Yves Rocher (อีฟ โรเช่) แบรนด์ความงามอันดับ 1 ของประเทศฝรั่งเศส ชวนสองหนุ่มนักอนุรักษ์อย่าง อเล็กซ์ เรนเดลล์ ทูตสันถวไมตรีด้านสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทยที่ได้รับการแต่งตั้งโดย โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ร่วมด้วย บอย ปกรณ์ มาร่วมปลูกป่าบนพื้นที่จริงที่ถูกไฟไหม้ เพื่อเป็นการฟื้นฟูป่าให้กลับมามีชีวิตชีวาดังเดิม เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ตามแนวคิด ‘Act Beautiful สวยโลกไม่เสีย’ และสานต่อเจตนารมณ์ของแบรนด์ที่มีมามากกว่า 60 ปี กับโครงการ Plant for the Planet (แพลนท์ ฟอร์ เดอะ แพลนเน็ต) ตั้งเป้าปลูกต้นไม้ให้ครบ 100 ล้านต้นทั่วโลก ภายใต้แคมเปญ ‘คุณเปลี่ยน เราปลูก’ ณ โครงการหลวงห้วยลึก อุทยานแห่งชาติศรีลานนา จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ อีฟ โรเช่ ยังได้ร่วมมือกับน้องๆ นักเรียนชาวกะเหรี่ยงและชุมชน อ.เชียงดาว ในการปลูกป่า สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของแบรนด์รักษ์โลกที่อยากให้ทุกคนสวยไปพร้อมๆ กับโลก คุณวิลาสินี ภาณุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด อีฟโรเช่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า
“เราตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาพื้นที่ป่าซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติที่สำคัญต่อสิ่งมีชีวิต การปลูกป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ทาง อีฟ โรเช่ จัดขึ้นในครั้งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นการตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่เป็น Eco Sustainability (อีโค่ ซัสเทนนะบิลิตี้) และภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ตามแนวคิด ‘Act Beautiful สวยโลกไม่เสีย’ เพราะอย่างที่ทุกคนทราบดีว่าผลิตภัณฑ์ของ อีฟ โรเช่ ส่วนใหญ่ผลิตมาจากธรรมชาติ เราจึงร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และชุมชนในพื้นที่ อ. เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ร่วมปลูกต้นไม้เพื่อคืนสมดุลให้แก่ธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดกิจกรรมที่ อีฟ โรเช่ กว่า 34 ประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะปลูกต้นไม้ให้ครบ 100 ล้านต้นภายในปี 2020 ผ่านโครงการ Plant for the Planet ที่รณรงค์ปลูกป่าอย่างถูกต้องกับหน่วยงานที่ไม่แสวงหาผลกำไร นอกจากนั้นเรายังได้จัดแคมเปญ ‘คุณเปลี่ยน เราปลูก’ ให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมนำบรรจุภัณฑ์ที่ใช้หมดแล้วมาหย่อนในกล่องรับบริจาคได้ที่ช็อป อีฟ โรเช่ โดยการบริจาคบรรจุภัณฑ์ 1 ขวด อีฟ โรเช่ จะปลูกต้นไม้ 1 ต้น รวมทั้งยังมีกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ที่ทุกคนสามารถร่วมสนุกเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกต้นไม้คืนสู่สังคมได้อีกด้วยค่ะ”
ทูตสันถวไมตรีด้านสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทยอย่าง อเล็กซ์ เรนเดลล์ พูดถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า “ผมเองมีโอกาสได้ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมมา ได้เห็นถึงผลกระทบของไฟป่า และการเผาป่า รับทราบว่ากว่าจะฟื้นฟูป่าได้นั้นค่อนข้างใช้เวลานาน ผมจึงอยากจะขอขอบคุณ อีฟ โรเช่ ที่ชวนผมมาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในครั้งนี้ และขอบคุณทุกคนมากๆที่มาช่วยกันฟื้นฟูพื้นที่ป่า ผมดีใจและรับรู้ได้ถึงเจตนารมณ์ของอีฟ โรเช่ ที่ตั้งใจจะฟื้นฟูพื้นที่ป่าร่วมกันชุมชนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ รวมถึงเด็กๆจากโรงเรียนใกล้เคียง เพื่อที่จะช่วยกันรักษาธรรมชาติของเราเอาไว้ครับ”
นอกจากนี้หนุ่มนักอนุรักษ์อย่าง บอย ปกรณ์ กล่าวเสริมว่า “ด้วยอาชีพของผมทำให้ผมได้รับโอกาสดีๆ อยู่เสมอ อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ถ้าโลกของเราไม่มีความสมดุลระหว่างธรรมชาติและมนุษย์ เราคงอยู่กันอย่างลำบาก ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมได้รับโอกาสจาก อีฟ โรเช่ ที่จะได้ฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่เสียหาย และได้เป็นกระบอกเสียงให้กับกิจกรรมในครั้งนี้ ผมสนุกและรู้สึกดีมากๆ ที่ได้เห็นสิ่งดีๆรอบตัวเรา และได้มาปลูกป่าร่วมกับทุกคน ผมอยากฝากทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนอยากให้ลองโทรไปถามเจ้าหน้าที่อุทยานฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดู เผื่อมีกิจกรรมให้เราได้ไปร่วมปลูกป่าหรืออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นอีกโปรแกรมในทริปที่น่าสนใจและน่าสนับสนุนครับ”