เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่มีข่าวลือเตรียมไม่ต่อสัญญากับช่อง 3 สำหรับหนุ่มหล่อ กระทิง ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ แถมยังโดนจับตาเรื่องความสัมพันธ์กับแฟนสาว กระปุก พัชรา ด้วย หลังมีคนสังเกตเห็นว่าไร้รูปคู่ด้วยกันมาพักใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นวาเลนไทน์หรือวันเกิดกระทิง เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด “กระทิง” ที่มาร่วมงาน KUT-L CLUB เปิดตัว T-Plant Proโปรตีนพืชออแกนิค จากแบรนด์ Shining ณ TOPGOLF Megacity บางนา ก็ได้ให้สัมภาษณ์ทั้งประเด็นเรื่องสัญญากับช่อง 3 และสถานะความสัมพันธ์กับแฟนสาว “กระปุก” รวมถึงการเป็นนักแสดงรับเชิญใน ภ.ซองแดงแต่งผี ด้วย

กับการไปเป็นนักแสดงรับเชิญในภาพยนตร์เรื่องซองแดงแต่งผีเป็นยังไงบ้าง ? “ครับ ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ของผมเลยครับ ก็คือเป็นหนังเรื่องแรกเลย ดีใจมากๆครับ ที่ได้ร่วมงานครับผม เพราะว่าเป็นค่ายที่ผมรู้สึกว่าใครๆ ก็อยากไปเล่นอ่ะครับ ฝันผมก็คือผมก็ดูมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วหลายเรื่อง ก็พอไปเจอการทำงานกับเขา ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับทิงมากๆ เพราะว่าปกติทิงจะถ่ายแต่ละครบ้าง ซีรี่ย์บ้างอะไรอย่างนี้ ก็เลยรู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ ของด้านอาชีพผมเลยครับ“
เป็นตัวละครลับอย่างงี้ ? ”ใช่ครับ ลับเลย เพราะว่าตอนที่ไปแคสได้ เขาก็บอกว่าอย่าเพิ่งบอกอะไรอย่างนี้ครับ ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะพูดที่ไหน (หัวเราะ)“
จริงๆ พอเราได้รับบทเราได้ไปดูเวอร์ชั่นเก่าไหมว่าตัวละครตัวนี้เป็นยังไงบ้าง ? ”อ๋อ..ไม่ครับ คือพี่หมูผู้กำกับ เขาบอกว่าเรื่องที่เอามารีเมคคือ เขาพยายามปรับบท เขาไม่อยากให้ผมอิงจากตรงนั้นมา เพราะว่าเขาปรับมาเยอะอยู่ เพื่อที่จะแบบว่าอยากให้มันเข้ากับวัฒนธรรมไทยด้วย แล้วก็เข้ากับเรื่องที่เขากำลังเอามารีเมคด้วย ก็จะมีการเวิร์คช็อปอย่างเดียวครับ ก็เหมือนมีการไปทำ Background ตัวละคร แล้วก็ไปเวิร์คช็อปกับพีพี กับบิวกิ้น อะไรประมาณนี้ครับ ก็คือเหมือนเป็นการปูเรื่องตัวเองใหม่หมดเลย Background ตัวเองใหม่หมดเลยอะไรอย่างนี้ครับ“
ร่วมงานกับพีพีเป็นยังไงบ้าง ? “พีพีน่ารักครับ (หัวเราะ)” (โดนตกไหม ?) “ ผมว่าพีพี คือเวลาอยู่ด้วยแล้วผมรู้สึกว่าเขาน่ารักดีนะ เขาเป็นคนที่แบบว่าเหมือนในกองก็จะกวนๆ บ้าง แต่เขามีความรู้สึกที่เวลาอยู่ด้วยก็จะแบบว่าเออคนนี้อยู่ด้วยแล้วโอเค สนุกดี แบบผมเป็นผู้ชายจ๋าๆ เลยนะ อยู่ด้วยแล้วผมก็รู้สึกชอบแหย่กัน แต่ส่วนใหญ่ผมจะโดนแกล้งนะ ส่วนบิวกิ้นก็จะแบบว่าก็คุยกันปกติอะไรอย่างนี้ครับ“
เขาแกล้งอะไรเรา ? ”ก็แหย่ไปเรื่อยครับ แบบว่าเหมือนบางทีผมนอนอยู่ ก็บอกให้คนอื่นไปเรียกผมขึ้นมาอะไรอย่างนี้ครับ เพราะว่าเขาเหงา เหมือนเขาบอกเขาไม่รู้จะทำอะไร (หัวเราะ) เหมือนในกองบางทีเราถ่ายกันดึก ผมก็ชอบไปแอบนอนในแต่ละที่ เขาก็จะเรียกมาคุย เรียกมานั่งเล่นอะไรอย่างนี้ครับ เขาจะอยู่กันเป็นกลุ่มด้วยครับ“ (คือเรียกมานั่งคุยเฉยๆ ไม่ได้เข้าฉาก ?) ” ไม่ได้เข้าด้วยครับ บางทีผมก็อีกนานด้วย เขาเรียกมาเล่นด้วยพี่ มาเล่นด้วย ใช่ แต่ก็ดีใจครับ ดีใจที่ได้ร่วมงานครับ ทั้งคู่เลยครับพีพี-บิวกิ้น ครับ“

คาแรกเตอร์ที่บรีฟมาเขาอยากได้แบบไหน ? “ก็คือผมก็งงว่าผมต้องเล่นประมาณไหน ผมก็ถามพี่หมู พี่หมูก็บอกว่า เหมือนแบบเราเป็นคนที่เหมือนอยากได้อะไร เรารู้อยู่แล้วว่าเราจะเอามาด้วยวิธีของเราในแบบที่เป็นการต้มตุ๋น การแบบทำให้รักกัน ก็คือเหมือนให้เรามีความคิดที่ทะเยอทะยานอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าในลึกๆ เขาก็เป็นตัวเทาๆ ตัวที่ผมเล่นก็คือเหมือนแบบทำไปแล้ว บางมีเราก็มีรู้สึกว่าเอ็นดูเขาบ้าง รู้สึกผิดกับสิ่งที่เราทำไปบ้าง แต่ว่าด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่เราจำเป็น เราก็เลยทำสิ่งนั้นขึ้นมาอะไรอย่างนี้ครับ”
ตอนบรีฟจำเป็นว่าต้องหล่อไหม เพราะเปิดประตูมาคือหล่อเลยไง ? “(หัวเราะ) ไม่.. คือฉากนั้นเขาบรีฟว่า ออกมาพี่ขอยังไงก็ได้ให้เหมือนแว๊นๆ อ่ะ เพราะว่าในตอนที่เราปูแบคกราวน์ คือตอนที่ผมไปจีบพีพีในเรื่องอ่ะครับ เราจะเป็นแนวแบบว่าผู้ดี เหมือนเรามาจากที่ดี แต่ว่าจริงๆ พอเขามาเจอในมุมที่เราไม่ได้โชว์เขาแล้ว ในตอนที่เขาไม่อยู่แล้ว เขาก็อยากให้เห็นว่าอันนี้คือชีวิตจริงๆ ของเรามันเป็นอย่างนี้อะไรอย่างนี้ครับ” (แล้วทำไมมันต้องหล่อขนาดนั้น คนที่ไปดูมาแล้วเขาบอกว่ามันหล่อแม้จะใส่แค่เสื้อกล้าม ?) “ จริงเหรอ ผมยังไม่เห็นตัวเองเลย ผมอยากเห็นเหมือนกัน (ยิ้มเขิน)”
รู้สึกยังไงบ้างเราเป็นตัวละครลับแต่ทุกคนก็กรี๊ดกร๊าด ? “ดีใจนะ ผมดีใจมากๆ นะ คือผมลุ้นอ่ะเรื่องนี้ ตอนไปแคสผมก็อยากได้ ผมว่ามันเป็นเรียกว่าก้าวสำคัญของผมแล้วกัน ผมรู้สึกว่าผมได้ขยับเข้ามาเล่นหนังนะ อย่างน้อยก็ได้ร่วมงานกับบริษัทที่เรารู้สึกว่าอันเนี่ยเราดูมา อยากร่วมงาน ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของผมเหมือนกัน ดีใจมากๆ ครับ”
แสดงว่าเราก็กดดันมาก ? “โห.. กดดันพี่ คือตอนแรกผมไปแคสผมก็กลัวว่าจะไม่ได้บ้าง แล้วก็กลัวว่าแบบจะเล่นดีมั้ยวะ เพราะว่าตอนผมไปแคส ตอนแรกๆ คือผมเกร็งมากๆเลย เราไม่เคยเจอคนข้างนอกไงครับ ปกติทิงจะทำงานกับแบบว่าคนที่เรารู้จัก ชินๆ ซะส่วนใหญ่ แต่ว่าไปถึงตรงนั้นผมไม่รู้จักใครเลย ทุกอย่างใหม่หมดเลย มันก็เป็นเหมือนแบบผมออกจากคอมฟอร์ทโซนตัวเองด้วยครับ”
อันนี้คือเขาจิ้มมาเลยว่าให้กระทิงไปแคส หรือว่าเราไปเอง ? “ก็ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ เขาเรียกผมก็ไปอ่ะครับ ผมอ่านบทแล้วอ๋อโอเค ผมอยากลองเล่นผมก็ไป แต่ผมไม่ทราบว่าเขาแคสยังไง”
ขออัพเดทเกี่ยวกับเรื่องสัญญาช่องสาม ? “ผมก็ยังไปเตะบอลอยู่นะครับ คือตอนนี้ผมก็ยังไปเตะบอล ยังมีละครร่วมกันอยู่ครับผม”
ระยะเวลาสัญญาเหลืออีกมากน้อยขนาดไหน ? “คือระยะเวลาผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ว่าผมก็ยังร่วมงานกันปกติครับผม ผมก็ยังไปงานบอล แล้วก็มีละครที่ถ่ายด้วยกันอยู่เรื่องนึงครับผม แต่เรื่องสัญญาผมไม่แน่ใจ”
กับช่อง แพสชั่นเรายังเหมือนเดิม ไปต่อเหมือนเดิมไหม? “คือตอนนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่าประมาณไหน เพราะว่าตอนนี้ทิงก็วางแผนตัวเองกับผู้จัดการมากกว่าว่าเราวางตัวเองไว้ประมาณไหน ปีนี้เราอยากทำอะไรกันบ้าง ก็ที่เหลือผมว่าให้เป็นเรื่องอนาคตดีกว่าแต่ว่าผมแฮปปี้ดีกับทุกคนครับ“ (เหลือมากเหลือน้อยอันนี้คือไม่รู้เลย ?) ”ผมก็ไม่ทราบครับคือผมทำงานอย่างเดียว เอาจริงๆ ผมก็ยังแฮปปี้นะ ผมก็ปกติครับ”
ช่วงนี้นักแสดงผันตัวไปเป็นฟรีแลนซ์กันเยอะ ก็เลยโดนจับตามองเรื่องนี้? “ผมว่าเดี๋ยวนี้มันเป็นเรื่องปกตินะพี่ เพราะว่าเดี๋ยวนี้ช่องมันเยอะ มีทั้งแพลตฟอร์ม มีทั้งยูทูป มีทั้งหลายอย่าง ผมว่าเดี๋ยวนี้มันเป็นอะไรที่เปิดขึ้นเยอะอ่ะครับ มันเป็นเหมือนเรื่องปกติแล้วนะสำหรับสมัยนี้ เดี๋ยวนี้มันกว้างขึ้นแล้ว ที่ทั้งช่องสามก็รู้สึกว่าเปิดกว้างขึ้นเยอะมากครับ”
คือเขาให้โอกาสเราสามารถไปร่วมงานกับที่อื่น ? “ใช่ครับ ใช่ครับ คือเดี๋ยวนี้เห็นช่องก็บอกว่าไปได้นะครับ ครับผม”

เห็นบอกว่าได้ประสบการณ์ใหม่ๆ จากการออกจากคอมฟอร์ตโซน ทำให้อยากจะเป็นฟรีแลนซ์ไหม? “คือถ้าถามทิง ทิงไม่ได้มองเรื่องฟรีแลนซ์หรืออะไรยังไง ผมแค่มองว่าทิงอยากไปทำงานในด้านอาชีพตัวเองมากกว่า ในความหลากหลายด้านอาชีพ ทิงอยากลองเล่นซีรีส์ดูบ้าง เล่นหนังดูบ้าง เล่นบทบาทที่ผมไม่เคยรับบ้าง ที่แบบว่าท้าทายกับอาชีพนักแสดงตัวเองมากกว่า แต่ว่าเรื่องอื่นผมไม่ได้คิดอ่ะครับ”
แล้วถ้ากระทิงต้องเล่นวายจะเล่นมั้ย? “หึ.. มันไม่แนวทิงพี่ คือทิงบอกไม่ถูกอ่ะครับ คือทิงมองตัวเองว่าแบบผมอยากเป็นนักแสดงที่เล่นบทบาทที่มันแปลกๆ ท้าทาย แต่วายมันไม่แปลก คนก็เล่นอยู่”
ถ้าเล่นคู่กับมีน นิชคุณ ? “ถ้าเล่นคู่กับมีน ไม่เล่น (หัวเราะ) คือทิงไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แต่ผมมองว่าส่วนตัวตัวเอง ทิงมองเป็นเรื่องนะ ทิงไม่ได้มองว่าอันนี้วาย อันนี้ยูริ ทิงมองแค่ว่าถ้าสมมุติมีคนส่งบให้ทิง แล้วสมมุติว่าผมอ่านแล้วชอบ ต่อให้มันเป็นตัวอะไร แต่ว่าทิงรู้สึกว่าบทที่เขาส่งมาแล้วเราอยากเล่น ใจเราได้ ผมก็รับ“ (แต่ถ้าคู่กับมีน ไม่เล่น ?) ”ถ้าเห็นไอ้มีน ก็ไม่เล่น ถ้าเป็นวาย (หัวเราะ)”
เวลาอยู่ด้วยกันแล้วโมเมนต์มันเกิด เคมีมันได้ เราจะปฏิเสธยังไง ? “ก็ปล่อยอย่างนั้นไปดีกว่าพี่ ปล่อยให้มันเป็นธรรมชาติของมันไป” (แล้วถ้าเป็นซีรี่ย์มิตรภาพของเพื่อน ?) แล้วคนดูแบบจิ้นไปเอง ถ้าอย่างนั้นอ่ะได้ ถ้าเป็นแนวเฟรนด์ชิพ เป็นแนวเพื่อนๆ กัน ความสัมพันธ์เพื่อนอะไรอย่างนี้ แล้วปล่อยให้เขาจิ้นไปเองอะไรอย่างนี้ ผมได้”
อย่างล่าสุดที่สัมภาษณ์ไป ก็มีการโอบกัน ? “ไม่.. คือ (ยิ้มเขิน) คือการโอบกันมันเป็นเรื่องปกติของผมกับมีนอยู่แล้ว (หัวเราะ) ผมอยากให้มีนมาช่วยเลย ผมบอกน้องว่าเออช่วงนี้สัมภาษณ์ เวลาพูดไปเรารู้สึกว่าใช่ป่ะวะ มีนบอกพี่ต้องฟังดีๆ นะ เวลาเค้าพูดมันมีศัพท์เยอะนะ มีนบรีฟมาแล้วครับ”
เวลาตอบคำถามเรื่องนี้รู้สึกเขินบ้างไหม ? “รู้สึก เวลาพี่เขาถามผม ผมก็รู้สึกว่าเอ๊ะ.. เหมือนคำถามมันไปได้สองทาง”
ถ้าสมมุติในซีรี่ย์วาย จะมีคู่เป็นพระเอก-นายเอก เราจะเป็น “ทิง-มีน” หรือ “มีน-ทิง” ? “(หัวเราะ) อันนี้ผมยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร” (ข้างหน้าคือพระเอก ข้างหลังคือนายเอก ?) “ เดี๋ยวขอคิดแล้วตอบอีกทีได้ไหม งานหน้าเดี๋ยวผมตอบได้ไหม ผมขอไปคิดดูก่อน เดี๋ยวงานหน้าเดี๋ยวทิงมาตอบ เดี๋ยวผมไปถามน้องก่อนว่ามันต้องเอายังไงครับ (หัวเราะ)“
ความสัมพันธ์กับกระปุกตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เขาว่าเราโสดแล้ว? “คือให้ผมตอบยังไงดีอ่ะ ผมว่ายังก่อนดีกว่าพี่ เดี๋ยวผมค่อยพูดดีกว่าครับ”
โสด ไม่โสด ? “ผมไม่เอาเรื่องส่วนตัวดีกว่าพี่ (ยิ้ม) เดี๋ยวก่อนดีกว่า เอาเรื่องอื่นดีกว่า ผมไม่ค่อยชินพูดเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ครับ”
ยังแฮปปี้ดีไหม? “แฮปปี้ดีมั้ยเหรอ เดี๋ยวค่อยตอบดีกว่าพี่”
คนโฟกัสว่าตอนวันเกิด ก็ไม่โพสอวยพร ? “วันเกิดก็อวยพรอยู่นะครับ”
ตอนนี้โฟกัสงานอย่างเดียว ? “ใช่ครับ ช่วงนี้ผมก็ทำงานอย่างเดียวครับ เพราะว่าปีนี้คุยกับผู้จัดการไว้อยากทำงานหลายอย่าง ช่วงนี้ก็เลยไปทางงานอย่างเดียวเลยครับ”


