ญาญ่า อุรัสยา เคนพอร์ช

มั่นใจดังด้วยตัวเองได้!! เคนพอร์ช เมินเกาะกระแส ญาญ่า

Home / Omgossip / มั่นใจดังด้วยตัวเองได้!! เคนพอร์ช เมินเกาะกระแส ญาญ่า

 

 เรื่องก็เป็นแบบนี่… เคนพอร์ช นักกีฬาฟันดาบ เอ่ยขอโทษนางเอกสาว ญาญ่า อุรัสยา พร้อมยอมรับว่าไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวจริง ตนเป็นแค่แฟนคลับคนนึง แจงโพสต์ไปแค่สนุกปากไม่คิดว่าจะเป็นประเด็น ยืนยันไม่คิดสร้างกระแสเกาะญาญ่า เพราะดังด้วยตัวเองได้อยู่แล้ว!!

  ปัดสั่งนักข่าวลบคลิป แค่ขอความกรุณาเพราะโดนถ่ายโดยไม่รู้ตัว วันนั้นแค่เดินสายโปรโมทงานแฟชั่นเท่านั้นไม่สะดวกให้สัมประเด็นนี้ ส่วนที่วันนี้(4 เม.ย.) เดินเข้างานมาไม่ให้ถ่ายรูป บอกไม่รู้ว่าเป็นสื่อ ขอโทษถ้าทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ออกตัวเป็นนักกีฬาฟันดาบไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนสาธารณะ แต่ถ้ามีโอกาสเข้าวงการก็ยินดี…. รายละเอียดดังนี้

  ”เรื่องราวที่เกิดขึ้น เกิดมาจากการโพสต์ทวิตเตอร์ขำๆ ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดประเด็นโยงให้มันเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตได้ ญาญ่าตอกกลับบอกไม่รู้จัก รำคาญนิดหน่อยที่ต้องเป็นข่าว ผมเข้าใจเขานะเพราะเขาเป็นผู้หญิง แล้วเรื่องราวทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นมาจากตัวผมที่ผมโพสต์ทวิตเตอร์แบบไม่คิด ก็โทษอะไรเขาไม่ได้ถ้าเขาจะรำคาญผม ก็สมควรครับ”

  ”เรื่องเกาะกระแสญาญ่า ถ้าผมอยากดังผมไปเต้นแร้งเต้นกาแป๊บเดียวผมก็ดังแล้ว ผมไม่รู้ว่าผมจะมาเกาะกระแสเพื่ออะไร ผมเป็นนักกีฬาทีมชาติ นักกีฬาใช้ความสามารถครับ แต่ถ้าผมเป็นดาราผมอาจจะต้องใช้กระแสและความสามารถด้วย ผมว่าผมไม่จำเป็นต้องเกาะกระแส ผมรู้สึกว่าผมไม่รู้ว่าผมจะได้อะไรจากการเกาะกระแสในครั้งนี้ ผมได้ประโยชน์หรอ สุดท้ายแล้วผมได้กระแสในทางที่ดีหรือในทางลบ สุดท้ายทุกคนมาด่ามาว่าผมแล้วผมจะเกาะกระแสไปเพื่ออะไรครับ”

  ”ช่วงที่ผ่านมาเดินสายพบสื่อแต่ไม่ยอมตอบคำถามเรื่องนี้ ผมต้องขอโทษพี่ๆ สื่อด้วยที่ผมออกมาพูดช้า ผมบอกตรงนี้ว่าอย่าไปโทษนักข่าว ถ้าผมออกมาก็ได้ข่าว อย่าไปโทษสื่อมวลชนมาโทษที่ตัวผมได้เลยที่ผมช้าเอง”

  ”ทำไมถึงไม่ยอมให้สัมภาษณ์ เอาตรงๆ ตอนแรกเรื่องเกิดจากที่ผมเป็นใครก็ไม่รู้ โนเนม ผมเชื่อว่าทุกคนก็เคยโพสต์อะไรเล่นๆ กัน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ ผมโพสต์ออกมาเล่นๆ ขำๆ แต่แจ็คพ็อตแตก ผมกลายมาเป็นข่าวได้ อย่างแรกเลยคือผมตกใจ ผมคิดว่าการที่ผมไม่ได้ออกไปทุกอย่างมันคงเงียบเพราะผมเป็นใครก็ไม่รู้ ผมเลยเลือกที่จะเงียบก่อน แต่พอสักพักนึง ผมว่ามันเริ่มมีอะไรมากขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นคนเข้ามาด่าว่าผมในอินสตาแกรม ด่าไปถึงบุพการี เพื่อนผมเริ่มส่งข้อความมาถามว่ามันเกิดเรื่องราวอย่างนี้ขึ้นได้ยังไง ในตอนนั้นผมซ้อมหนักมาก เราก็มันเกิดอะไรขึ้นวะ สุดท้ายผมก็เลือกที่จะเข้าไปตอบ เข้าไปขอโทษคุณญาญ่าที่ช่อง 3 ก็ไม่ได้ตั้งใจจะดึงเชิงอะไรทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องดึงเชิงเพื่องานอีเว้นต์ ผมไม่รู้ว่าผมจะทำไปเพื่ออะไร ผมไม่ได้ดึงเชิง ผมโฟกัสอย่างอื่นมากกว่า ผมซ้อมด้วย แต่เข้าใจว่าเดี๋ยวเรื่องมันก็คงจะเงียบแต่สุดท้ายมันก็ไม่เงียบ”

  ”ขอโทษญาญ่าโดยตรงเลย ยังไม่มีโอกาสได้ขอโทษต่อหน้าเลยครับ แต่ว่าได้มีโอกาสเดินไปที่ช่อง 3 ขอโทษเรียบร้อยแล้วด้วยการไปออกรายการโหนกระแส อยากบอกอะไรกับญาญ่า พี่ญาญ่าครับ อย่ารำคาญผมเลยนะครับ ผมเองเป็นแค่คนๆ นึง เราไม่ได้คิดไม่ได้มีเจตนาอะไรร้ายแรงเลยที่จะโพสต์อะไรออกไปแบบนั้น อยากให้ดูที่เจตนาของผมนิดนึง ผมเป็นแค่คนๆ นึงที่มีคนฟอลโลวทวิตเตอร์หลักพัน วันนึงใครจะไปรู้ว่ามันจะเกิดเรื่องราวแบบนี้ได้ เจตนาผมไม่มีเจตนาอะไรจะทำให้เขาเสื่อมเสียเลยแม้แต่นิดเดียว ผมเองก็เป็นแฟนคลับพี่ญาญ่า แล้วก็อยากจะบอกถึงแฟนคลับของณเดชน์-ญาญ่าทุกคนด้วย ผมเองก็เป็นแบบคุณ ผมเป็นเหมือนคุณที่อยู่หนึ่งในนั้น…เนอะ พูดลำบากครับ”

  ”บอกให้สื่อลบคลิปออก ผมไม่ได้พูดให้ลบคลิปนะครับ วันนั้นมีพี่คนนึงที่ดีลงานกับผมวันที่ 1 เป็นคนที่ส่งงานเดินแบบมาให้ บอกว่าถ้าจะไปหาสื่อเคนพอร์ช พี่ขอเลย ช่วยไปสื่อกับพี่หน่อย ตอนแรกผมจะไม่ไปด้วยซ้ำเพราะมีประเด็นเยอะแยะมากมาย แล้ว ผมตอบรับกับผู้ใหญ่ไปแล้วว่าผมจะไปตอบในวันที่ 4 เท่านั้น แต่โอเค ผมบอกว่าผมจะไปนะ แต่ผมขอพูดในเรื่องของเดินแบบเท่านั้น แต่ในวันที่ผมไปถึงผมพูดเรื่องการเดินแบบจบแล้ว แต่ก็มีเรียกให้ไปสัมภาษณ์ต่อ ผมก็ขอพี่นักข่าวเขาแล้วว่าผมไม่ขอสัมภาษณ์เรื่องประเด็นนะ เราไม่ได้ดีลกันแบบนี้นิ ยังไงผมก็ขอลากลับแล้วกันแต่มันไม่ใช่อย่างนั้นสิ กลายเป็นว่าระหว่างที่ผมพูดอยู่นั้น ผมเห็นว่าที่กล้องมีไฟติดอยู่ ผมรู้แล้วว่ามันมีการบันทึกไว้แล้ว ผมเลยเดินไปหาช่างภาพว่าผมไม่โอเคนะครับถ้าจะให้ผมไปออกในขณะที่ไม่ได้ขออนุญาตผมเลยว่าพี่จะถ่าย ผมสาบานได้ว่าผมพูดแค่นี้จริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าข่าวออกมาได้ไงที่บอกว่าผมสั่งให้ลบคลิป”

  ”เข้าไปในห้องทีมงานแล้วบอกว่าช่วยลบคลิปเมื่อกี้ด้วย ผมยืนยันเลยว่าผมไม่ได้พูดว่าลบคลิปด้วยนะครับ แต่พูดว่าถ้ายังไงกรุณาด้วยนะครับ อย่าออกอากาศนะครับ เพราะอันนั้นคือไม่ได้ถ่ายแต่เป็นแอบถ่าย ถูกมั้ย ผมแค่เซฟตัวเองไว้ก่อน แต่ผมไม่ชัวร์ว่าแอบหรือไม่แอบ แต่โอเคคืออย่าออก ณ ตรงนั้นดีกว่า มันละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผม เคลียร์นะครับ เรื่องที่ผมปฎิเสธสื่อจริงๆ แล้วผมไม่ได้ปฎิเสธ”

  ”งานวันนี้ที่ช่างภาพนิ่งมาขอถ่ายรูปแล้วยกมือไม่ให้ถ่าย ผมมือใหม่มากครับ ผมเป็นนักกีฬา ไม่เคยเลยที่จะต้องมาให้สัมภาษณ์เยอะขนาดนี้ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นช่างภาพสื่อมวลชน ผมเข้าใจว่าจะตัองมีป้ายผู้สื่อข่าวติดไว้ทุกคน ผมไม่เห็นจริงๆ ยังไงก็ต้องขอโทษทางสื่อมวลชนด้วยที่ผมอาจจะมีกิริยา ท่าทางอะไรที่มันไม่ถูกใจ ก็ต้องขอโทษแล้วกันนะครับ(ยกมือไหว้)”

  ”ผลกระทบ ได้รับบทเรียนเยอะ ต่อไปพูดอะไรก็ต้องคิด ผมคิดว่าผมไม่ได้เป็นใครเลย เป็นคนธรรมดาคนนึงด้วยซ้ำ การโพสต์ขำๆ ของผมจะกลายเป็นเรื่องราวที่ไปผูกโยง หลายๆ อย่างกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ทำให้คนๆ นึงเสียหายได้ ผมอยากให้ทุกคนได้ลองเสพข่าวกันอย่างมีสติก่อน ให้ลองคิดดีๆ ว่าใครเป็นคนจุดชนวนเรื่องนี้ มันใช่ผม 100 เปอร์เซ็นต์จริงรึเปล่า ที่ทำให้เรื่องนี้บานปลายจนมาถึงขนาดนี้ ลองสืบหาต้นสายปลายเหตุกันดีๆ ว่าทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมอยากให้ผมเป็นกรณีศึกษานะครับว่า เพราะการแค่ที่คนๆ นึงโพสต์ทวิตเตอร์ ผมว่าไม่ใช่แค่ผมหรอกครับที่โพสต์แบบนี้”

  ”เข็ดเลยมั้ยกับวงการบันเทิง ตอนนี้ผมโฟกัสเรื่องกีฬาฟันดาบมาก เพราะมนปีนี้จะมีการคัดเอเชียนเกมส์ ผมตั้งใจไว้ว่าผมอยากจะเป็นคนนึงที่ติดไปแข่งในครั้งนี้ ผมติดทีมชาติอยู่แล้วแต่มันจะมีการเก็บคะแนนกันใหม่ ส่วนเรื่องงานในวงการผมมองว่ามันเป็นโอกาสที่เข้ามาในชีวิต ถ้ามันมีโอกาสที่ดี ใหญ่ และคุ้มค่าที่จะทำ ผมยินดีอยู่แล้ว โอกาสเข้ามาในชีวิตเราใครๆ ก็อยากจะได้รับโอกาสกันทั้งนั้น”

  ”รับได้มั้ยว่าจะมีชื่อว่าเราโหนกระแสญาญ่าจนทำให้เป็นที่รู้จัก ผมตอบไปแล้วว่าผมไม่ได้เกาะกระแสนะครับ ก็รับได้ครับ เราไม่สามารถทำให้ใครถูกใจเราได้ 100 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นไปไม่ได้ คนเรามันต้องมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา ผมเข้าใจในชีวิตมากกว่า มันเป็นสัจธรรม ใครจะคิดอะไรยังไงมันเป็นเรื่องของเขา เราทำอะไรไม่ได้ เรามีหน้าที่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด”

  ”ถ้าจะเข้าวงการจริงๆ เราต้องปรับทัศนคติใหม่รึเปล่า ต้องปรับมากครับ ผมว่าผมปรับในระดับที่พอสมควรนะ มีคนเข้ามาคอมเม้นต์ในอินสตาแกรมผมเยอะมาก ล้วนแล้วแต่เป็นคำพูดที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ผมไม่ได้ตอก หรือปฎิเสธอะไรเขาเลย ผมยินดีที่จะรับฟัง ผมเข้าใจว่าตอนนี้ผมอาจจะเป็นคนนึงที่กลายเป็นคนสาธารณะไปแล้วมั้ง เพราะงั้นผมว่าผมเข้าใจ ผมไม่จำเป็นต้องปรับตัวอะไรมาก” เคนพอร์ช กล่าว

เคนพอร์ช
เคนพอร์ช

 

เคนพอร์ช
เคนพอร์ช

 

เคนพอร์ช
เคนพอร์ช

 

เคนพอร์ช
เคนพอร์ช

 

เคนพอร์ช
เคนพอร์ช

 

ญาญ่า - ณเดชน์
ญาญ่า – ณเดชน์