ออกมาร่ำไห้แบบไม่อายกันเลยทีเดียว สำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรอง แอนนี่ บรู๊ค ที่เจ้าตัวนั้นลงทุนเพิ่มน้ำหนักให้ตัวเองอ้วนเพื่อถ่ายโฆษณาชิ้นหนึ่ง แลกกับเงิน 40,000 บาท แต่สุดท้ายกลับโดนเทในวันถ่าย ล่าสุด คุณแม่แอนนี่ ควงลูกชาย น้องฑีฆายุ มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บSHOW ทางช่อง ONE31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร
คลิปที่ลงไปเมื่อวันเสาร์มันเกิดอะไรขึ้น?
แอนนี่ : ในช่วงนี้ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิดขึ้นมา ทุกคนเหนื่อยกันหมด พอวันหนึ่งใครทำอะไรได้ ใครสามารถทำมาหากินอะไรได้ ทุกคนทำหมด แล้วพอมีงานเข้ามาช่วงนั้น เข้ามาประมาณปลายมกราคม แล้วเขาบอกว่ามาถ่ายแบบสาวไซส์ L ให้หน่อย ติดต่อปั๊บจะถ่ายเลย แล้วแอนบอกว่าพี่ หนูยังไม่ถึงไซส์ L นะคะ หนูไซส์ S ในโลกนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกที่อยากอ้วน ต่อให้อ้วนแล้วก็อยากผอม ไม่อย่างนั้นทุกวันนี้ยาลดน้ำหนักขายไม่ได้หรอก พอเขาบอกว่าไซส์ L นะแอน แล้วงานมันหายากมาก อะไรก็ได้แล้วแหละเอาหมด เขาก็บอกว่าจำนวนเงินเท่านี้นะ เอา แต่เป็นคนอื่นไม่เอา เพื่อนแอนบอกว่าถูกไปไหม การเอาขึ้นมันไม่ยากหรอก แค่กินเข้าไป แต่ว่าการเอาออกนี่สิ ต้องลดกี่เดือน
ทุ่มเทกับงานนี้ก็เลยยอมกินขนาดนี้?
แอนนี่ : ใช่ คืออยากได้ตังค์ อยากให้มันออกมาแล้วเจ้าของแบรนด์เขาพอใจ แล้วได้ไซส์อย่างที่เขาต้องการ แล้วทีนี้พอเราทำไซส์ไปถึงแล้ว เมื่อกี้ทีมงานบอกหน้ายังดีอยู่เลย หน้ายังดูผอมอยู่เลย นี่ไงต้นทุน ก็คือก่อนที่จะไปทำงาน พอเขาบอกว่าจะถ่ายแบบ ดิฉันก็ไปลิฟหน้า ไปโบตรงนี้ ทำตรงนั้น เพื่อที่ว่าเวลาไปทำงานแล้วลูกค้าเห็นหน้าเรา แต่งหน้าเรา ถ่ายหน้าเรา ไม่ต้องรีทัชมาก แต่หุ่นเอาไปให้เต็มๆ แต่หน้าเนี่ยต้องสวย ในความคิดของแอน
ตอนแรกที่นัดกันเขาให้เวลาในการกินกี่เดือน?
แอนนี่ : คือนัดกันกุมภาพันธ์ เสร็จแล้วเขาบอกว่าประมาณมีนาคม เมษายน จะถ่ายแล้วนะ โห…มีนาคมนี่อัดอย่างเต็มเลย แล้วเขาก็เลื่อนมา มันติด พรก.โอเคไม่เป็นไร ก็เลื่อนมา จนถึงปลายพฤษภาคม เจ้าของงานก็โทรมาหาผู้จัดการส่วนตัว เขาบอกว่าเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้น ถามว่าแอนได้รับเงินหรือยัง แอนก็บอกว่ายังไม่ได้รับเงินเลยค่ะ อุ้ย…พี่จ่ายไปตั้งนานแล้วนะ จ่ายมัดจำ จ่ายอะไรไปแล้ว ทำไมเธอยังไม่ได้เงินอีก พี่จะนัดวันถ่ายแล้วนะ
ก่อนที่เราจะรับงาน เราได้มีเซ็นสัญญาไหม?
แอนนี่ : ไม่ เพราะว่าเราเชื่อใจ รู้จักกันมานานแล้ว ตรงนี้แหละที่เราพลาด
แสดงว่าเงินเจ้าของบริษัทเขาให้มาแล้ว ไม่ถึงมือเรา?
แอนนี่ : ไม่ถึงมือเรา
40,000 ที่คิดว่าจะได้ ตอนนั้นจะเอาเงินไปทำอะไร?
แอนนี่ : ต้องย้อนกลับไป พอตอนโควิดเราขายของไม่ได้ เราไม่มีงาน โอเคก็กินเงินเก็บ ส่วนหนึ่งก็มาจากการขายของเล็กๆ น้อยๆ ประหยัดกินประหยัดใช้ ก็ได้กินของที่เราตุนไว้ ตอนที่เขาประกาศโควิดใหม่ๆ เราก็เอาของที่เราตุนไว้มากิน ประหยัดกันสุดชีวิต แล้ว 3 เดือนผ่านไป มันหมดแล้ว ของกินก็หมดแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว มันเหมือนเป็นเงินก้อนที่เรา แบบเดี๋ยวจะถ่ายแล้ว เดี๋ยวได้ทั้งค่าเช่าบ้าน ได้ทั้งค่าเรียนของลูกด้วย แล้วเราอยากได้เงินก้อนนี้เอาไปลงทุนในการศึกษาของเขา แล้วที่เหลือจะได้กินได้อยู่ด้วย แล้วพอมาแบบโดนแคนเซิลฟาดหน้าไม่ถึง 24 ชม. คือวันนั้นไม่เหลืออะไรแล้ว เหลือตังค์อยู่ 400 บาท แล้วกะว่านี่จะเป็นเงินที่ไม่กี่วันก็ได้แล้ว
ก็เลยร้องไห้เลย?
แอนนี่ : เก็บไว้ไม่อยู่แล้ว คือนั่งอยู่คนเดียว ก็คิดมันฟุ้งซ่านแล้วแหละ จิตมันก็ตก เพราะว่ายังไม่มีงานใหม่เข้ามา แล้วตัวเองก็อ้วนตุ๊บขนาดนี้แล้วใครจะจ้างรีวิวสินค้าอะไร ก็มีสินค้าหลายๆ ตัวที่เข้ามาต้องแคนเซิลไป เพราะว่าพี่หนูอ้วน รับไม่ได้ เราก็แคนเซิลงานไปหลายบาทอยู่นะ
ตอนที่เราเห็นว่ามีเงิน 400 บาท เราได้วางแผนอนาคตยังไงบ้าง?
แอนนี่ : คืองานวันต่อวันเลยนะ เพราะว่างานในช่วงโควิดเนี่ย เราคิดกันวันต่อวันเลย เพราะเราไม่ใช่คนที่มีงานประจำ เราคิดไม่ออกเลย วันนั้นเราก็เลยฟิวส์ขาดจริงๆ คือไม่ไหวแล้ว ความหวังของฉัน เงินของฉัน อะไรอย่างนี้ มันหายไปภายใน 24 ชม.เลย แล้วก็อนาคตของลูกด้วย อยากให้ลูกเรียน เพราะว่ามันคือความตั้งใจของเขา แล้วพอพ้นโควิดแล้ว พ้น พรก. ที่สถาบันเขาเปิดมันถึงเวลาพอดี แล้วเขาจะได้เรียนแล้ว ความเป็นแม่ที่อุตส่าห์พยายามทุ่มเท แล้วภายใน 24 ชม. ถ้าอยากแคนเซิล แคนเซิลก่อนหน้านั้นสักเดือนไหม แอนจะได้หาทางออกได้ หรือว่าไม่ปล่อยตัวขนาดนี้
น้องฑีตอนนั้นเห็นคุณแม่ร้องไห้แล้วรู้สึกยังไง?
น้องฑีฆายุ : ผมอยากมากอดแม่ไงครับ สงสารแม่ เสียดายที่ไม่ได้เงินก้อนนั้น ถามว่าอยากเรียนแอนิเมชั่นกราฟฟิกอยู่ไหม อยากเรียนครับ
แล้วค่าเรียนแพงไหม?
แอนนี่ : มันอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท แอนถึงว่าได้ 4 หมื่นมาคือเหลือๆ เลย แล้วแอนประหยัดกิน ประหยัดใช้อยู่แล้ว ยังไงก็เหลือ
แสดงว่าเคสนี้มันเกิดขึ้นเพราะว่าไม่ใช่เจ้าของผลิตภัณฑ์ แต่ว่าเป็นคนกลาง?
แอนนี่ : คือตอนแรกโทษเจ้าของเลยแหละ ตอนเย็นของวันที่ 5 แอนรู้สึกแปลกๆ เพราะปกติมันจะต้องมีการส่งโลเคชั่นให้เราตั้งแต่ช่วงสายๆ แล้วไหม เราก็โทรไป ประมาณสักเกือบชม. เขาก็โทรกลับมาบอกว่าแอนนี่แคนเซิลนะ ทางเอเจนซี่พูด แอนก็บอกว่าเดี๋ยวนะ ถ้าแอนไม่ติดต่อไปวันนี้ คือคุณก็ไม่โทรมาหรอ แล้วปล่อยให้แอนไปสตูหรอ แล้วเขาก็โทษไปยังเจ้าของสินค้า แล้วเราก็บอกให้เพื่อนโทรหาเจ้าของสินค้าแล้วประชุม 3 สาย ต้องการฟังด้วยหูตัวเองว่ามันจริงหรือเปล่า เจ้าของเขาบอกเราที่แคนเซิลเพราะเขามีปัญหาว่าเขากลัวว่าวันที่ไปถ่าย เขาต้องเสียอะไรเพิ่มอีก ซึ่งจริงๆ แล้วเขาจ่ายมาหมดแล้ว จ่ายมาตั้งนานแล้วด้วย แล้วเขาส่งเอกสาร หลักฐานทุกอย่างมาให้แอนดู นี่นะว่าเขาคุยกับคนนี้ว่ายังไง เขาจ่ายเงินไปแล้ว ทุกอย่างมีรายละเอียดหมดเลย แอนก็ตกใจ เอาตังค์ไปตั้งนานแล้ว แล้วทำไมสักบาทหนึ่งก็ไม่ให้เราเลย พอวันที่โพสต์คลิปไป โอเคแอนก็เข้าใจกับเจ้าของแล้ว แอนก็ไม่ได้โทษเขาแล้ว เขาบอกว่า เขาไม่รู้ว่าเขาจะฟ้องดีไหม ที่เขาบอกว่าเขาจำเป็นต้องแคนเซิล เพราะบริษัทนี้ไม่ทำอะไรให้เขาเลย รับตังค์ไปอย่างเดียว
ในเมื่อเราเป็นสาวไซส์ S ทำไมเขาเลือกเรา?
แอนนี่ : เขาบอกว่า เขานึกถึงเรา อยากให้งานนี้กับเรา เขาคิดว่าเราทำได้
ตั้งแต่วันแรกที่ติดต่อมามีการจ่ายเงินอะไรกันบ้าง?
แอนนี่ : พอแอนโพสต์คลิปไป ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่ได้จะสร้างกระแสหรืออะไรให้ใครมาสงสารเห็นใจอะไรทั้งสิ้น แต่มันคือความรู้สึกฟิวส์ขาด มันคือความรู้สึกของแอนนี่ที่โพสต์ออกไป แล้วเริ่มมีนักข่าวมองเห็นแล้วเขียนข่าว เขาก็โอนตังค์มาให้แอนหมื่นนึง แต่ไม่บอกแอนนะ แต่เอาหลักฐานการโอนส่งให้ เอส ซึ่งเป็นเพื่อนแอน แล้วก็วงกลมสัญญาเก่า ตอนแรกจะมีนายแบบนางแบบถ่ายอีก 4 คน แล้วตอนสุดท้ายลูกค้าบอกว่า อีก 3 คนนั้นไม่เอา เอาแอนนี่คนเดียว เสร็จแล้วสัญญามันจะมีสัญญาเก่าฉบับหนึ่งที่มี 4 คน ในราคา 4 หมื่น แล้วสัญญาฉบับใหม่ที่เพิ่งทำขึ้นมา มีแอนนี่ คนเดียวในราคา 4 หมื่น ซึ่งเอเจนซี่เขาไม่รู้ว่าลูกค้าได้ส่งหลักฐานมาให้แอนนี่แล้ว เขาไปเอาหลักฐานเก่าของมกรา-กุมภา ที่เขารับเงินไปแล้ว แล้วเขามาวงกลมว่าค่าตัวที่เขาให้แอนนี่หมื่นนึงต้องแบ่งทุกคน
แอนนี่ก็เลยเอาหลักฐานนี้ส่งไปให้เขาดู เขาเป็นไง เงิบไหม?
แอนนี่ : ใช่ เขาเงียบ แล้วเขาก็โทรกลับมาบอกว่าเมื่อคืนหลับแล้ว ไม่ใช่หรอก เพราะส่งไปคือตอนเย็น ไม่มีใครมานั่งหลับตอนเย็น
แล้วทีนี้เรื่องน้ำหนักตัวล่ะ?
แอนนี่ : นั่นไง มันไม่ใช่แค่น้ำหนักตัว เพราะว่าก่อนที่แอนจะไปถ่าย แอนมีต้นทุน แอนไปลิฟหน้า ทำตรงนู้นตรงนี้ให้ดูดี
ทีมงานบอกว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราเอาจานบ้านเราไปขอข้าวบ้านข้างๆ กิน?
แอนนี่ : ใช่ เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง เรามีเงินก้อนหนึ่งประมาณ 2 หมื่น แล้วพอรัฐบาลประกาศตอนช่วงชลมุนที่คนต้องตุนของ นี่แหละเอาเงินไปตุนของ แล้วของก็แพงขึ้น ตุนกะไว้ว่าให้อยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือน แล้วเดือนที่แล้วทุกอย่างมันหมดแล้ว แล้ววันนั้นเราจะออกไปข้างนอกไปหาที่ขายของ แล้วเรากลับมาใกล้ 5 ทุ่ม จะแวะเซเว่นก็ปิดแล้ว เข้าบ้านแล้วลืมไปว่ามันไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากน้ำ ก็ถือชามใบหนึ่งเดินออกไปป้าบ้านข้างๆ ซึ่งสนิทกัน ก็เคาะประตู ถามว่าป้ามีข้าวไหม ป้าก็รีบไปเอาข้าว ไปต้มไข่มาให้กิน ไปหอบของมาให้ แล้วป้าบอกว่าภาพนี้ป้าจะจำไปจนวันตายเลย คือมาแบบสภาพเหนื่อย เพราะฝนตกด้วยวันนั้น คือสุดแล้ว
ดูแลลูก ดูแลแม่ ไม่คิดให้ใครมาดูแลเราบ้างหรอ?
แอนนี่ : เอาจริงๆ นะ แอนก็เหมือนคนมีตำหนิ มีลูกแล้ว มีข่าวเสียหาย มันก็มีเข้ามา แต่ก็มีหลายรูปแบบ รูปแบบแรกคือเขามีครอบครัวอยู่แล้ว มันก็ไม่ควรไหม ก็บอกเขาไป เขาก็เสนอเงินมา เขาก็บอกว่าแอนทำไมล่ะ ก็รู้จักกัน พี่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรไม่ใช่หรอ เราก็บอกว่าใช่ แต่มันอยู่ที่ว่าคุณมีครอบครัวแล้ว แอนไม่อยากให้มันแย่ไปกว่านี้ ก็บอกเขาไป เขาก็ถามว่าเธอไม่ลำบากหรอ ก็ลำบาก แต่ไม่เอาดีกว่า แล้วก็อีกรูปแบบหนึ่งนัดไปเจอข้างนอกอย่างเดียว
แสดงว่าถ้าเราจะเปิดใจก็อยากให้เขามาหาเราแล้วมาหาครอบครัวเราด้วย?
แอนนี่ : ใช่ค่ะ อีกอย่างนึงฑีอยู่ในวัยที่ห่วงแม่ แล้วเราก็คิดแทนลูกว่าถ้ามีใครเข้ามาในชีวิตตอนนี้เขาจะรู้สึกไหมว่าถูกพรากความรักไปจากเขา เพราะว่ามันอยู่ในช่วงวัยที่เขารักแม่ ห่วงแม่ มันน่าจะไม่ใช่ตอนนี้ที่แอนจะมีแฟน หรือมีคนเข้ามาในชีวิต ถามว่าอยากมีตัวช่วยไหม ทุกคนแหละยามลำบากอย่างนี้อยากมีตัวช่วยมากๆ อยากมีใครเข้ามาในชีวิตช่วยเรา สามารถซัพพอร์ตเราได้ แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วคนที่เข้ามาในชีวิตก็ต้องเข้ามาทางลูกเราก่อนถึงจะเวิร์ก แต่เข้ามาอย่างนี้เพื่อหวังอะไรบางจากเรา อย่างบางคนก็ขอเป็นครั้งเป็นคราว
เขาบอกไหมเท่าไหร่?
แอนนี่ : ก็บอกค่ะ บอกราคามา ต่ำสุดเลย 5 หมื่นครั้งเดียว
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.45-14.45น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama