ม้า อรนภา เป็นอีก 1 บุคคลที่มีชื่อเสียงที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกกรณีรีวิวสินค้าในเครือ เมจิกสกิน ซึ่งเป็นสินค้าผิดกฎหมาย ปลอมแปลง อย. ล่าสุดเช้าวันนี้ (5 พฤษภาคม 2561) ม้า อรนภา เดินทางไปยังกองปราบปรามเพื่อให้ปากคำตามหมายเรียก และยังเปิดใจกับสื่อมวลชนว่า ตนรับจ้างรีวิวสินค้าโดยที่ไม่ได้ทดลองใช้จริง ได้รับเงินค่าจ้างจำนวน 20,000 บาท ยอมรับผิดทั้งหมด เป็นการเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน อัดอั้นตันใจถูกสังคมตราหน้าว่าไม่ยอมรับผิดและต้องการหลบหนี เพราะไม่ได้เข้ามารายงานตัวตามหมายเรียกเดิม (4 พฤษภาคม) ยืนยันเพิ่งได้รับหมายเรียกเมื่อวาน ก่อนหน้านั้นไม่ได้รับการติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น บอกตนไม่ได้ทำผิดถึงขนาดเป็นฆาตกรฆ่าใคร เมื่อได้รับหมายก็เดินทางมาให้ความร่วมมือแล้ว
“วันนี้ก็โอเคไง ก็มาให้ปากคำ ไม่ได้เป็นยังไงเลย ก็ถามตามที่เป็นเรื่องเกิดขึ้นว่าเป็นยังไง ก็ตอบไปตามความจริงทั้งหมด ก็รับรีวิวเหมือนคนอื่นๆ เท่านั้นเอง รีวิวครั้งเดียว ค่าจ้างสมัยก่อนนานมากแล้วก็ 20,000 เองตอนนั้น นานมากแล้วเท่าที่จำได้นะ มันย้อนหลังไปไม่ได้ เพราะลบรูปทิ้งไปตั้งนานแล้ว ก็น่าจะประมาณปีที่แล้ว (ทำไมเราถึงรับรีวิวสินค้าของเค้า?) มันเป็นอาชีพค่ะ อันอื่นก็รับค่ะ เรื่องการตรวจสอบ คือก่อนที่สินค้าจะมาอยู่ในมือเราก็คิดว่าคงจะผ่านทุกสิ่งทุกอย่างมาถูกต้องแล้วไม่งั้นคงเอาออกมาขายไม่ได้ก็แค่นั้น ทุกคนก็คงจะคิดอย่างนั้นเหมือนกัน ดิฉันไม่มีผู้จัดการ แต่ก็มีคนกลางติดต่อมาอยู่แล้ว เราเห็นซอง เห็นกล่องก็จะมีรายละเอียดอย. มีวันหมดอายุของมันอยู่แล้ว ก็เห็นทุกครั้งที่รีวิว หรือเวลาจะซื้อของก็เห็นอยู่แล้ว กับเจ้าของดิฉันไม่รู้จัก ที่รีวิวมีสคริปต์มาให้พูดค่ะ ต้องมีสคริปต์อยู่แล้ว ไม่ได้ลองสินค้า คนอื่นเค้าอาจจะลอง แต่ดิฉันไม่ได้ลอง อาจจะเป็นความผิดพลาดของตัวเองก็ได้มั้งคะที่ไม่ได้ลองสินค้ามาก่อน เข้าข่ายในการหลอกลวงใช่มั้ย ก็คงจะอย่างนั้น”
“การรีวิวเป็นอาชีพของเรา เค้าติดต่อมาก็รีวิวไปเรื่อย หลังจากนี้ไม่ต้องมาแล้วค่ะ ก็แค่มาให้ปากคำเป็นพยานแค่นั้นเอง ข่าวนี้มันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเลยนอกจากทำไมมันทำให้ตัวเองดังมากจังเลยแค่นั้นเองนะ กับอันที่สองคือเวลามีข่าวอะไรออกไป ไม่ว่าจะเป็นข่าวที่เกินจริง หรือข่าวอะไรก็แล้วแต่ ตัวเองยังไม่รู้เลยนะคะ แต่ข่าวอันนี้มีผลกระทบกับครอบครัวของดิฉันมาก คุณรู้มั้ยว่าทำให้คุณแม่ของดิฉันไม่สบายใจเลยในขณะที่ท่านอายุ 93 ดิฉันดูแลและทะนุถนอมท่านแบบสุดๆ เลยนะ เพราะอายุขนาดนี้แล้วท่านก็ต้องมีความรู้สึกที่ดี มีความสุข สภาพจิตต้องดี แต่พอมันมีข่าวแบบนี้ เค้าตกใจและกลัวมาก เพราะลูกอ่ะ แล้วก็เป็นลูกคนเดียวด้วย ตอนนี้ดิฉันเป็นห่วงมาก”
“(ต่อไปจะเลือกมากขึ้นมั้ยในการรับรีวิว?) เจ้าของสินค้าคงจะคิดมากขึ้นมากกว่า ที่จะต้องทำอะไรให้มันถูกต้องเท่านั้นเอง ดิฉันเป็นผู้รับจ้าง ฉะนั้นทุกครั้งที่รับจ้างก็คิดว่าทุกอย่างที่ออกสู่ตลาดและมาอยู่ในมือของเราให้รีวิวเนี่ยมันก็น่าจะถูกต้อง หลังจากนี้มันจะมีอีกมั้ยคะ ตำรวจไปทลายสิ่งปลอมๆ ทั้งหมดแล้วมันจะมีอีกมั้ยคะเนี่ยก็ต้องไปถามคุณตำรวจดีกว่า มันมีความผิดอยู่แล้ว ดิฉันก็ยอมรับว่ามันมีความผิด แต่มันเป็นความผิดที่เราไม่ได้รู้ ตำรวจก็ชี้แจงว่าเข้าข่ายความผิดอะไรบ้าง แต่ดิฉันจะจำได้มั้ยเนี่ย ก็โกหก หลอกลวง เกินจริง ก็มีปรับตั้งแต่ 30,000 บาท แล้วก็มีทั้งจำทั้งปรับ, จำคุก 1 ปีปรับ 10,000 บาท อันสุดท้ายปรับ 5,000 คือไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรประมาณนี้ (หัวเราะ) มันก็เป็นความผิดอยู่แล้วเป็นธรรมดา เราก็ยอมรับในสิ่งตรงนี้”
“ที่เรามาคุยกันในวันนี้ทางกองปราบขอร้องดาราและคนที่มีชื่อเสียง แม้กระทั่งพวกเน็ตไอดอลที่รีวิวสินค้า ถ้าสมมติพวกคุณมีชื่อเสียงเวลาพูดอะไรประชาชนเชื่อถืออยู่แล้วและมักจะทำตาม ก็เลยขอร้องให้อยู่ในเรื่องราวการประชาสัมพันธ์ที่ถูกต้อง ในสิ่งที่ดีที่ใช่ก็ขอความร่วมมือ ซึ่งอันนี้เราโอเคให้ความร่วมมือได้อยู่แล้ว อะไรที่มันไม่ได้ผ่านความถูกต้องมาเราก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็พอๆ กับประชาชนทั่วไป การฟ้องกลับไม่ค่ะ จะไปฟ้องอะไรล่ะคะ เรื่องคดีความไม่ควรจะมี มันเป็นเรื่องวุ่นวาย ดิฉันเองไม่คิดว่ามันจะเจอ ไม่คิดว่ามันจะใหญ่โตขนาดนี้ เมื่อมาเจอแบบนี้ก็ต้องค่อยๆ แก้ไขไป ดิฉันอายุเยอะแล้วนะคะก็ยังงงอยู่ว่าต้องมาเจออะไรแบบนี้ ไม่น่าจะเจอ (หัวเราะ)”
“ก่อนหน้านี้ดิฉันเป็นรายแรกเลยว่าจะต้องมาพบ แล้วก็มีวันนัดหมายเสร็จเรียบร้อย ดิฉันเองก็ได้ทราบพอๆ กับประชาชนทั่วไปในการออกข่าวทางโทรทัศน์ พอมาอีกทีนึงข่าวบอกว่าดิฉันไม่ยอมมาต้องการที่จะหลบหนี คือดิฉันจะหลบหนีได้ยังไง หน้าออกโทรทัศน์ทุกวัน อ่านข่าวอยู่ทุกวัน ไม่มีการหลบหนีไปไหนใดๆ ทั้งสิ้น ดิฉันสอบถามทางผู้ใหญ่ว่าควรทำยังไง ในเมื่อไม่มีการแจ้งมาก่อน ไม่มีการติดต่อมา หรือมีหมายเรียกให้มาพบ เราก็คงไม่ต้องมาปรากฎตัวในการสอบสวนใดๆ ทั้งสิ้น ข่าวก็ออกบอกว่าดิฉันหนีบ้างต่างๆ นานา จนกระทั่งในอินเตอร์เน็ตตราหน้าว่าดิฉันทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ต้องบอกว่าไม่มีหมายมาใดๆ ทั้งสิ้นเลยนะคะ ฉะนั้นดิฉันก็ไม่รู้จะไปทำไม สอบถามผู้ใหญ่หมดทุกคนแล้วด้วยว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องจนกระทั่งเมื่อวานนี้มีหมายส่งมา พอดิฉันได้รับก็โทรมาที่นี่ทันที นัดหมายทันทีแล้วเข้ามาให้ความร่วมมืออยู่แล้วค่ะ ดิฉันไม่ได้ทำผิดเป็นฆาตกร ไม่ต้องคิดอะไรมากถึงขนาดนั้นค่ะ” ม้า กล่าว