในงานถ่ายภาพเบื้องหลังภาพยนตร์ที่ ตั๊ก นั่งแท่นกำกับเอง Sad Beauty เพื่อนฉันฝันสลาย ว่าตัดสินใจปฏิวัติตัวเองใหม่หลังจาก คุณแม่เล็ก เสียชีวิต ซึ่งคือการลดน้ำหนัก ยันไม่ได้ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย ตอนนี้เลยต้องขายเสื้อผ้าหาซื้อไซส์ใหม่มาใส่แทน ส่วนเรื่องที่ไปออกรายการหนึ่งว่าเคยคิดจะเลิกกับ เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล นั้นยอมรับว่าเป็นเพียงความคิดแบบเด็กๆ ปัจจุบันรักกันดี ไม่มีทะเลาะ ส่วนลูกชาย น้องข้าวหอม หากอยากเข้าวงการพร้อมสนับสนุนเต็มที่
“คนทักทุกคนเลยค่ะ เจอใครก็ทักว่าผอมลง วิ่งค่ะ และควบคุมเรื่องการทานวันนึงไม่เกิน 200 แคลอรี่ ตอนแรกลำบากมากค่ะ เหนื่อยใจมากค่ะทำยังไงก็ไม่ลง แต่พอลงแล้วก็ลงเรื่อยๆ ค่ะ แรงบันดาลใจคือหนึ่งเรื่องสุขภาพ สองอยากจะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด ถ้าเราสุขภาพแข็งแรงเราก็อยากจะทำอะไรมากขึ้น อยากจะปฏิวัติตัวเองใหม่หลังจากที่แม่เสีย ปฏิวัติชีวิตใหม่ลองดูสักตั้งนึง ลงมา 30 กิโลค่ะ จาก 87 ตอนนี้เหลือประมาณ 60 กิโล ใช้เวลาประมาณ 9 เดือนค่ะ ตอนนี้อยู่ในเรทปกติ พอลงมาแล้วก็ไปปรึกษาคุณหมอในเรื่องของกล้ามเนื้อ ไขมันคุณหมอบอกว่าเราสูงประมาณนี้ต้องลดลงอีกนิดนึงค่ะ”
“ก็เลยไปปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับในเรื่องของโภชนาการและกีฬา โภชนาการนี่คุยเกี่ยวกับเรื่องของการทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด คุณหมอจะตรวจไขมันดีไขมันไม่ดี มวลร่างกายสูงเท่านี้ต้องกล้ามเนื้อเท่าไหร่ ออกกำลังกายยังไง คุณหมอบอกว่าแรกๆอย่าเพิ่งเครียดนะให้เดินไปก่อน พอลดน้ำหนักลงมาได้ 5-1 กิโล ค่อยเริ่มวิ่งเหยาะๆ พอลงมาอีกสักพักนึงก็ให้วิ่งเลย ถ้าเหนื่อยก็อย่าหยุดนะให้กระโดดๆหน่อย ก่อนหน้านี้เคยทานยาบล็อกไขมันก็ช่วยได้ในระดับนึงแต่ถ้าเราไม่ลงมือที่จะทำด้วยตัวเองด้วยมันก็คงไม่ดี สำหรับตอนนี้น้ำหนักลงเยอะแต่ไม่ถึงขนาดเข้าวงการใหม่ๆ ค่ะ (ไม่มีวิทยาศาสตร์เข้าช่วย) ไม่ค่ะ แต่ยอมรับว่าเคยคิดเหมือนกันแต่มันก็ไม่ใช่สิ่งแรกที่มันจะช่วยเราได้ อย่างที่หมอบอกพื้นฐานเลยคือต้องลดอาหาร เสื้อผ้าต้องเปลี่ยนใหม่ ก็พยามลดขนาดให้เล็กลง ตอนนี้เลยเอาชุดที่ใส่ไม่ได้ไปขายเพราะเราต้องใช้ทุนมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ (หัวเราะ) เลยต้องขายเสื้อผ้าเก่า”
(ไปออกรายการเห็นบอกว่าเคยคิดอยากเลิกกับเจ้าสัวบุญชัย) “คือในรายการเขาถามมาว่าชีวิตคู่มีอุปสรรคไหม เราก็ตอบไปว่ามันก็มีบ้าง คือคำว่าชีวิตคู่มันต้องมีบ้างเพียงแต่ว่าพอเขาถามมาเราก็ตอบ ถ้าเกิดไม่มีใครถามคงไม่มีใครอยากพูดอยู่แล้ว ตั๊กมองว่าชีวิตคู่มันต้องมีอุปสรรค แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะตั๊กไม่ได้คิดว่าจะเลิกกันจริง เป็นเพียงความคิดเด็กๆ เพราะมันก็คือชีวิตคู่ (ทุกวันนี้มีทะเลาะไหม) ไม่มีค่ะ ด้วยความที่เราไปโฟกัสเรื่องลูก อีกอย่างพี่เขาดีกับตั๊กมาตลอด แม้กระทั่งตั๊กอ้วน 87 กิโล เขาก็ไม่เคยว่าตั๊กอ้วนเลย (ตอนนี้ผอมแล้วเขาว่ายังไงบ้าง) เขาก็บอกดี สุขภาพจะได้ดี ให้รางวัลไหม พูดเรื่องเงินอีกแล้ว (หัวเราะ) ไม่มีค่ะ เราอยากผอมเอง (กลับมาเซ็กซี่อีกไหม) เซ็กซี่ไม่ไหวค่ะ แต่ถ้าเป็นงานอื่นเช่นงานเบื้องหน้าก็ขอดูอีกทีเพราะตอนนี้ตั๊กเลี้ยงลูกไม่อยากไปทำงานแล้วทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง เพราะตั๊กตั้งใจที่จะเลี้ยงน้องข้าวหอมเองเพราะรู้สึกว่าลูกเรา เราต้องเลี้ยงเอง”
“น้องข้าวหอม 4 ขวบ เข้าโรงเรียนแล้ว เราในฐานะแม่ก็ห่วงไปหมด คือตอนที่ตั๊กยังไม่เป็นแม่ เคยคุยกับพี่ๆ นักข่าวนะ ตั๊กไม่เข้าใจว่าทำไมแม่เราต้องไปบอกพี่ๆ นักข่าวว่าหวงตั๊กด้วย ตั๊กถามแม่ว่ามีอะไรน่าห่วง แต่ตอนนี้เข้าใจแม่แล้วว่าหวงทุกอย่างแม้กระทั่งเวลาที่เขาวิ่ง ก็กลัวว่าเขาจะล้ม เขาถึงบอกว่าเราเป็นแม่ปุ๊บก็ยิ่งหวงเขา เรื่องเข้าวงการต้องแล้วแต่เขาเลยค่ะ ถ้าเขาชอบตั๊กก็สนับสนุน แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นแววเพราะน้องเพิ่ง 4 ขวบ แต่ก็มีสอนโพสต์ท่าทางบ้าง เพราะเราชอบถ่ายภาพอยู่แล้วก็อยากให้ลูกเป็นแบบให้” ตั๊ก กล่าว.
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก IG: @bong_kod_tak
